xs
xsm
sm
md
lg

อิหร่าน...กับการลบอิสราเอลออกจากแผนที่!!!

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท



ไหนๆ เปิดฉากสัปดาห์นี้...ด้วยการชวนไปดูแนวรบแนวแรก คือ “แนวรบยุโรปตะวันออก” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เลยหนีไม่พ้นต้องชวนไปตรวจสอบแนวรบแนวที่สอง อย่าง “แนวรบตะวันออกกลาง” เอาไว้มั่ง เพราะช่วงเท่าที่ผ่านมา ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงในแง่รายละเอียดอยู่พอประมาณ โดยที่ฉากสถานการณ์หลักๆ คงไม่ได้มีอะไรผิดแผกแตกต่างไปจากเดิม คือคงหนีไม่พ้นต้อง “เจ๊งกันไปข้าง” ระหว่างคู่ต่อสู้รายสำคัญๆ อย่างคุณปู่อิสราเอล ที่มีคุณพ่ออเมริกาหนุนหลังแบบเต็มสูบ เต็มด้าม กับคุณน้าอิหร่าน ที่เยิ่นกันไป-กันมา จนน่าจะหายใจทางปากและทางเหงือกไปด้วยกันทั้งคู่...

คือถ้าดูโดยภาพรวมๆ หรือภาพอย่างเป็นทางการ...กระบวนการ “สันติภาพตามแบบฉบับอเมริกา” หรือ “Pax Americana” อะไรประมาณนั้น ที่ยึดเอาผลประโยชน์ของอิสราเอลเป็นตัวตั้ง ก็ดูจะคืบหน้าไปแล้ว ไปโลด อยู่พอสมควร อันเนื่องมาจากฝีมือการบริหารจัดการ และการ “ล็อบบี้” อย่างฉกาจฉกรรจ์ไม่น้อยทีเดียว โดย “ลูกเขยชาวยิว”ของประธานาธิบดีอเมริกัน หรือ “นายจาเร็ด คุชเนอร์” (Jared Kushner) เป็นตัวหลัก ที่นอกจากให้การรับรองกรุงเยรูซาเล็มในฐานะเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างสมบูรณ์แบบ ยกที่ราบสูงโกลันของซีเรียให้เป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล การขับเคลื่อนกระบวนสันติภาพในตะวันออกกลางตามแผนการที่เรียกขานกันในนาม “ข้อตกลงแห่งศตวรรษ” (Deal of the Century) ที่จะมัดมือ มัดเท้า รัฐปาเลสไตน์ ให้ต้องกลายสภาพเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลไปโดยปริยาย โดยคิดผนวกเอาดินแดน “เวสต์ แบงก์” เข้าไปในตอนไหน เมื่อไหร่ ก็คงไม่ได้ถือเป็นปัญหาใดๆ อีกต่อไปแล้ว คงต้องยอมรับว่า...ออกจะเป็นอะไรที่ “คืบหน้า” ไปพอสมควร และถือเป็นการ “เตะตัดขา” คู่ต่อสู้หลักๆ อย่างอิหร่านให้อาจต้องแห้งโหยโรยรา ไปตามสภาพ...

อย่างน้อย...ก็สามารถทำให้บรรดา “ชาติอาหรับ” ไม่น้อยกว่า 4 ชาติเข้าไปแล้ว หันมา “แยกวง” จากพันธะทางใจที่เคยมีอยู่กับบรรดาชาวปาเลสไตน์ หรือพี่ๆ น้องๆ ผู้ร่วมอยู่ใน “ภราดรภาพ” แห่งชาวมุสลิมทั้งหลาย ด้วยการกลับไปสถาปนาสัมพันธภาพระดับปกติ (normalization) กับอิสราเอลอย่างเป็นทางการ โดยชาติอย่าง “บาห์เรน” และ “ยูเออี” นั้น...คงไม่มีอะไรมากไปกว่าความเป็นประเทศ “บริวาร” ของพี่เบิ้มรายใหญ่แห่งตะวันออกกลางอย่าง “ซาอุดีอาระเบีย” ที่ไม่ปรารถนาและต้องการที่จะเห็นประเทศอิหร่านผงาดขึ้นมาเป็นพี่เบิ้มอีกรายโดยเด็ดขาด โดยอาจมีความเป็น “ซุนหนี่” หรือ “ชีอะห์” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อันนั้น...คงต้องปล่อยให้พวก “นักการศาสนา” เขาไปเถียงกันเอง แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามที่สามารถทำให้อิหร่านอ่อนเปลี้ย เพลียแรงแม้แต่ “ศัตรูของศัตรู” ก็อาจกลายเป็น “มิตร” ได้ไม่ยากส์ส์ส์ การหันไป “จูบปาก” กับอิสราเอลของ 2 ชาติที่ว่านี้ จึงไม่ถึงกับถือเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นที่รู้ๆ กันมาโดยตลอด...

