เชียงใหม่ผวาสาวติดเชื้อโควิด-19 ทำ ศก.ท่องเที่ยวพัง เผยตรวจกลุ่มเสี่ยง170 ราย ผลยังเป็นลบ ด้านผู้ว่าฯเชียงราย สั่งล่าแก๊งขนคนลอบข้ามฝั่ง เผยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 49 ราย ส่วนที่ท่าขี้เหล็ก สั่งปิดโรงแรมฯต้นตอแพร่เชื่อ -ล็อกดาวน์ 3 หมู่บ้าน
หลังจากกรมควบคุมโรค ยืนยันว่าหญิงสาววัย 29 ปี ที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งลักลอบไปทำงานในฝั่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) แล้วลักลอบกลับเข้ามาทาง จ.เชียงราย และมาที่ จ.เชียงใหม่ แถมยังไปเที่ยวสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า ทั้งๆที่รู้ตนเองมีอาการป่วย และอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จนกระทั่งเข้าตรวจ และพบเชื้อในที่สุด ทำให่ช่วง 3 วันที่ผ่าน มาหลายหน่วยงานที่เกี่ยวต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อควบคุมโรค นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว เกิดความตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวลดวูบ ไม่ไปในสถานที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่างๆ
เชียงใหม่ตรวจ 170 รายผลเป็นลบ
นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าของทีมสอบสวนโรค และค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสทั้งหมด 306 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 149 ราย และผู้สัมผัสอื่นๆ 72 ราย ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว 88 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 85 ราย ผลการตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ 82 ราย แต่ยังคงต้องติดตามตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก3 ราย คือผู้ที่โดยสารรถประจำทางเชียงราย-เชียงใหม่ ในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 11.00 –15.00 น. จำนวน 2 ราย และคนขับรถ Grab Car รับไปส่งที่คาราโอเกะ ในคืนวันที่ 24 พ.ย. ขอให้ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ที่โทร 084-8053131 , 084-8052121
ผู้ว่าฯเชียงรายสั่งคุมเข้มชายแดน
วานนี้ (29พ.ย.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย ได้เรียกประชุมด่วน คณะทำงาน ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย หลังพบผู้ติดเชื้อที่เชียงใหม่ 1 ราย มีประวัติลักลอบข้ามพรมแดนมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ผ่าน อ.แม่สาย จ .เชียงราย เมื่อ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติ ยังไม่ปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ที่ ท่าขี้เหล็ก แต่จะขอความร่วมมือทางการเมียนมา ในการสุ่มตรวจคนขับรถบรรทุกชาวเมียนมา หลังจากที่ผ่านมามีการตรวจเฉพาะคนไทย และจำกัดไม่ให้ชาวเมียนมาขับผ่านพรมแดนเข้ามาสู่ชั้นใน
นายประจญ กล่าวว่าได้รับแจ้ง มีขบวนการขนคนข้ามมาจากฝั่งเมียนมา และพาไปส่งที่พัก หรือสถานที่ต่างๆ และหัวหน้าเป็นชาวต่างด้าวที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนฝั่งไทย จึงได้มอบข้อมูลให้ พ.ต.อ.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำไปสืบสวนสอบสวน เพื่อทลายขบวนการนี้ให้ได้ เพราะเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการลักลอบเข้ามาของหญิงสาวที่พบติดเชื้อที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้หลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาได้
นอกจากนี้ จะประสานไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ผ่านทางผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ขอให้ตรวจหาคนไทย และรับส่งออกมาทางด่านพรมแดนตามช่องทางปกติ เพราะเชื่อว่ายังมีหญิงสาวที่ข้ามไปทำงานสถานบันเทิงโดย เฉพาะที่โรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก แห่งเดียวกับหญิงสาวที่ติดเชื้อที่ จ.เชียงใหม่ ทำงานอยู่อีกหลายคน และหลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว เกิดความกลัวก็จะพยายามลักลอบหลบหนีข้ามมายังฝั่งไทยอีกอย่างแน่นอน
เชียงรายมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 49 ราย
ด้าน นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า ผู้ป่วยติดเชื้อหญิงสาวที่ จ.เชียงใหม่ ทำงานในสถานบันเทิงเดียวกันกับหญิงสาวอายุ 20 ปี ชาวชุมชนปงถุน จ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อนอกศูนย์กักดูอาการท่าขี้เหล็ก และหลังจากนั้น ก็พบผู้ติดเชื้อในสถานที่เดียวกันนี้อีก 4 ราย
