“การบินไทย” ประกาศขายเครื่องบินโดยสาร 34 ลำ ทั้งส่วนที่ยังประจำการ 20 ลำ และที่ปลดประจำการแล้วอีก 14 ลำ หนึ่งในนั้นคือ “แอร์บัสฉาว” A340-500 และ A340-600 ที่ซื้อในสมัย “รัฐบาลทักษิณ” บินเส้นทางอเมริกาแบบ “นอน-สตอป”
หลังจากที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.การบินไทย) ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง ก่อนมีคำสั่งให้ บมจ.การบินไทย ดำเนินการฟื้นฟูกิจการ และตั้งคณะผู้ทำแผน ตามที่ บมจ.การบินไทย เสนอไปแล้วนั้น
วานนี้ (5 พ.ย.) มีรายงานข่าวว่า เว็บไซต์ thaiaircrafttrading.com ของฝ่ายวิศวกรรม บมจ.การบินไทย ได้ประกาศขายเครื่องบินโดยสารมือสอง 7 รุ่น รวม 34 ลำ ซึ่งมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเกินกว่า 20 ปี โดยเครื่องบินโดยสารทุกลำ จำหน่ายภายใต้เงื่อนไขตามสภาพ และไม่มีประกันหลังการขาย กำหนดการส่งมอบในไตรมาส 1 (เดือน ม.ค.- มี.ค.) ปี 2564 ผู้สนใจสามารถแสดงความจำนง และเสนอราคาทางอีเมล aircraftsale@thaiairways.com ภายในวันที่ 13 พ.ย.63
สำหรับเครื่องบินที่นำมาจำหน่าย ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A300-600 จำนวน 1 ลำ ผลิตเมื่อปี 1993, เครื่องบินโบอิ้ง B737-400 จำนวน 2 ลำ ผลิตเมื่อปี 1992 และ 1993, เครื่องบินแอร์บัส A340-500จำนวน 3 ลำ ผลิตเมื่อปี 2005-2007, เครื่องบินแอร์บัส A340-600 จำนวน 6 ลำ ผลิตเมื่อปี 2005-2008, เครื่องบินโบอิ้ง B747-400 จำนวน 10 ลำ ผลิตเมื่อปี 1993-2003, เครื่องบินโบอิ้ง B777-200 จำนวน 6 ลำ ผลิตเมื่อปี 1996-1998 และเครื่องบินโบอิ้ง B777-300 จำนวน 6 ลำ ผลิตเมื่อปี 1998-2000
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ Outsider's Aviation ได้เปิดเผยทะเบียนเครื่องบินที่การบินไทยนำมาประกาศขาย พบว่า มีเครื่องบินปลดประจำการไปแล้ว 14 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A300-600 ทะเบียน HS-TAR นามพระราชทาน ยโสธร, เครื่องบินโบอิ้ง B737-400 ทะเบียน HS-TDF นามพระราชทาน ศรีสะเกษ และทะเบียน HS-TDG นามพระราชทาน กาฬสินธุ์ ที่บินครั้งสุดท้าย เที่ยวบิน TG288 เส้นทางสมุย-กทม. หลังจากนั้น บมจ.การบินไทย จึงยกเลิกเส้นทาง กทม.-สมุย และ สมุย-กทม., เครื่องบินแอร์บัส A340-500 ทะเบียน HS-TLA นามพระราชทาน เชียงคำ, ทะเบียน HS-TLB นามพระราชทาน อุตรดิตถ์ และทะเบียน HS-TLD นามพระราชทาน กำแพงเพชร
ทั้งนี้ แอร์บัส A340-500 ทั้ง 3 ลำนั้นเป็นฝูงบินที่เคยใช้สำหรับเที่ยวบินตรงเส้นทางแรกสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอนุมัติจัดซื้อในปี 2546 สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร มูลค่าลำลำกว่า 5 พันล้านบาท ก่อนจะเปิดทำการบินในปี 2548 เส้นทาง กทม.-นิวยอร์ก ในปี 2548 ต่อมาได้เปลี่ยนเที่ยวบินตรงไปยังลอสแอนเจลิสแทน แต่เนื่องด้วยเครื่องบินรุ่นนี้ใช้น้ำมันมาก และประสบปัญหาขาดทุนสะสมกว่า 7 พันล้านบาท คณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย จึงได้สั่งระงับไปในปี พ.ศ.2551 จนกลายเป็นมหากาพย์แอร์บัสฉาว ที่ประเมินมูลค่าความเสียหายจนถึงปัจจุบันหลายหมื่นล้าน โดยก่อนหน้านี้ได้ปรากฏภาพฝูงบินดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่สนามบินอู่ตะเภา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และ บมจ.การบินไทย ก็พยายามประกาศขาย แต่ยังไม่สามารถขายได้มาจนถึงปัจจุบัน
