xs
xsm
sm
md
lg

“รองต๊ะ” ยันการ์ดม็อบราษฎรทะเลาะกันเรื่องงาน ก่อนปาประทัด-ยิงกันเอง ไม่มีกลุ่มอื่นแอบแฝง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รอง ผบช.น.ยันทีมการ์ดอาชีวะทะเลาะกันเรื่องงานตั้งแต่หน้า ธ.ไทยพาณิชย์ ก่อนปาประทัด-ยิงกันเอง ไม่มีกลุ่มอื่นแฝงเข้ามา มีภาพจากกล้องวงจรปิด-คลิปของนักข่าวเป็นหลักฐาน เตรียมเพิ่มมาตรการป้องกันนำอาวุธเข้าที่ชุมนุม เผยยังไม่ได้รับรายงาน ตร.นอกเครื่องแบบจับ ไผ่ ดาวดิน” แล้วโดนการ์ดชิงตัว แต่ยืนยันเมื่อทำผิด จนท.ก็สามารถจับกุมได้

วันนี้ (26 พ.ย.) เวลา 09.40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายเกิดเสียงปืนและระเบิดหลังการยุติการชุมนุมหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เป็นการ์ดอาชีวะ ว่าเบื้องต้นได้รับรายงานจาก สน.พหลโยธิน เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) เวลา 22.00 น.หลังมีการเลิกชุมนุมแล้วได้เกิดทะเลาะวิวาทโยนประทัด หรือวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งใส่กัน จากนั้นทั้ง 2 กลุ่มได้ยิงปืนใส่กันจนอีกกลุ่มได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้พักรักษาอยู่ห้องไอซียู รพ.พระราม 9

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปาก ทราบว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาตั้งแต่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ หลังยุติชุมนุมยังได้ถกเถียงกันต่อจนมีการทะเลาะวิวาทกัน เบื้องต้นพบว่าเป็นทีมการ์ดคณะราษฎรที่มาจากสถาบันอาชีวะย่านมีนบุรี และผู้บาดเจ็บมาจากสถาบันอาชีวะย่านปทุมธานี อยู่ในทีมการ์ดคณะราษฎรด้วยกันเอง อย่างไรก็ตาม มีภาพจากกล้องวงจรปิด และคลิปจากผู้สื่อข่าว รวมถึงประชาชนที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่มเป็นกลุ่มการ์ดของคณะราษฎร แล้วทะเลาะกันเรื่องงาน ไม่ได้มีกลุ่มอื่นเข้ามาแฝงตัวแต่อย่างใด


พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า การพกปืนเข้าในพื้นที่ชุมนุมจะส่งผลต่อการรักษาความปลอดภัยในอนาคตหรือไม่นั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง ทั้งจากการชุมนุมที่แยกเกียกกาย และการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ รวมเป็นครั้งที่ 2 แล้ว การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ การนำอาวุธเข้ามาจะทำให้การชุมนุมผิดกฎหมายเป็นที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่แล้ว และในครั้งนี้ บช.น.มีมาตรการต่างๆ ในการดูแลความเรียบร้อย รวมถึงการสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิด หลังจากนี้อาจจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มขึ้น จากการสืบสวนคดีคืบหน้าไปมากแล้ว ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานบางอย่างที่อาจถึงตัวผู้กระทำผิด

สำหรับการนัดชุมนุมครั้งต่อไปในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) เวลา 16.00 น. กรณีแกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้นอีก ก็ฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่าแม้การชุมนุมเป็นสิทธิตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ผู้จัดการชุมนุมก็ต้องเข้มงวดกับการ์ดของตัวเอง ต้องมีการตรวจค้นอาวุธ อุปกรณ์ และสิ่งของอื่นๆ ที่ผิดกฎหมาย ถ้ามากระทำผิดลักษณะแบบนี้ตำรวจจะมีมาตรการและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่กังวล เพราะประชาชนที่เข้าร่วมใช้สิทธิเรียกร้องในบางปัญหาไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ถ้าเจอเหตุเช่นนี้ หลายกลุ่มก็จะถอนตัวออกอย่างแน่นอนถ้าการชุมนุมไม่มีความปลอดภัย เช่น มีการทะเลาะวิวาทกัน หรือมีการใช้อาวุธ โดยเฉพาะการทะเลาะวิวาทกันในกลุ่มของการ์ดด้วยกัน ผู้ร่วมชุมนุมอาจโดนลูกหลงได้ ครั้งนี้โชคดีเป็นการทะเลาะวิวาทหลังยุติการชุมนุมแล้ว หากมีการทะเลาะวิวาทกันระหว่างการชุมนุม ประชาชนที่มาชุมนุมโดยสุจริตใจอาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า การวางตู้คอนเทนเนอร์เป็นแนวกั้นโดยรอบพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นั้น ในวันนี้ได้มีการเคลียร์ตู้คอนเทนเนอร์ออกจากพื้นที่ทุกจุดแล้ว ตำรวจจะวางเครื่องกีดขวางและมีมาตรการตามความจำเป็นและความเหมาะสมของสถานการณ์ เมื่อหมดความจำเป็นก็รีบเคลียร์พื้นที่โดยเร็ว โดยนำสิ่งของเหล่านั้นออกจากพื้นผิวการจราจร สำหรับการจราจรวันนี้ยังถือว่าคล่องตัวดี

กรณีกระแสข่าวตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย เข้าไปแสดงตัวจับกุมนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน อายุ 29 ปี แกนนำคนสำคัญ ก่อนจะมีทีมการ์ดช่วยดึงตัวออกมานั้น ในส่วนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เมื่อมีการกระทำผิดก็ต้องถูกออกหมายเรียก หรือหมายจับทุกรายทุกฝ่าย เมื่อมีหมายจับตำรวจก็ดำเนินการสืบสวนจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกๆ คดี

“ยืนยันว่าจากการสืบสวนแน่นอนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ในกลุ่มการ์ดที่มาทำหน้าที่ที่เดียวกัน” รอง ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น