แต่การทำให้ชาติอาหรับอย่าง “ซูดาน” และ “โมร็อกโก” หันมา “เห็นควรด้วย” กับสิ่งเหล่านี้นี่สิ!!! ต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า ออกจะเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่าทุเรศอยู่พอสมควร สำหรับซูดานนั้น...ว่ากันว่า เพื่อแลกกับการถูกถอดชื่อจาก “บัญชีดำ” ของอเมริกาในฐานะประเทศผู้ก่อการร้าย ส่วนโมร็อกโก...ที่ยังเคยมีปัญหาไม่ลงล็อก ลงตัวอยู่กับบรรดาผู้คนพลเมืองไม่น้อยกว่า 500,000 คน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แถบด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกาที่เรียกๆ กันว่า “ซาฮาราตะวันตก” หรือผู้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกลุ่มก้อน องค์กร ที่เรียกขานกันในนาม “SADR” (Saharawi Arab Democratic Republic) ในอาณาบริเวณพื้นที่เกือบ 266,000 ตารางกิโลเมตร หรือพื้นที่เกือบ 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับพื้นที่ประเทศโมร็อกโก ซึ่งแม้ว่ายังไม่อาจจัดตั้งประเทศของตัวเองขึ้นมาได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล แต่ก็ถือกันว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของโมร็อกโก จนแม้แต่เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมานี่เอง ก็ยังไม่มีประเทศใดๆ ในสหประชาชาติยอมให้การรับรองต่อสิทธิในการควบคุมพื้นที่ดังกล่าวของโมร็อกโกเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ด้วยเหตุเพราะการยึดเอาผลประโยชน์อิสราเอลเป็นตัวตั้ง ตามแบบฉบับ “Pax Americana” นั่นเอง จู่ๆ...คุณพ่ออเมริกาก็ออกมาประกาศรับรองอำนาจอธิปไตยโมร็อกโกเหนือดินแดน “ซาฮาราตะวันตก” แลกเปลี่ยนกับการหันรื้อฟื้นสัมพันธภาพโดยปกติกับอิสราเอล แบบดื้อๆ ทื่อๆ เอาเลยถึงขั้นนั้น...

ดังนั้น...ถ้าดูกันจากภาพภายนอก คุณปู่อิสราเอลท่านน่าจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นๆ อย่างมิอาจปฏิเสธ และนั่นก็อาจทำให้ศัตรูคู่กัด คู่อาฆาต อย่างคุณน้าอิหร่าน น่าจะอ่อนเปลี้ย เพลียแรง ทั้งในระยะสั้นและระยาว ไม่ว่าโดยการแซงชั่นขั้นสูงสุด หรือโดยการรุกคืบทางการเมือง การทูต และการทหารก็ตามที แต่กระนั้นก็ตาม...ถ้ามองลึกลงไปถึงระดับริดสีดวงทวารแล้ว ก็คงต้องยอมรับอีกนั่นแหละว่า ไม่ว่าคุณปู่อิสราเอล หรือคุณพ่ออเมริกา นับวันยิ่งออกอาการ “กลวงใน” ไปด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะคุณพ่ออเมริกานั้น...แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง เอ่ยถึง ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้แต่การทหาร นับวันยิ่งหนักไปทาง “สาละวัน...เตี้ยลง-เตี้ยลง” ยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งผู้นำอเมริกา อย่าง “ทรัมป์บ้า” ที่บรรดาชาวอิสราเอลกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ออกแรงยุ แรงเชียร์ ชนิดสนั่นหวั่นไหว ดัน “แห้วกระป๋อง” ขึ้นมาซะดื้อๆ!!! ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีรายใหม่ อย่าง “ผู้เฒ่าโจ” ทำท่าว่าอยากจะกลับไปนั่งโต๊ะเจรจากับคุณน้าอิหร่าน ในเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์กันอีกสักรอบ บรรดาสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้นักการเมืองในอิสราเอล ออกอาการ “บวดหัว” ชนิดยา “บวดหาย” ใดๆ แทบเอาไม่อยู่...