เครื่องบินแอร์บัส A340-600 ทะเบียน HS-TNA นามพระราชทาน วัฒนานคร, ทะเบียน HS-TNB นามพระราชทาน สระบุรี, ทะเบียน HS-TNC นามพระราชทาน ชลบุรี, ทะเบียน HS-TND นามพระราชทาน เพชรบุรี, ทะเบียน HS-TNE นามพระราชทาน นนทบุรี และทะเบียน HS-TNF นามพระราชทาน แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันจอดอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อรอดำเนินการ, เครื่องบินโบอิ้ง B747-400 ทะเบียน HS-TGP นามพระราชทาน เทพประสิทธิ์ เพิ่งปลดประจำการเมื่อ 27 ก.พ. 63, ทะเบียน HS-TGY นามพระราชทาน ดารารัศมี เป็นต้น
ส่วนเครื่องบินที่ยังประจำการอยู่ แต่ได้ประกาศขายในครั้งนี้ มี 20 ลำ ได้แก่ เครื่องบินโบอิ้ง B747-400 ทะเบียน HS-TGO นามพระราชทาน บวรรังษี เคยใช้ลายเรือสุพรรณหงส์, ทะเบียน HS-TGW นามพระราชทาน วิสุทธิกษัตริย์ ลายสตาร์อัลไลแอนซ์, ทะเบียน HS-TGX นามพระราชทาน ศิริโสภาคย์, ทะเบียน HS-TGZ นามพระราชทาน พิมรา, ทะเบียน HS-TGA นามพระราชทาน ศรีสุริโยทัย, HS-TGB นามพระราชทาน ศรีสัชนาลัย, ทะเบียน HS-TGF นามพระราชทาน ศรีอุบล และทะเบียน HS-TGG นามพระราชทาน ปทุมาวดี
เครื่องบินโบอิ้ง B777-200 ทะเบียน HS-TJA นามพระราชทาน ลำพูน, ทะเบียน HS-TJB นามพระราชทาน อุทัยธานี, HS-TJC นามพระราชทาน นครนายก, ทะเบียน HS-TJD นามพระราชทาน มุกดาหาร, ทะเบียน HS-TJG นามพระราชทาน ปัตตานี และทะเบียน HS-TJH นามพระราชทาน สุพรรณบุรี และเครื่องบินโบอิ้ง B777-300 ทะเบียน HS-TKA นามพระราชทาน ศรีวรรณา, ทะเบียน HS-TKB นามพระราชทาน ชัยนารายณ์, ทะเบียน HS-TKC นามพระราชทาน ขวัญเมือง, ทะเบียน HS-TKD นามพระราชทาน เทพาลัย, ทะเบียน HS-TKE นามพระราชทาน สุคิริน และทะเบียน HS-TKF นามพระราชทาน ละหานทราย ลายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
หลังจากที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.การบินไทย) ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง ก่อนมีคำสั่งให้ บมจ.การบินไทย ดำเนินการฟื้นฟูกิจการ และตั้งคณะผู้ทำแผน ตามที่ บมจ.การบินไทย เสนอไปแล้วนั้น
วานนี้ (5 พ.ย.) มีรายงานข่าวว่า เว็บไซต์ thaiaircrafttrading.com ของฝ่ายวิศวกรรม บมจ.การบินไทย ได้ประกาศขายเครื่องบินโดยสารมือสอง 7 รุ่น รวม 34 ลำ ซึ่งมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเกินกว่า 20 ปี โดยเครื่องบินโดยสารทุกลำ จำหน่ายภายใต้เงื่อนไขตามสภาพ และไม่มีประกันหลังการขาย กำหนดการส่งมอบในไตรมาส 1 (เดือน ม.ค.- มี.ค.) ปี 2564 ผู้สนใจสามารถแสดงความจำนง และเสนอราคาทางอีเมล aircraftsale@thaiairways.com ภายในวันที่ 13 พ.ย.63
สำหรับเครื่องบินที่นำมาจำหน่าย ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A300-600 จำนวน 1 ลำ ผลิตเมื่อปี 1993, เครื่องบินโบอิ้ง B737-400 จำนวน 2 ลำ ผลิตเมื่อปี 1992 และ 1993, เครื่องบินแอร์บัส A340-500จำนวน 3 ลำ ผลิตเมื่อปี 2005-2007, เครื่องบินแอร์บัส A340-600 จำนวน 6 ลำ ผลิตเมื่อปี 2005-2008, เครื่องบินโบอิ้ง B747-400 จำนวน 10 ลำ ผลิตเมื่อปี 1993-2003, เครื่องบินโบอิ้ง B777-200 จำนวน 6 ลำ ผลิตเมื่อปี 1996-1998 และเครื่องบินโบอิ้ง B777-300 จำนวน 6 ลำ ผลิตเมื่อปี 1998-2000
