xs
xsm
sm
md
lg

เล็งฟัน“แบงก์เป็ด”ผิดม.112 ตร.ยัน“การ์ดอาชีวะ”ยิงกันเอง หมายจับมือปืนแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“รอง ผบช.น.” ยันทีมการ์ดอาชีวะทะเลาะกันเรื่องงานตั้งแต่หน้า ธ.ไทยพาณิชย์ ก่อนปาประทัด-ยิงกันเอง ไร้กลุ่มอื่นแฝงเข้ามา ภาพวงจรปิด-คลิปนักข่าวเป็นหลักฐาน ศาลไฟเขียวหมายจับมือปืนแล้ว เล็งงัด พ.ร.บ.เงินตราฯฟันคนใช้ธนบัตร “คูปองเป็ด”

กรณีการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ที่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ปรากฏว่าเกิดเหตุวุ่นวาย มีเสียงปืนและเสียงระเบิด จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เป็นการ์ดอาชีวะ

วานนี้ (26 พ.ย.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สน.พหลโยธินว่า เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย. หลังการเลิกชุมนุมแล้ว ได้เกิดทะเลาะวิวาท โยนประทัด หรือวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งใส่กัน จากนั้นทั้ง 2 กลุ่ม ได้ยิงปืนใส่กันจนอีกกลุ่มได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้พักรักษาอยู่ห้องไอซียู รพ.พระราม 9 เจ้าหน้าที่สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า มีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาตั้งแต่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ หลังยุติชุมนุม ยังได้ถกเถียงกันต่อจนมีการทะเลาะวิวาทกัน เบื้องต้นพบว่าเป็นทีมการ์ดคณะราษฎร ที่มาจากสถาบันอาชีวะย่านมีนบุรี และผู้บาดเจ็บมาจากสถาบันอาชีวะย่านปทุมธานี อยู่ในทีมการ์ดคณะราษฎรด้วยกันเอง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด และคลิปจากผู้สื่อข่าวรวมถึงประชาชนที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มการ์ดของคณะราษฎร แล้วทะเลาะกันเรื่องงาน ไม่ได้มีกลุ่มอื่นเข้ามาแฝงตัวแต่อย่างใด

"ยืนยันว่า จากการสืบสวนแน่นอนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ในกลุ่มการ์ดที่มาทำหน้าที่ที่เดียวกัน" รอง ผบช.น.กล่าว




ศาลออกหมายจับมือยิง

ขณะที่ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอเวนิว รัชโยธิน ซึ่งเป็นจุดที่นายภาสพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี ถูกกลุ่มการ์ดอาชีวะรุมทำร้ายก่อนส่งรักษาที่ รพ.พระรามเก้า หลังก่อเหตุปาระเบิดปิงปองและยิงปืนใส่กลุ่มการ์ดอาชีวะจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ นายวันชัย อารีย์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นการ์ดอาชีวะ ถูกยิงบริเวณหน้าท้อง และนายพายัพ เขียววิลัย อายุ 31 ปี เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.63

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้เดินทางไปยื่นหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายภาสพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ในความผิดฐานพยายามฆ่า ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ต่อศาลอาญาและศาลได้อนุมัติหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว




จ่อฟันคนใช้ “ธนบัตรเป็ด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เตรียมดำเนินคดีต่อผู้ที่นำธนบัตร “คูปองเป็ด” มาใช้แลกซื้อของกับร้านค้ารถเข็นภายในม็อบราษฎร หรือหรือฉายา CIA ในการชุมนุมที่เอสซีบีปาร์ค เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา ในความผิดมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ. 2501 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างพิจารณาข้อความที่อยู่บนคูปองว่าเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 112 หรือไม่ ซึ่งภายหลังการวบรวมพยานหลักฐานหากเข้าข่ายความผิดจะประมวลส่งเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พิจารณาสั่งการต่อไป




“บิ๊กตู่” ยันไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนและติดตามอยู่ เห็นว่ามีภาพถ่ายมีอะไรตลอด สื่อก็ได้บันทึกไว้ ก็จะได้พิสูจน์ได้ว่า ใครทำกันแน่ ไม่อย่างนั้นก็โยนกันไปโยนกันมาว่าอีกพวกหนึ่งทำ ว่ารัฐบาลทำ ทั้งที่รัฐบาลมีแต่ทำหน้าที่ดูแลให้ทุกคนปลอดภัย การชุมนุมจะต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้นอีก จะต้องเป็นการชุมนุมที่ปลอดภัย ถ้าคนไปร่วมชุมนุมแล้วไม่ปลอดภัย เขาก็ไม่ไป

