เรื่องชั่วช้าของ“นักการเมืองไทย!” (ตอนสอง)

ความผิดทั้งหลายที่ “บิ๊กเหลี่ยม” กระทำนั้น “เขา” ไม่เคยยอมรับความผิดมาตลอด ทว่าหลายเรื่อง “เขา” ต้องจำนนต่อหลักฐาน จนบางคดีศาลได้พิพากษาให้ต้องจำคุก แต่ “บิ๊กเหลี่ยม” ก็หนีไปต่างประเทศ แถมยังประกาศจะไม่เลิกราทำร้ายชาติไทย…

“ถ้าผมไม่มีความสุข ก็อย่าหวังเลยว่าประเทศนี้จะมีความสงบสุข!!!”

อืม...สำหรับเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ “บิ๊กเหลี่ยม” พูดจริงทำจริงเสียด้วยสิ เพราะ “เขา” ได้นัดหมายเจอะเจอผู้คนในเครือข่าย เพื่อปฏิบัติการมุ่งโค่นล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” โดยไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย ในความเสียหายที่เกิดกับชาติและประชาชน

“บิ๊กเหลี่ยม” จึงเป็นทั้งผู้บงการ ทั้งแอบใช้เครือข่ายอธรรมทั้งในและต่างประเทศ มุ่งให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงทางการเมือง ด้วยการก่อการจลาจล หวังให้ขยายกลายเป็น “สงครามกลางเมือง”

การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุด ที่เกิดขึ้นท่ามกลางการทำผิดคำพูดของ “บิ๊กตู่” ที่ไม่ปราบการโกงชาติจริงจัง อีกทั้งไม่ได้ลดความเหลื่อมล้ำในชาติ รวมทั้งไม่ปฏิรูปชาติ แต่กลับจัดให้มีการเลือกตั้งเร็วเกินควร ฯลฯ

เมื่อไร้การแก้ต้นเหตุปัญหาต่างๆ อันเลวร้าย ผลงาน “นายกฯ รัฐประหารบิ๊กตู่” เลย-สอบตก! แม้ผลการเลือกตั้ง “บิ๊กตู่” จะได้เป็น “นายกฯ เลือกตั้ง” แต่รัฐบาลพรรคร่วมแบบร้อยพ่อพันแม่ จึงอ่อนแอไร้เอกภาพเท่าที่ควร ขณะที่พลพรรค “บิ๊กเหลี่ยม” ได้ ส.ส.เขต เข้าสภาฯ เหนือพรรคหนุน “บิ๊กตู่” แถมพรรคตั้งใหม่ของ “บิ๊กทอน” ก็ได้ ส.ส.เข้าสภาฯ มากถึง 80 คนอีกด้วย

ทำให้ “บิ๊กเหลี่ยม” จับมือกับ “บิ๊กทอน” เชื่อมเกมการเมืองได้ทั้งในและนอกสภาฯ จนกดดัน “นายกฯ บิ๊กตู่” ได้น่ากลัวมากยิ่งขึ้น ด้วย “บิ๊กทอน” มีอิทธิพลต่อ “เยาวชนกลุ่มหนึ่ง” แถมยังสร้าง “แกนนำม็อบ” ด้อยความรู้ทางการเมือง แต่ใจกล้าบ้าบิ่นไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

อีกทั้งได้ “กลุ่มอีแอบ” ซึ่งมีทั้ง “นักการเมือง” กับ “นักวิชาการ” และ “ชาติตะวันตกบางชาติ” ชี้นำบงการ-หนุนเสริม “ม็อบ” ให้ยื่นข้อเรียกร้องรัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องลาออก! ต้องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ! และต้อง “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” อีกด้วย

ทว่า...ความต้องการของ “กลุ่มอีแอบ” นั้น แท้จริงมุ่งจะปฏิวัติโค่น “สถาบันพระมหากษัตริย์” โดยใช้ข้อเรียกร้องบังหน้าว่า ขอแค่ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” เท่านั้น

งานนี้ “กลุ่มอีแอบ” หลอก “แกนนำม็อบหลายคน” ให้ใช้ข้อมูลเท็จลวงผู้คน และเยาวชนที่ไม่รู้ทันเล่ห์ร้าย ให้ออกมาชุมนุมกัน ทั้งยังใช้ถ้อยคำอันหยาบช้าจาบจ้วง และหยามหมิ่นเกียรติ “สถาบันพระมหากษัตริย์” ที่ชาวไทยส่วนใหญ่รักเทิดทูนยิ่งชีวิต อีกทั้งยังใช้ท่าทีต่ำทราม เที่ยวประณามผู้คนที่เห็นต่างกับ “ม็อบร้อยชื่อ” อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ “นายกฯ บิ๊กตู่” ประกาศจะใช้กฎหมายทุกมาตรา รวมทั้ง “มาตรา 112” ที่บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี”

