xs
xsm
sm
md
lg

ต่างชาติหวนซื้อหุ้นไทย เด้งแรง25.80จุด รับ“ไบเดน”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-ตลาดหุ้นทั่วโลกคึกคักรับ “โจ ไบเดน” ชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ต่างชาติหวนคืนดันหุ้นไทยเด้งแรง บวก 25.80 จุด มาร์เก็ตแคปยืนเหนือ 14 ล้านล้านอีกครั้ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ แนะจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน เล็งใช้โมเดล “บีโอไอ” ให้สิทธิประโยชน์พิเศษจูงใจบริษัทใหม่เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น “บิ๊กตู่”ส่งสาสน์แสดงความยินดี มั่นใจความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น “คลัง” ชี้ไทยมีโอกาสดึงลงทุนจากสหรัฐฯ เพิ่ม “พาณิชย์”เชื่อการส่งออกดีขึ้นแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (9 พ.ย.) นักลงทุนแห่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นกันอย่างคึกคัก ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่เปิดตลาดซื้อขายช่วงเช้า ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2% ขานรับนายโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ค่อนข้างชัดเจน แม้จะยังไม่เป็นทางการก็ตาม

โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,293.90 จุด ต่ำสุดที่ 1,277.52 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,285.88 จุด เพิ่มขึ้น 25.80 จุด หรือคิดเป็น 2.05% มูลค่าการซื้อขายรวม 77,886.02 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่ปิดเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1,034 หลักทรัพย์ ลดลง 675 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 337 หลักทรัพย์ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปรับตัวขึ้นมายืนเหลือระดับ 14.15 ล้านอีกครั้ง

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิกว่า 2,285.29 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 16.96 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,788.39 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 4,056.71 ล้านบาท

ด้านตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า อาทิ ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 24,839.84 จุด เพิ่มขึ้น 514.61 จุด หรือ 2.12% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 26,016.17 จุด เพิ่มขึ้น 303.20 จุด หรือ 1.18% ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,373.73 จุด เพิ่มขึ้น 61.57 จุด หรือ 1.86% เป็นต้น

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับการมาของนายไบเดน รวมถึงตลาดหุ้นไทย โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นไปกว่า 5% แล้ว เนื่องจากนโยบายของนายไบเดน ค่อนข้างเปิดกว้างมากกว่า ทำให้คาดหวังว่าท่าทีเกี่ยวกับสงคราการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะอ่อนโยนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้าขายของโลก และระยะถัดไปต้องดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายพลังงานทดแทน ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวคิดที่จะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับหุ้นไอพีโอกลุ่มธุรกิจใหม่ คล้ายกับแนวคิดของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อผลักดันและก่อให้เกิดแรงจูงใจสำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ ตั้งแต่ยังไม่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงยังมีแนวคิดที่จะออกดัชนีต่างๆ เพิ่มเติม จากเดิมที่มีเพียงดัชนีกลุ่มเวลบีอิ้ง เซทเอชดี หรือเซทซีแอลเอ็มวี เพื่อสร้างจุดขายและเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนได้หลายหลายมากขึ้น

วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีกับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่มีมายาวนานกว่า 200 ปี และคาดว่าจะกระชับความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้สั่งการให้เตรียมการ ทั้งการหารือกับรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ หรือการเตรียมรับมือกับนโยบายในด้านต่างๆ ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไป

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า ยังต้องรอติดตามนโยบายก่อน แต่เท่าที่ติดตามช่วงการหาเสียงของนายโจ ไบเดน เน้น 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.นโยบายด้านภาษี และ 2.นโยบายการขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ ซึ่งมองว่าเป็นข้อดีที่ไทยจะได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะส่งผลให้นักลงทุนมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศในภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งไทย แต่ต้องขอรอดูความชัดเจนของนโยบายอีกครั้ง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า นโยบายการค้าของนายไบเดนที่ผ่อนคลายมากขึ้น จะทำให้บรรยากาศการค้าของโลกดีขึ้น และทำให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออก และเศรษฐกิจไทยดีขึ้นตาม โดยเฉพาะการทำสงครามการค้ากับจีน ที่จะผ่อนปรนมากขึ้นนั้น อาจทำให้สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากจีนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้จีนต้องนำเข้าสินค้าวัตถุดิบจากไทยเพิ่มขึ้นด้วย หรือไทยอาจจะใช้เวทีการเจรจาการค้าแบบพหุภาคี เพื่อเจรจาต่อรองทางการค้าได้มากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น