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ Outsider's Aviation ได้เปิดเผยทะเบียนเครื่องบินที่การบินไทยนำมาประกาศขาย พบว่า มีเครื่องบินปลดประจำการไปแล้ว 14 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A300-600 ทะเบียน HS-TAR นามพระราชทาน ยโสธร, เครื่องบินโบอิ้ง B737-400 ทะเบียน HS-TDF นามพระราชทาน ศรีสะเกษ และทะเบียน HS-TDG นามพระราชทาน กาฬสินธุ์ ที่บินครั้งสุดท้าย เที่ยวบิน TG288 เส้นทางสมุย-กทม. หลังจากนั้น บมจ.การบินไทย จึงยกเลิกเส้นทาง กทม.-สมุย และ สมุย-กทม., เครื่องบินแอร์บัส A340-500 ทะเบียน HS-TLA นามพระราชทาน เชียงคำ, ทะเบียน HS-TLB นามพระราชทาน อุตรดิตถ์ และทะเบียน HS-TLD นามพระราชทาน กำแพงเพชร
ทั้งนี้ แอร์บัส A340-500 ทั้ง 3 ลำนั้นเป็นฝูงบินที่เคยใช้สำหรับเที่ยวบินตรงเส้นทางแรกสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอนุมัติจัดซื้อในปี 2546 สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร มูลค่าลำลำกว่า 5 พันล้านบาท ก่อนจะเปิดทำการบินในปี 2548 เส้นทาง กทม.-นิวยอร์ก ในปี 2548 ต่อมาได้เปลี่ยนเที่ยวบินตรงไปยังลอสแอนเจลิสแทน แต่เนื่องด้วยเครื่องบินรุ่นนี้ใช้น้ำมันมาก และประสบปัญหาขาดทุนสะสมกว่า 7 พันล้านบาท คณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย จึงได้สั่งระงับไปในปี พ.ศ.2551 จนกลายเป็นมหากาพย์แอร์บัสฉาว ที่ประเมินมูลค่าความเสียหายจนถึงปัจจุบันหลายหมื่นล้าน โดยก่อนหน้านี้ได้ปรากฏภาพฝูงบินดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่สนามบินอู่ตะเภา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และ บมจ.การบินไทย ก็พยายามประกาศขาย แต่ยังไม่สามารถขายได้มาจนถึงปัจจุบัน
เครื่องบินแอร์บัส A340-600 ทะเบียน HS-TNA นามพระราชทาน วัฒนานคร, ทะเบียน HS-TNB นามพระราชทาน สระบุรี, ทะเบียน HS-TNC นามพระราชทาน ชลบุรี, ทะเบียน HS-TND นามพระราชทาน เพชรบุรี, ทะเบียน HS-TNE นามพระราชทาน นนทบุรี และทะเบียน HS-TNF นามพระราชทาน แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันจอดอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อรอดำเนินการ, เครื่องบินโบอิ้ง B747-400 ทะเบียน HS-TGP นามพระราชทาน เทพประสิทธิ์ เพิ่งปลดประจำการเมื่อ 27 ก.พ. 63, ทะเบียน HS-TGY นามพระราชทาน ดารารัศมี เป็นต้น
ส่วนเครื่องบินที่ยังประจำการอยู่ แต่ได้ประกาศขายในครั้งนี้ มี 20 ลำ ได้แก่ เครื่องบินโบอิ้ง B747-400 ทะเบียน HS-TGO นามพระราชทาน บวรรังษี เคยใช้ลายเรือสุพรรณหงส์, ทะเบียน HS-TGW นามพระราชทาน วิสุทธิกษัตริย์ ลายสตาร์อัลไลแอนซ์, ทะเบียน HS-TGX นามพระราชทาน ศิริโสภาคย์, ทะเบียน HS-TGZ นามพระราชทาน พิมรา, ทะเบียน HS-TGA นามพระราชทาน ศรีสุริโยทัย, HS-TGB นามพระราชทาน ศรีสัชนาลัย, ทะเบียน HS-TGF นามพระราชทาน ศรีอุบล และทะเบียน HS-TGG นามพระราชทาน ปทุมาวดี
เครื่องบินโบอิ้ง B777-200 ทะเบียน HS-TJA นามพระราชทาน ลำพูน, ทะเบียน HS-TJB นามพระราชทาน อุทัยธานี, HS-TJC นามพระราชทาน นครนายก, ทะเบียน HS-TJD นามพระราชทาน มุกดาหาร, ทะเบียน HS-TJG นามพระราชทาน ปัตตานี และทะเบียน HS-TJH นามพระราชทาน สุพรรณบุรี และเครื่องบินโบอิ้ง B777-300 ทะเบียน HS-TKA นามพระราชทาน ศรีวรรณา, ทะเบียน HS-TKB นามพระราชทาน ชัยนารายณ์, ทะเบียน HS-TKC นามพระราชทาน ขวัญเมือง, ทะเบียน HS-TKD นามพระราชทาน เทพาลัย, ทะเบียน HS-TKE นามพระราชทาน สุคิริน และทะเบียน HS-TKF นามพระราชทาน ละหานทราย ลายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์