"อยากฝากคนทั้งประเทศว่า ยิ่งชุมนุมนานไป ก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ การจราจรก็ติดขัดมากขึ้น ขอถามหน่อยว่าได้ประโยชน์กับใคร เขาอาจจะได้ประโยชน์ของเขา แต่หาวิธีการอื่นไม่ได้หรือที่ดีกว่า ที่มันสงบ ไม่ให้เกิดอันตราย หรือไปล่วงละเมิดใคร" นายกฯ กล่าว




ใช้ ม.112 เป็นเรื่องตำรวจ-ศาล

ส่วนการดำเนินคดีตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 112 ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กับแกนนำผู้ชุมนุมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของตำรวจที่ทำไปตามข้อมูลหลักฐาน แต่ทั้งหมดไม่ได้จบที่ตรงนี้ เพราะยังมีศาล ที่เป็นองค์กรอิสระจะพิจารณา รัฐบาลไม่มีอำนาจไปก้าวล่วง ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ ทั้งศาล และอัยการ ซึ่งก้าวล่วงไม่ได้เลย ส่วนอำนาจของตนคือทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ให้ถูกฟ้องร้องภายหลัง ก็ต้องระมัดระวังกันให้มากที่สุด




แจง ม.112 มีกระบวนการอยู่

ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม แสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่ดำเนินการกับผู้ชุมนุม ว่า ตนไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว การดำเนินคดีตามมาตรา 112 มีกระบวนการอยู่แล้ว เป็นกระบวนการพิเศษที่แตกต่างจากมาตราอื่น ส่วนจะใช้หรือไม่ก็แล้วแต่ความเหมาะสมของเหตุการณ์ วันนี้เมื่อมีการพูดจาไปถึงขั้นเข้าข่ายความผิดของมาตรานั้น จะละเว้นก็คงลำบาก แต่กระบวนการในการดำเนินการก็มีอยู่ เพื่อกลั่นกรองไม่ให้มีเรื่องเกิดขึ้นได้ง่ายๆ

ส่วนกรณีกลุ่มราษฎร แจกคูปองเป็ดเหลือง เลียนแบบธนบัตร ให้ผู้ชุมนุมใช้ซื้อของภายในม็อบ ซึ่งทำให้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าจะผิด พ.ร.บ.เงินตรา หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเกี่ยวกับแบงก์กาโม่รูปเป็ด เห็นเพียงแต่ในข่าว เห็นว่าเจตนาไม่ถึงขั้นให้เป็นธนบัตรชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย สรุปแล้วไม่ใช่เงินปลอม และทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า ไม่ใช่เงิน




พท.ขอถกปมม็อบ-สภาหวิดล่ม

อีกด้าน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงก่อนเข้าสู่วาระการประชุมตามปกติ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาหารือ หาทางออกให้กับประเทศ หลังเกิดเหตุปะทะ และยิงกัน มีการปาประทัดยักษ์ บริเวณพื้นที่ชุมนุม จึงขอให้ตั้งญัตติขึ้นมาพิจารณาหารือกันก่อน เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ฝ่ายรัฐบาลขอให้พิจารณาตามระเบียบวาระการประชุม จึงต้องมีการลงมติ ผลปรากฎว่า 217 ต่อ 124 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ไม่เห็นด้วย ที่จะให้เลื่อนญัตติที่เสนอด้วยวาจา เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงในการชุมนุมขึ้นมาพิจารณาก่อน

ทำให้ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุม ด้วยวิธีการขานชื่อ เพราะไม่มั่นใจผลคะแนนที่ออกมาโดยการเสียบบัตร ขณะที่ น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคพลังประชารัฐ แสดงความกังวลว่า ฝ่ายค้านจะวอล์กเอาท์ จึงเสนอให้สั่งปิดการประชุม ขณะที่นายศุภชัย ยืนยันให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ โดยองค์ประชุมทั้งหมดนับได้ 255 คน ครบองค์ประชุม และเดินหน้าพิจารณาระเบียบวาระรายงานที่คณะกรรมาธิการพิจารณาจัดแล้วต่อไป




“เป็ดเหลือง” โผล่กลางสภาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมสภา มี ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้นำตุ๊กตาเป็ด ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์การชุมนุมของม็อบราษฎร มาที่ห้องประชุมสภา ในส่วนของส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล โดย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้นำถุงใส่ตุ๊กตาเป็ด กิ๊ฟเป็ด มาแจก ส.ส.ฝ่ายค้าน สร้างสีสันในห้องประชุมสภา และมีการโพสต์ภาพลงสังคมออนไลน์ เป็นภาพของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ใส่หมวกเป็ด และถือตุ๊กตาเป็ดด้วย นอกจากนี้ยังมีภาพเป็ดน้อย อยู่กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น