ผู้จัดการรายวัน360- โฆษกอัยการแจงสำนวนคดีจ่ายเงิน 20 ล้าน ติดสินบนเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯนั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อหา“สกุลธร” คาดว่าจะรวบรวมหลักฐานในเร็วๆ นี้ "วัชระ"ร้อง"กมธ.กฎหมาย" บี้สอบ "น้องธนาธร" แฉช่วงเกิดเรื่อง "ธนาธร"ก็เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทด้วย ด้าน‘สิระรับลูกคาดชงเรื่องเข้าพิจารณา16 ธ.ค.นี้
วานนี้ (9ธ.ค.) นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์, นายประยุทธ เพชรคุณ, นางสันทนี ดิษยบุตร และนายจิตภัทร พุ่มหิรัญ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงชี้แจงกรณีมีการเสนอข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้อง และไม่ดำเนินคดี นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ขอชี้แจงดังนี้
1. คดีนี้สืบเนื่องจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 4 ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (สำนักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งพนักงานสอบสวน โดยมอบหมายให้ทำการสอบสวนคดีนี้ต่อไป ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 วรรค 2 เมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 คดีระหว่าง นายอิศรา จารุวณิชกุล ผู้กล่าวหา นายประสิทธิ์ ภัยพลชาญ ผู้ต้องหาที่ 1 นายสุรกิจ ตั้งวิทวนิช ผู้ต้องหาที่ 2 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองว่า ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม และร่วมกันเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย ให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่ เหตุเกิดช่วงเดือนมี.ค.-พ.ย.60 ต่อเนื่องกัน ในท้องที่แขวงดุสิต เขตดุสิต และแขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
2. พนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง โดยข้อเท็จจริงทางคดีได้ความว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันปลอมหนังสือราชการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จำนวน 2 ฉบับ แล้วนำไปใช้แสดงต่อ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีที่ดินจะให้เช่าเพื่อทำธุรกิจจำนวน 2 แปลง จนนายสกุลธร ตกลงว่าจ้างและได้จ้างผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้แทนดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ในวงเงินสัญญาจ้าง 500 ล้านบาท และได้จ่ายเงินให้แล้วบางส่วน จำนวน 3 ครั้ง เป็นจำนวน 20 ล้านบาท สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทราบข้อเท็จจริง จึงมอบอำนาจให้นายอิศรา จารุวณิชกุล ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้งสอง โดยในส่วนของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ พนักงานสอบสวนไม่ได้ตั้งเป็นผู้ต้องหา แต่ได้สรุปในรายงานการสอบสวนว่า จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อนายสกุลธร ตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า สำนวนของนายสกุลธร อยู่ในระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวนว่า เป็นความผิดทางอาญาฐานให้สินบนหรือไม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในอำนาจของอัยการ เป็นขั้นตอนของเจ้าพนักงานในแต่ละส่วน โดยในชั้นนี้ ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยว่าเป็นความผิดหรือไม่ ดังนั้นการที่มีข่าวออกมาว่า อัยการสั่งไม่ฟ้องนายสกุลธรนั้น จึงเป็นข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อน
"ตำรวจกำลังสอบสวนตามขั้นตอนอย่างอิสระ เช่นเดียวกับอัยการ เราจะไม่ลงไปสอบถาม ซึ่งจะใกล้เคียงกับการล้วงลูก เราจะไม่ทำเช่นนั้น” นายชาญชัย กล่าว
