“ดร.นิว” ชำแหละแผน 5 ขั้นของ “ตี๋ฮ่องเต้ซินโดรม” ปีหน้าปลุกความรุนแรงสู่สงครามกลางเมือง บีบให้เกิดรัฐประหารเพื่อปลุกประชาชนออกมาสู้จนเกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ จากนั้นดึงต่างชาติเข้าแทรกแซงเต็มรูปแบบ
วันที่ 12 ธ.ค. 2563 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas โพสต์เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ระบุว่า ...
ของขวัญปีหน้า 2564
แผน 5 ขั้นของฮ่องเต้ซินโดรม
เหตุผลสำคัญที่ช่วงนี้ม็อบซาลง เพราะเจ้าของม็อบหันไปมุ่งสนามเลือกตั้งท้องถิ่น หวังให้เป็นฐานที่มั่นในการซ่องสุมกำลังและเผยแพร่ชุดความคิดบิดเบือน จากเม็ดเงินภาษีของประชาชนโดยไม่ต้องลงทุนเอง เป็นประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อปลุกระดมให้เกิดการลุกฮือตลอดจนการก่อจลาจลลุกลามไปทั่วประเทศ
ขั้นที่ 1 สร้างสถานการณ์ความรุนแรง
เมื่อปลุกม็อบอย่างไรก็ปลุกไม่ขึ้น จนถึงขั้นต้องงัดไพ่สาธารณรัฐและคอมมิวนิสต์ออกมาเพื่อดึงแนวร่วมล้มเจ้าหัวรุนแรงทั้งหมด ในที่สุดก็คงหนีไม่พ้นไพ่ใบสุดท้ายของการปลุกม็อบ คือ การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ก่อความสูญเสียตลอดจนสังเวยชีวิตมวลชนม็อบของตัวเอง แล้วโยนบาปสร้างความเกลียดชังให้เกิดการลุกฮือในวงกว้าง โดยใช้สื่อทั้งหมดที่มีอยู่ในมือปั่นกระแสบิดเบือนปลุกระดม
ขั้นที่ 2 ก่อจลาจลสู่สงครามกลางเมือง
ไอ้ตี๋ฮ่องเต้ซินโดรมผู้เป็นเจ้าของม็อบตัวจริงเคยกล่าวไว้กับบรรดาคนใกล้ตัวว่า ต่อให้ต้องทำให้กรุงเทพฯเป็นแบบสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาก็ยอม เพราะการก่อจลาจลไปสู่สงครามกลางเมืองจะเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่สามารถเบิกทางไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของแผนล้มล้างการปกครอง
ขั้นที่ 3 บีบให้เกิดการรัฐประหาร
ไอ้ตี๋ฮ่องเต้ซินโดรมนี่แหละที่ต้องการการรัฐประหารมากที่สุด เพราะการรัฐประหารจะนำมาซึ่งโอกาสในการนองเลือดครั้งใหญ่ตามที่เขาต้องการมาโดยตลอด ยิ่งนองเลือดมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งสามารถโยนบาปสร้างความชอบธรรมในการล้มล้างการปกครองได้มากขึ้นเท่านั้น
ขั้นที่ 4 ปลุกสงครามปฏิวัติประชาชนแบบรุนแรง
หากเกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อไหร่ ก็จะเข้าพล็อตเรื่องที่เขาวางไว้ตั้งแต่ต้นทันที คือ การปลุกระดมมวลชนให้ออกมาสู้ตายต้านรัฐประหารอย่างที่พวกเขาชอบพูดอยู่เป็นประจำ ทั้งหมดเพื่อการนองเลือดและโยนบาปสร้างความเกลียดชัง เพิ่มความชอบธรรมในการการล้มล้างการปกครองให้ถึงขีดสุด หวังการลุกฮือเลียนแบบการปฏิวัติประชาชนแบบรุนแรงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในฝรั่งเศสและรัสเซีย
ขั้นที่ 5 เรียกร้องการแทรกแซงจากต่างชาติ
ไอ้ตี๋ฮ่องเต้ซินโดรมทราบดีว่าไม่สามารถที่จะชนะกองทัพไทยได้ นี่คือเหตุผลสำคัญว่าทำไมไอ้ตี๋ฮ่องเต้ซินโดรมจึงต้องบีบสถานการณ์ไปสู่การรัฐประหาร เพราะมีแต่การนองเลือดครั้งใหญ่เท่านั้น ที่ประเทศมหาอำนาจตะวันตกจะใช้เป็นข้ออ้างของการละเมิดสิทธิมนุษยชนเข้ามาแทรกแซงได้อย่างเต็มรูปแบบ
ในฐานะประชาชนคนไทย เราต่างมีหน้าที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในสถานการณ์ครั้งนี้
1. หยุดยั้งแผนการของไอ้ตี๋ฮ่องเต้ซินโดรม ที่แอบอ้างประชาธิปไตยหลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือไปสู่อำนาจ
2. ปกป้องชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และรักษาไว้ซึ่งสถาบันสำคัญของชาติ
3. นำพาประเทศชาติพ้นภัยไปสู่อนาคตที่ศิวิไลซ์ร่วมกัน