ดังนั้น เพื่อปกป้อง “แกนนำม็อบหลายคน” ที่ได้ละเมิดมาตรานี้และอีกหลายมาตราอย่างชัดเจน “กลุ่มอีแอบ” จึงออกมาคัดค้านต่อต้าน กดดันให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยุติการใช้มาตรา 112 กันจ้าละหวั่น

อีกทั้งแรงหนุนจาก “ชาติตะวันตกบางชาติ” กับองค์กร “สิทธิมนุษยชน” ของ “ยูเอ็น” ที่จงใจแสดงความฉลาดน้อยออกมาอย่างน่าเกลียด แทรกแซงการทำผิดกฎหมายของชาติไทย ด้วยข้ออ้างกำมะลอว่า “ไม่สบายใจต่อการใช้มาตรา 112” ของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ต่อ “ม็อบร้อยชื่อ” ซึ่งหมายจะ “โค่นล้มประมุขของชาติไทย” ฯลฯ

โดยแผนชั่วร้ายนี้ถูกแกนนำม็อบ “อานนท์ นำภา” เผยเป้าหมาย “ม็อบร้อยชื่อ” ว่า มุ่งจะเปลี่ยน “ราชอาณาจักร” ให้เป็น “สาธารณรัฐ” ด้วยหวังจะทำให้ “สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย” สูญหายไปจากชาติและชาวไทยอย่างถาวรนั่นเอง

เพื่อบรรลุเป้าหมาย... “กลุ่มอีแอบ” กับ “แกนนำม็อบบางคน” ต้องการให้เกิดความรุนแรงจนสถานการณ์บานปลาย จากจลาจลกลายเป็นสงครามกลางเมือง เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงชาติไทย

แต่ด้วยสื่อส่วนใหญ่และรัฐบาล “บิ๊กตู่” รู้ทันแผนร้ายของ “กลุ่มอีแอบ” กับ “แกนนำม็อบบางคน” “นายกฯ บิ๊กตู่” จึงปล่อยให้ “ม็อบร้อยชื่อ” แสดงความกักขฬะอย่างขาดสติ จน “ม็อบร้อยชื่อ” สิ้นความชอบธรรม ผู้เข้าร่วมชุมนุมลดลงเรื่อยๆ ขณะที่ชาวไทยออกมาชุมนุม แสดงความภักดีอย่างล้นหลามต่อ “สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย” มิขาดสาย...

อีกทั้งผลเลือกตั้ง “นายก อบจ.” ครั้งล่าสุด ชาวไทยได้ต่อต้าน “กลุ่มคนล้มเจ้า” ทุกหนแห่ง ทำให้ “กลุ่มคนล้มเจ้า” พ่ายแพ้ยับเยิน ไม่ได้ “นายก อบจ.” แม้แต่เขตเดียว!!!

แต่ศึกการเมืองเรื่องแย่งชิงอำนาจรัฐ ใช่ว่าจะจบลงแบบง่ายดาย เพราะ “ม็อบร้อยชื่อ” ยังขยันร้อยความเพ้อฝัน เดี๋ยวฝันจะเป็นประชาธิปไตยทุนสามานย์ เดี๋ยวฝันจะเป็นสาธารณรัฐ เดี๋ยวฝันจะเป็นคอมมิวนิสต์ ฯลฯ เรียกว่า...ม็อบฝันมั่วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ทำเอาเยาวชนหดหาย-ต้องอาศัยคนเสื้อแดงมาแทนที่ ฯลฯ

“ม็อบร้อยชื่อ” กำลังแตกคอกัน แต่ยังดื้อดันทุรังจะชุมนุมต่อไปในปี 2564!

ส่วนนักการเมืองกลุ่มพรรคสาย “ล้มเจ้า” ก็กำลังแตกแยกร้าวลึกกันมากขึ้นเรื่อยๆ!!

ทว่า...หาก “นายกฯ บิ๊กตู่” ยังบริหารชาติแบบเดิมๆ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ยากที่จะแข็งแรงมั่นคง...จริงไหม?

นี่แหละ-ความชั่วของนักการเมืองทั้งเลือกตั้งและรัฐประหาร ที่ไม่ได้รักชาติรักประชาชนอย่างแท้จริง?!