เมื่อถามว่า เมื่อในคำพิพากษาระบุถึงการให้สินบนนั้น จะถือเป็นพยานหลักฐานที่อัยการจะนำมาพิจารณาได้หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า โดยในคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนหน้านี้ก็พิพากษาได้เท่าที่มีการกล่าวหาฟ้องร้องกัน เมื่อมีการกล่าวหาแค่เรื่องเรียกสินบน ศาลก็พิพากษาได้เท่านั้น ส่วนข้อเท็จจจริงที่ปรากฏในคำพิพากษา เป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนเห็นอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะไม่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของพยานหลักฐาน เพราะพนักงานสอบสวนไปตรวจได้อยู่แล้ว
ร้อง"กมธ.กฎหมาย" บี้สอบ"น้องธนาธร"
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือถึง คณะกรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.การกฎหมายฯ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณี นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด น้องชาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้เงินเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) จำนวน 20 ล้านบาท แลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยไม่ผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มาแล้ว
นายวัชระ กล่าวว่า มายื่นเรื่องต่อกมธ.การกฎหมายฯ เพื่อขอให้บรรจุเรื่องดังกล่าว เพื่อค้นหาความยุติธรรม เนื่องประชาชนมีความสงสัยว่า เหตุใดพนักงานสอบสวน จึงไม่มีการสั่งฟ้องนายสกุลธร จะเป็นการซ้ำรอยคดีบอสกระทิงแดง หรือไม่ ซึ่งก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ขณะเดียวกันตนยังมีข้อสังเกตว่า นายธนาธร ได้ถือหุ้น ในบริษัท เรียล แอสเสทฯ ในช่วงที่มีการติดสินบนเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ หรือไม่ ซึ่งขณะเกิดเหตุ การกระทำผิดตามคำพิพากษานี้ คือเดือนมี.ค.60 - 18 ก.ย.60 บริษัทเรียลแอทเสทฯ ได้แสดงบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 60 ลำดับที่1 นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (มารดาของนายธนาธร และนายสกุลธร) ลำดับที่ 2 นายธนาธร (บุตรชายคนโตของนางสมพร และพี่ชายของนายสกุลธร) และลำดับที่ 6 นายสกุลธร
"ทางตำรวจ และอัยการ จะดำเนินการต่อนายสกุลธรหรือไม่ อย่างไร จึงขอให้ กมธ.การกฎหมายเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อไป" นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวว่า หลังจากตนยื่นเรื่องต่อตำรวจ และอัยการ ขณะนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับจากหน่วยงานดังกล่าวแต่อย่างใด เมื่อเห็นความเหลื่อมล้ำ ทำไมลูกคนรวยมีอำนาจ ไม่ถูกดำเนินคดี หลุดแทบทุกคดี เช่น กรณีของ บอส กระทิงแดง นายพานทองแท้ ชินวัตร และบุตรหลานของผู้มีอิทธิพล ทำไมตำรวจ อัยการ ทำงานแบบนี้ มีการวิ่งตำรวจ อัยการหรือไม่ สังคมไทยรู้อยู่ จึงต้องมีการปฏิรูปหน่วยงานเหล่านี้ด้วย
เมื่อถามว่า การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองเลยแม้แต่น้อย เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ต้องการค้นหาความจริง และตนเคลื่อนไหวเรื่องเหล่านี้มาตลอด
ด้านนายสิระ กล่าวว่า คาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ. ได้ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ โดยจะเชิญฝั่งของนายสกุลธร มาให้ข้อมูลด้วย จะสอบถามว่า รอดได้อย่างไร ใช้วิธีไหนถึงไม่ผิด ส่วนนายธนาธร จะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ต้องขอตรวจสอบก่อน ถ้าทำในนามบริษัท ตนก็จะเชิญทั้งตระกูล ก็ขอให้ครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ สบายใจได้ในเรื่องนี้ เพราะมี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยู่ในกมธ.ด้วย ถือว่าเป็นลูกน้องเก่าของนายธนาธร เราจะหาความยุติธรรม ตรวจสอบเรื่องนี้ ทั้งด้านกฎหมาย ผู้บังคับใช้กฎหมาย หากพบว่ามีการละเว้น ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง ถ้าถามว่ายื่นเรื่องช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ ถ้าพบว่าผิดจะยื่นเวลาใดก็ได้ แต่ต้องดูเนื้อหา กระบวนการมีปัญหาหรือไม่ คนรวยไม่ต้องติดคุก คนจนติดคุกหรือไม่