ต่อมาหญิงสาวชาวไทย ลักลอบข้ามฝั่งเดินทางไปเชียงใหม่ กระทั่งพบติดเชื้อ ซึ่งปัจุบันมีผู้สัมผัสในเชียงราย 51 ราย เป็นผู้มีความเสี่ยงสูงถึง 49 ราย คือ คนที่พาข้ามแดนเข้ามา คนขับรถจากชายแดนไปส่งที่สถานีขนส่ง พนักงานขับรถ และผู้โดยสารรถตู้จาก อ.แม่สาย บขน. คันที่ 11 หมายเลขทะเบียน 10-2973 เชียงราย ออกเวลา 09.30 น. นอกจากนี้ ยังมีที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 1 ในเขต อ.เมืองเชียงราย ผู้โดยสารรถบัสปรับอากาศและพนักงานจากสถานีดังกล่าวไปยัง จ.เชียงใหม่
"ตอนนี้เจ้าหน้าที่ติดตามหาตัวบุคคลต่างๆ ดังกล่าวเจอแล้วเป็นส่วนใหญ่ และได้นำเข้าสู่กระบวนการควบคุมการระบาดของโรค แต่ก็มีบางคนที่อยู่ระหว่างหาตัวอยู่"
ผู้ติดเชื้อ ท่าขี้เหล็กพุ่ง 23 ราย
สำหรับสถานบันเทิงที่หญิงสาวผู้ติดเชื้อทั้งหลายทำงานอยู่คือ โรงแรมวันจีวัน ตั้งอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ขณะนี้ถูกสั่งปิดแล้ว นอกจากนี้ทางการเมียนมา ล็อกดาวน์ หมู่บ้าน 3 แห่ง คือ บ้านปงถุนที่เป็นบ้านของหญิงสาวอายุ 20 ปี ผู้ติดเชื้อนอกศูนย์กักดูอาการรายแรกของ จ.ท่าขี้เหล็ก , บ้านสนทรายเหนือ ที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าว และ บ้านสันทรายใต้ซึ่งเป็นที่พักของผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ รวมทั้งตั้งด่านสกัดตามถนนทุกสายที่เข้าออก จ.ท่าขี้เหล็ก
ล่าสุด (29 พ.ย.)เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของท่าขี้เหล็ก รายงานว่า จากการติดตามบุคคลที่เข้าไปใช้บริการที่โรงแรมวันจีวัน พบว่าชายชาวบ้านโป่งติดกับท่าเรือริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองท่าขี้เหล็ก 20 กม. มีประวัติเข้าไปท่องเที่ยวที่โรงแรม จากนั้นได้กลับบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ให้กักดูอาการ และพบอาการป่วยในบางคน จึงได้นำตัวไปตรวจหาเชื้อ พบชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิดด้วย และเมื่อสอบสวนโรคไปถึงเครือญาติ ก็พบว่ากลุ่มญาติติดเชื้อทั้งหมดอีก 7 คน จึงนำทั้งหมดไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็กแล้ว ซึ่งทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิดในท่าขี้เหล็กเพิ่มขึ้นเป็น 23 คนแล้ว
หลังจากกรมควบคุมโรค ยืนยันว่าหญิงสาววัย 29 ปี ที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งลักลอบไปทำงานในฝั่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) แล้วลักลอบกลับเข้ามาทาง จ.เชียงราย และมาที่ จ.เชียงใหม่ แถมยังไปเที่ยวสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า ทั้งๆที่รู้ตนเองมีอาการป่วย และอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จนกระทั่งเข้าตรวจ และพบเชื้อในที่สุด ทำให่ช่วง 3 วันที่ผ่าน มาหลายหน่วยงานที่เกี่ยวต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อควบคุมโรค นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว เกิดความตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวลดวูบ ไม่ไปในสถานที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่างๆ
เชียงใหม่ตรวจ 170 รายผลเป็นลบ
นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าของทีมสอบสวนโรค และค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสทั้งหมด 306 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 149 ราย และผู้สัมผัสอื่นๆ 72 ราย ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว 88 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 85 ราย ผลการตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ 82 ราย แต่ยังคงต้องติดตามตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก3 ราย คือผู้ที่โดยสารรถประจำทางเชียงราย-เชียงใหม่ ในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 11.00 –15.00 น. จำนวน 2 ราย และคนขับรถ Grab Car รับไปส่งที่คาราโอเกะ ในคืนวันที่ 24 พ.ย. ขอให้ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ที่โทร 084-8053131 , 084-8052121
ผู้ว่าฯเชียงรายสั่งคุมเข้มชายแดน