อีกทั้งรัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “เบนจามิน เนทันยาฮู” ที่ต้องหันไป “เลือกตั้ง” รอบแล้ว รอบเล่า ปาเข้าไป 3 รอบเข้าไปแล้ว ถึงจะเพิ่งจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติเป็นตัว เป็นตน ขึ้นมาได้มั่ง มาถึง ณ ขณะนี้...แนวโน้มว่าอาจต้องกลับไปเลือกตั้งรอบที่ 4 คงมิอาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป เหลือจะกำหนดวัน กำหนดวาระกันในตอนไหน เมื่อไหร่เท่านั้นเองเพราะการทะเลาะเบาะแว้งกันภายในรัฐบาลแห่งชาติ กลายเป็นอะไรที่เหลือทน เกินทน ต่อไปอีกแล้ว โดยคราวนี้...พันธมิตรฝ่ายขวา หรือฝ่ายซ้าย จะเป็นฝ่ายช่วงชิงโอกาสและชัยชนะ ก็ยังมิอาจคาดคำนวณได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...การสูญเสีย “เพื่อนที่ดีที่สุดของชาวอิสราเอล” อย่าง “ทรัมป์บ้า” และการต้องคอยกด คอยบีบ คอยต่อรอง-เจรจา กับ “ผู้เฒ่าโจ” ให้ดำเนินไปตามแนวทางของ “Deep State” ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ ยิ่งบรรดาพวก “นักสิทธิมนุษยชน” หรือบรรดาพวกปีกซ้าย ในพรรคเดโมแครตช่วงนี้ ชักมาแรงแซงโค้งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แค่เฉพาะเรื่อง “ปมสังหาร” กรณีนักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุฯ “นายจามาล คาช็อกกี” เพียงเรื่องเดียว ก็อาจทำให้ “ศัตรูของศัตรู” อย่างซาอุดีอาระเบีย ถูกไล่บด ไล่บี้ จนไม่อาจ “สร้างปัญหา” ให้กับศัตรูของอิสราเอลอย่างอิหร่าน ได้ถนัดถนี่สักเท่าไหร่...

และที่สำคัญก็คือ...แม้ถูก “แซงชั่นขั้นสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์” แต่ศัตรูคู่กัดของอิสราเอลอย่างอิหร่านทุกวันนี้ กลับยังพออยู่ได้ อยู่สบาย ไม่เพียงแต่ฉวยจังหวะรุก ชนิดแทบส่งผลให้ “ทหารอเมริกัน” ในอิรักที่เหลืออยู่แค่ 2,500 คน อาจไม่เหลือติดประเทศอีกไม่นานเอาเลยก็ไม่แน่!!! บทบาทและอิทธิพลที่กำลังเพิ่มขึ้นๆ ในอิรัก ซีเรีย เลบานอน ไปจนถึงอัฟกานิสถาน ฯลฯ แม้แต่การหันไปเซ็งลี้ ค้าๆ-ขายๆ กับเวเนซุเอลา และบรรดาประเทศในละตินอเมริกา ก็กำลังคืบหน้าไปได้สวย ไปด้วยดี ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ กองกำลังทหารบ้านชาวชีอะห์ในอิรัก กองกำลังกบฏฮูตีในเยเมน กองกำลังอาสาสมัครที่ปรึกษาทางทหารในซีเรีย ไปจนถึงกองกำลังเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน กองกำลังฮามาสในปาเลสไตน์ ฯลฯ ไม่เพียงแต่ไม่คิดจะไป “normalization” ใดๆ กับอิสราเอลเท่านั้น แต่ยังพร้อมที่จะ “ลบประเทศอิสราเอลออกจากแผนที่” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!




กำลังโหลดความคิดเห็น