"ถ้านายธนาธร หาเสียงเรียกร้องในเรื่องความโปร่งใส เสมอภาค วันนี้ก็ต้องให้ความร่วมมือผม น้องชายเหลื่อมล้ำมั้ย มีตังค์ใช่มั้ย ทำยังไงหลุดคดี ไม่ติดคุก" นายสิระ กล่าว
วานนี้ (9ธ.ค.) นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์, นายประยุทธ เพชรคุณ, นางสันทนี ดิษยบุตร และนายจิตภัทร พุ่มหิรัญ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงชี้แจงกรณีมีการเสนอข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้อง และไม่ดำเนินคดี นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ขอชี้แจงดังนี้
1. คดีนี้สืบเนื่องจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 4 ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (สำนักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งพนักงานสอบสวน โดยมอบหมายให้ทำการสอบสวนคดีนี้ต่อไป ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 วรรค 2 เมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 คดีระหว่าง นายอิศรา จารุวณิชกุล ผู้กล่าวหา นายประสิทธิ์ ภัยพลชาญ ผู้ต้องหาที่ 1 นายสุรกิจ ตั้งวิทวนิช ผู้ต้องหาที่ 2 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองว่า ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม และร่วมกันเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย ให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่ เหตุเกิดช่วงเดือนมี.ค.-พ.ย.60 ต่อเนื่องกัน ในท้องที่แขวงดุสิต เขตดุสิต และแขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
2. พนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง โดยข้อเท็จจริงทางคดีได้ความว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันปลอมหนังสือราชการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จำนวน 2 ฉบับ แล้วนำไปใช้แสดงต่อ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีที่ดินจะให้เช่าเพื่อทำธุรกิจจำนวน 2 แปลง จนนายสกุลธร ตกลงว่าจ้างและได้จ้างผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้แทนดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ในวงเงินสัญญาจ้าง 500 ล้านบาท และได้จ่ายเงินให้แล้วบางส่วน จำนวน 3 ครั้ง เป็นจำนวน 20 ล้านบาท สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทราบข้อเท็จจริง จึงมอบอำนาจให้นายอิศรา จารุวณิชกุล ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้งสอง โดยในส่วนของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ พนักงานสอบสวนไม่ได้ตั้งเป็นผู้ต้องหา แต่ได้สรุปในรายงานการสอบสวนว่า จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อนายสกุลธร ตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า สำนวนของนายสกุลธร อยู่ในระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวนว่า เป็นความผิดทางอาญาฐานให้สินบนหรือไม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในอำนาจของอัยการ เป็นขั้นตอนของเจ้าพนักงานในแต่ละส่วน โดยในชั้นนี้ ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยว่าเป็นความผิดหรือไม่ ดังนั้นการที่มีข่าวออกมาว่า อัยการสั่งไม่ฟ้องนายสกุลธรนั้น จึงเป็นข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อน
"ตำรวจกำลังสอบสวนตามขั้นตอนอย่างอิสระ เช่นเดียวกับอัยการ เราจะไม่ลงไปสอบถาม ซึ่งจะใกล้เคียงกับการล้วงลูก เราจะไม่ทำเช่นนั้น” นายชาญชัย กล่าว
เมื่อถามว่า เมื่อในคำพิพากษาระบุถึงการให้สินบนนั้น จะถือเป็นพยานหลักฐานที่อัยการจะนำมาพิจารณาได้หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า โดยในคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนหน้านี้ก็พิพากษาได้เท่าที่มีการกล่าวหาฟ้องร้องกัน เมื่อมีการกล่าวหาแค่เรื่องเรียกสินบน ศาลก็พิพากษาได้เท่านั้น ส่วนข้อเท็จจจริงที่ปรากฏในคำพิพากษา เป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนเห็นอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะไม่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของพยานหลักฐาน เพราะพนักงานสอบสวนไปตรวจได้อยู่แล้ว
