“คณิศ” แนะไทยเข้าร่วม CPTPP และข้อตกลง FTA หวังดึงการลงทุนเข้าอีอีซี เตรียมหารือ”สุพัฒนพงษ์”ปรับแผนลงทุนในอีอีซี 5 ปี(ปี 63-67) รวมที่คาดไว้ 1.7 ล้านล้านบาทมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นจากนโยบาย”ไบเดน”
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เตรียมหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว. เพื่อพิจารณาแนวทางการปรับแผนการลงทุนอีอีซีทั้งโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเป้หมายระยะ 5 ปี(ปีพ.ศ.63-67 )ใหม่ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะนโยบายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ที่จะส่งผลบวกต่อการลงทุนซึ่งได้ประเมินไว้ว่าการลงทุนในอีอีซีรวมจะอยู่ที่ระดับ 1.7 ล้านล้านบาท
“มูลค่าการลงทุนจะต้องมารีวิวใหม่ จุดที่อีอีซีจะต้องดูแลคือ 1. เรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(Green) เพราะไบเดนเน้นเรื่องลดภาวะโลกร้อนก็จะดึงนักลงทุนจากสหรัฐอมเริกาได้มากขึ้น 2.เทคโนโลยีใหม่ที่เราเองจะเร่ง 5G รองรับ และ3.ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่จะเอื้อต่อการลงทุน” นายคณิศกล่าว
สกพอ.ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากสกพอ.เองทำไม่ได้ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านทำไปพอสมควรแล้วโดยเฉพาะเวียดนามที่ได้เข้าร่วมข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก(CPTPP) ไปแล้ว มีข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)กับอียูแล้วไทยเองก็ยังไม่มี ซึ่งหากดำเนินการได้โอกาสที่จะดึงการลงทุนก็จะมีมากขึ้น
นายคณิศ กล่าวถึงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในอีอีซีขณะนี้ได้เอกชนแล้ว 3 โครงการ อีก 2 โครงการคือท่าเรือแหลมฉบังนั้นจะนำเข้าบอร์ดอีอีซีชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานประมาณธ.ค.นี้เพื่อพิจารณาผลการเจรจาด้านราคา ส่วนโครงการศูนย์ซ่อมอากกาศยานอู่ตะเภา(MRO)จะรอพิจารณาแผนการฟื้นของบมจ.การบินไทยในเดือนม.ค. 64
การจัดทำงบประมาณล่าสุดสกพอ.ได้ประชุมชี้แจงส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อจัดทำงบประมาณแผนงานบูรณาการอีอีซี ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยร่วมกับ 22 กระทรวงและ 120 หน่วยงานเบื้องต้นงบประมาณของสกพอ.เองจะมีประมาณ 500 ล้านบาทและงบประมาณบูรณาการอีก 20,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงบปี 2564 โดยในส่วนของโครงการศูนย์ซ่อมอากกาศยานอู่ตะเภา(MRO)ยังถูกบรรจุไว้ในงบปี 65 เผื่อกรณีแผนฟื้นฟูผ่าน
“ที่ผ่านมางบบูรณาการปี 2561-63 อยู่ที่ 36,836 ล้านบาท และการดำเนินงานที่ผ่านมาโดยเฉพาะปี 2564 ทำไม่ทันเลยได้โครงการที่ไม่ค่อยเป็นไปตามเป้าหมายนัก สำหรับงบปี ’65 สกพอ.จึงได้เร่งทำโดยมีเวลา 3 เดือน “นายคณิศกล่าว
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เตรียมหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว. เพื่อพิจารณาแนวทางการปรับแผนการลงทุนอีอีซีทั้งโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเป้หมายระยะ 5 ปี(ปีพ.ศ.63-67 )ใหม่ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะนโยบายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ที่จะส่งผลบวกต่อการลงทุนซึ่งได้ประเมินไว้ว่าการลงทุนในอีอีซีรวมจะอยู่ที่ระดับ 1.7 ล้านล้านบาท
“มูลค่าการลงทุนจะต้องมารีวิวใหม่ จุดที่อีอีซีจะต้องดูแลคือ 1. เรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(Green) เพราะไบเดนเน้นเรื่องลดภาวะโลกร้อนก็จะดึงนักลงทุนจากสหรัฐอมเริกาได้มากขึ้น 2.เทคโนโลยีใหม่ที่เราเองจะเร่ง 5G รองรับ และ3.ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่จะเอื้อต่อการลงทุน” นายคณิศกล่าว
สกพอ.ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากสกพอ.เองทำไม่ได้ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านทำไปพอสมควรแล้วโดยเฉพาะเวียดนามที่ได้เข้าร่วมข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก(CPTPP) ไปแล้ว มีข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)กับอียูแล้วไทยเองก็ยังไม่มี ซึ่งหากดำเนินการได้โอกาสที่จะดึงการลงทุนก็จะมีมากขึ้น
นายคณิศ กล่าวถึงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในอีอีซีขณะนี้ได้เอกชนแล้ว 3 โครงการ อีก 2 โครงการคือท่าเรือแหลมฉบังนั้นจะนำเข้าบอร์ดอีอีซีชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานประมาณธ.ค.นี้เพื่อพิจารณาผลการเจรจาด้านราคา ส่วนโครงการศูนย์ซ่อมอากกาศยานอู่ตะเภา(MRO)จะรอพิจารณาแผนการฟื้นของบมจ.การบินไทยในเดือนม.ค. 64
การจัดทำงบประมาณล่าสุดสกพอ.ได้ประชุมชี้แจงส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อจัดทำงบประมาณแผนงานบูรณาการอีอีซี ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยร่วมกับ 22 กระทรวงและ 120 หน่วยงานเบื้องต้นงบประมาณของสกพอ.เองจะมีประมาณ 500 ล้านบาทและงบประมาณบูรณาการอีก 20,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงบปี 2564 โดยในส่วนของโครงการศูนย์ซ่อมอากกาศยานอู่ตะเภา(MRO)ยังถูกบรรจุไว้ในงบปี 65 เผื่อกรณีแผนฟื้นฟูผ่าน
“ที่ผ่านมางบบูรณาการปี 2561-63 อยู่ที่ 36,836 ล้านบาท และการดำเนินงานที่ผ่านมาโดยเฉพาะปี 2564 ทำไม่ทันเลยได้โครงการที่ไม่ค่อยเป็นไปตามเป้าหมายนัก สำหรับงบปี ’65 สกพอ.จึงได้เร่งทำโดยมีเวลา 3 เดือน “นายคณิศกล่าว