วานนี้ (29พ.ย.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย ได้เรียกประชุมด่วน คณะทำงาน ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย หลังพบผู้ติดเชื้อที่เชียงใหม่ 1 ราย มีประวัติลักลอบข้ามพรมแดนมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ผ่าน อ.แม่สาย จ .เชียงราย เมื่อ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติ ยังไม่ปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ที่ ท่าขี้เหล็ก แต่จะขอความร่วมมือทางการเมียนมา ในการสุ่มตรวจคนขับรถบรรทุกชาวเมียนมา หลังจากที่ผ่านมามีการตรวจเฉพาะคนไทย และจำกัดไม่ให้ชาวเมียนมาขับผ่านพรมแดนเข้ามาสู่ชั้นใน
นายประจญ กล่าวว่าได้รับแจ้ง มีขบวนการขนคนข้ามมาจากฝั่งเมียนมา และพาไปส่งที่พัก หรือสถานที่ต่างๆ และหัวหน้าเป็นชาวต่างด้าวที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนฝั่งไทย จึงได้มอบข้อมูลให้ พ.ต.อ.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำไปสืบสวนสอบสวน เพื่อทลายขบวนการนี้ให้ได้ เพราะเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการลักลอบเข้ามาของหญิงสาวที่พบติดเชื้อที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้หลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาได้
นอกจากนี้ จะประสานไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ผ่านทางผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ขอให้ตรวจหาคนไทย และรับส่งออกมาทางด่านพรมแดนตามช่องทางปกติ เพราะเชื่อว่ายังมีหญิงสาวที่ข้ามไปทำงานสถานบันเทิงโดย เฉพาะที่โรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก แห่งเดียวกับหญิงสาวที่ติดเชื้อที่ จ.เชียงใหม่ ทำงานอยู่อีกหลายคน และหลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว เกิดความกลัวก็จะพยายามลักลอบหลบหนีข้ามมายังฝั่งไทยอีกอย่างแน่นอน
เชียงรายมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 49 ราย
ด้าน นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า ผู้ป่วยติดเชื้อหญิงสาวที่ จ.เชียงใหม่ ทำงานในสถานบันเทิงเดียวกันกับหญิงสาวอายุ 20 ปี ชาวชุมชนปงถุน จ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อนอกศูนย์กักดูอาการท่าขี้เหล็ก และหลังจากนั้น ก็พบผู้ติดเชื้อในสถานที่เดียวกันนี้อีก 4 ราย
ต่อมาหญิงสาวชาวไทย ลักลอบข้ามฝั่งเดินทางไปเชียงใหม่ กระทั่งพบติดเชื้อ ซึ่งปัจุบันมีผู้สัมผัสในเชียงราย 51 ราย เป็นผู้มีความเสี่ยงสูงถึง 49 ราย คือ คนที่พาข้ามแดนเข้ามา คนขับรถจากชายแดนไปส่งที่สถานีขนส่ง พนักงานขับรถ และผู้โดยสารรถตู้จาก อ.แม่สาย บขน. คันที่ 11 หมายเลขทะเบียน 10-2973 เชียงราย ออกเวลา 09.30 น. นอกจากนี้ ยังมีที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 1 ในเขต อ.เมืองเชียงราย ผู้โดยสารรถบัสปรับอากาศและพนักงานจากสถานีดังกล่าวไปยัง จ.เชียงใหม่
"ตอนนี้เจ้าหน้าที่ติดตามหาตัวบุคคลต่างๆ ดังกล่าวเจอแล้วเป็นส่วนใหญ่ และได้นำเข้าสู่กระบวนการควบคุมการระบาดของโรค แต่ก็มีบางคนที่อยู่ระหว่างหาตัวอยู่"
ผู้ติดเชื้อ ท่าขี้เหล็กพุ่ง 23 ราย
สำหรับสถานบันเทิงที่หญิงสาวผู้ติดเชื้อทั้งหลายทำงานอยู่คือ โรงแรมวันจีวัน ตั้งอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ขณะนี้ถูกสั่งปิดแล้ว นอกจากนี้ทางการเมียนมา ล็อกดาวน์ หมู่บ้าน 3 แห่ง คือ บ้านปงถุนที่เป็นบ้านของหญิงสาวอายุ 20 ปี ผู้ติดเชื้อนอกศูนย์กักดูอาการรายแรกของ จ.ท่าขี้เหล็ก , บ้านสนทรายเหนือ ที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าว และ บ้านสันทรายใต้ซึ่งเป็นที่พักของผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ รวมทั้งตั้งด่านสกัดตามถนนทุกสายที่เข้าออก จ.ท่าขี้เหล็ก
ล่าสุด (29 พ.ย.)เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของท่าขี้เหล็ก รายงานว่า จากการติดตามบุคคลที่เข้าไปใช้บริการที่โรงแรมวันจีวัน พบว่าชายชาวบ้านโป่งติดกับท่าเรือริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองท่าขี้เหล็ก 20 กม. มีประวัติเข้าไปท่องเที่ยวที่โรงแรม จากนั้นได้กลับบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ให้กักดูอาการ และพบอาการป่วยในบางคน จึงได้นำตัวไปตรวจหาเชื้อ พบชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิดด้วย และเมื่อสอบสวนโรคไปถึงเครือญาติ ก็พบว่ากลุ่มญาติติดเชื้อทั้งหมดอีก 7 คน จึงนำทั้งหมดไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็กแล้ว ซึ่งทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิดในท่าขี้เหล็กเพิ่มขึ้นเป็น 23 คนแล้ว