ร้อง"กมธ.กฎหมาย" บี้สอบ"น้องธนาธร"
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือถึง คณะกรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.การกฎหมายฯ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณี นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด น้องชาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้เงินเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) จำนวน 20 ล้านบาท แลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยไม่ผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มาแล้ว
นายวัชระ กล่าวว่า มายื่นเรื่องต่อกมธ.การกฎหมายฯ เพื่อขอให้บรรจุเรื่องดังกล่าว เพื่อค้นหาความยุติธรรม เนื่องประชาชนมีความสงสัยว่า เหตุใดพนักงานสอบสวน จึงไม่มีการสั่งฟ้องนายสกุลธร จะเป็นการซ้ำรอยคดีบอสกระทิงแดง หรือไม่ ซึ่งก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ขณะเดียวกันตนยังมีข้อสังเกตว่า นายธนาธร ได้ถือหุ้น ในบริษัท เรียล แอสเสทฯ ในช่วงที่มีการติดสินบนเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ หรือไม่ ซึ่งขณะเกิดเหตุ การกระทำผิดตามคำพิพากษานี้ คือเดือนมี.ค.60 - 18 ก.ย.60 บริษัทเรียลแอทเสทฯ ได้แสดงบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 60 ลำดับที่1 นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (มารดาของนายธนาธร และนายสกุลธร) ลำดับที่ 2 นายธนาธร (บุตรชายคนโตของนางสมพร และพี่ชายของนายสกุลธร) และลำดับที่ 6 นายสกุลธร
"ทางตำรวจ และอัยการ จะดำเนินการต่อนายสกุลธรหรือไม่ อย่างไร จึงขอให้ กมธ.การกฎหมายเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อไป" นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวว่า หลังจากตนยื่นเรื่องต่อตำรวจ และอัยการ ขณะนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับจากหน่วยงานดังกล่าวแต่อย่างใด เมื่อเห็นความเหลื่อมล้ำ ทำไมลูกคนรวยมีอำนาจ ไม่ถูกดำเนินคดี หลุดแทบทุกคดี เช่น กรณีของ บอส กระทิงแดง นายพานทองแท้ ชินวัตร และบุตรหลานของผู้มีอิทธิพล ทำไมตำรวจ อัยการ ทำงานแบบนี้ มีการวิ่งตำรวจ อัยการหรือไม่ สังคมไทยรู้อยู่ จึงต้องมีการปฏิรูปหน่วยงานเหล่านี้ด้วย
เมื่อถามว่า การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองเลยแม้แต่น้อย เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ต้องการค้นหาความจริง และตนเคลื่อนไหวเรื่องเหล่านี้มาตลอด
ด้านนายสิระ กล่าวว่า คาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ. ได้ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ โดยจะเชิญฝั่งของนายสกุลธร มาให้ข้อมูลด้วย จะสอบถามว่า รอดได้อย่างไร ใช้วิธีไหนถึงไม่ผิด ส่วนนายธนาธร จะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ต้องขอตรวจสอบก่อน ถ้าทำในนามบริษัท ตนก็จะเชิญทั้งตระกูล ก็ขอให้ครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ สบายใจได้ในเรื่องนี้ เพราะมี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยู่ในกมธ.ด้วย ถือว่าเป็นลูกน้องเก่าของนายธนาธร เราจะหาความยุติธรรม ตรวจสอบเรื่องนี้ ทั้งด้านกฎหมาย ผู้บังคับใช้กฎหมาย หากพบว่ามีการละเว้น ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง ถ้าถามว่ายื่นเรื่องช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ ถ้าพบว่าผิดจะยื่นเวลาใดก็ได้ แต่ต้องดูเนื้อหา กระบวนการมีปัญหาหรือไม่ คนรวยไม่ต้องติดคุก คนจนติดคุกหรือไม่
"ถ้านายธนาธร หาเสียงเรียกร้องในเรื่องความโปร่งใส เสมอภาค วันนี้ก็ต้องให้ความร่วมมือผม น้องชายเหลื่อมล้ำมั้ย มีตังค์ใช่มั้ย ทำยังไงหลุดคดี ไม่ติดคุก" นายสิระ กล่าว