xs
xsm
sm
md
lg

โลกลุ้น...‘ทรัมป์’ หรือ ‘ไบเดน’?

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์



ประชาคมทั่วโลกที่สนใจเหตุการณ์บ้านเมืองต่างเฝ้ารอด้วยใจระทึก กับผลการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์แห่งพรรครีพับลิกัน และโจ ไบเดน คู่ชิงจากพรรคเดโมแครต ซึ่งขับเคี่ยวกันอย่างหนักจนนาทีสุดท้าย

วันที่ 3 พฤศจิกายน ตามเวลาสหรัฐฯ ประชาชนอเมริกันจะไปใช้สิทธิหย่อนบัตรเป็นวาระสุดท้าย หลังจากไปใช้สิทธิล่วงหน้าและลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์มานานกว่า 1 เดือน เป็นช่วงสำคัญที่คะแนนล็อตใหญ่สุดท้ายจะตัดสินผู้ชนะ

ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้สิทธิประมาณ 90 ล้านคน ถือว่ามากเป็นประวัติการณ์การเลือกตั้งของสหรัฐฯ และปีนี้น่าจะมีผู้ใช้สิทธิเกิน 65 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นศึกสำคัญเดิมพันสูง ว่ากันด้วยอนาคตของสหรัฐอเมริกา และความสัมพันธ์กับประชาคมโลก

จะมีความแตกต่างชัดเจนกับผลที่ตามมาในผู้ชนะระหว่างทรัมป์กับไบเดน ต่อสหรัฐฯ และคนทั่วโลก ทั้งความเสี่ยงต่อวิกฤตความขัดแย้งทั้งการค้า เศรษฐกิจ จนอาจนำไปสู่การใช้กำลังตัดสิน ซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาของคนทั่วไป แต่อาจเกิดขึ้นได้

มาถึงจุดนี้ ผลโพลต่างๆ แสดงว่าไบเดนยังนำ แต่ทรัมป์มีคะแนนเริ่มตีตื้นใกล้ชิด น่าจะวัดดวงกันด้วยคะแนนในเพียงไม่กี่รัฐสำคัญซึ่งมีจำนวนตัวแทนผู้ใช้สิทธิมากกว่ารัฐอื่นๆ และเป็นพื้นที่ช่วงชิงคะแนนในวันสุดท้ายก่อนยุติการหาเสียง

ถ้าทรัมป์ชนะ ความลำพองโอหังจะยิ่งกว่าเสือติดปีกพ่นไฟ จะหาเรื่องไปทั่ว แสดงอำนาจบาตรใหญ่กับประเทศที่ทาบชั้นไม่ได้ แต่จะวอแวกับขาประจำหลักเช่นจีน เกาหลีเหนือ อิหร่าน และอาจมีรัสเซียเป็นบางช่วง ถ้าทรัมป์กร้าว ห้าวเกินพิกัด

ที่สำคัญ คนอเมริกันจะเสี่ยงตาย และเจ็บป่วยกับการระบาดของโคโรนาไวรัสอย่างมาก เพราะก่อนลงคะแนนเสียง คนป่วยติดเชื้อในสหรัฐฯ บางวันมากเกือบ 1 แสนคน เป็นตัวเลขสูงสุด แสดงให้เห็นการระบาดอย่างหนักก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว

ยิ่งทรัมป์ไม่ใส่ใจต่อมาตรการตรวจคุมเข้มเสนอโดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทำเนียบขาว ดร.แอนโทนี เฟาชี่ และไม่เชื่อหลักวิทยาศาสตร์ด้วยแล้ว คนอเมริกันก็จะเสี่ยงมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะทรัมป์ไม่สนใจการระบาด มุ่งห่วงแต่ภาวะเศรษฐกิจ

การหาเสียงในช่วงสุดท้าย ทรัมป์ได้โจมตีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าปั่นตัวเลขผู้ติดเชื้อเพื่อให้ได้งบประมาณมากๆ ข้อกล่าวหาไม่มีหลักฐาน และฟ้องให้เห็นความล้มเหลวในการจัดการโดยทรัมป์ และยืนยันโดยคนใกล้ชิด

“ทำเนียบขาวยอม และจะไม่ใส่ใจในเรื่องการควบคุมการระบาดอีกต่อไป” นั่นเป็นคำพูดของนายมาร์ค มีโดว์ส หัวหน้าสำนักงานของทรัมป์ เป็นการยอมรับโดยดุษฎีว่ารัฐบาลหมดหนทางจะจัดการควบคุมการระบาดได้แต่ทรัมป์โทษกลุ่มแพทย์

ประเด็นนี้เป็นเรื่องความเป็นความตายของคนอเมริกัน และการระบาดอย่างหนักจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ สภาวะเศรษฐกิจ จนไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าทรัมป์ชนะ สหรัฐฯ จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว คนส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน จะเสี่ยงติดเชื้อสูง

คณะแพทย์คาดกันว่า จากตัวเลขคนอเมริกันติดเชื้อแตะ 10 ล้านคน และคนเสียชีวิตเกือบ 2.4 แสนคน โอกาสที่ตัวเลขคนเสียชีวิตจะสูงถึง 4 แสนคนในเดือนกุมภาพันธ์ก็มีความเป็นไปได้สูง ถ้าทรัมป์ชนะ และปล่อยให้มีการติดเชื้อเป็นวงกว้าง

ขณะนี้ยุโรปได้ปิดประเทศด้วยมาตรการเข้มหลังการระบาดหนัก มีคนติดเชื้อและเสียชีวิตมากจนน่าตกใจ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก เช่น โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ออสเตรีย

ด้านการเมือง ทรัมป์จะไม่ทำให้ความสัมพันธ์กับกลุ่มพันธมิตรดีขึ้นจากที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศยุโรปภายใต้ภาคีนาโต ขณะที่สหรัฐฯ ก็สูญเสียความเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศเหล่านี้ เพราะคำพูดที่หมิ่นเกียรติภูมิโดยทรัมป์

ถ้าทรัมป์ชนะ ก็จะพยายามเล่นงานจีนอย่างหนักกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งมาตรการกำแพงภาษีและมาตรการอื่นๆ ด้านเศรษฐกิจ บริษัทจีนที่ทรัมป์มองว่าเกี่ยวโยงกับรัฐบาลจีนจะโดนเล่นงานด้วย เพื่อกดดันจีนให้ยอมรับสภาพการนำของสหรัฐต่อไป

ด้านการทหาร ทรัมป์จะเร่งมือในการควบคุมบทบาทของจีนในทะเลจีนใต้ ก่อนสิ้นปีมีการซ้อมรบทางทะเลกับกลุ่ม 4 ประเทศ นั่นคือสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลียและอินเดีย ซึ่งเป็นความพยายามปิดล้อมจีน ซึ่งแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและการทหาร

ทรัมป์จะแสดงอำนาจกับอิหร่าน แต่อาจจะแหยงกับเกาหลีเหนือเพราะเดาทิศทางและอารมณ์ผู้นำ คิม จองอึนไม่ได้ อาจจะเพียงและเล็มอ่อยอาการว่าอยากเจรจาต่อในลีลาของคนหน้าเนื้อใจเสือ เพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้าประเทศเล็ก

ถ้าโจ ไบเดนชนะ คนอเมริกันอาจเผชิญความเสี่ยงกับการติดเชื้อและเสียชีวิตน้อยลง เพราะจะมุ่งจัดการปัญหาการระบาดอย่างจริงจัง ภายในประเทศจะมุ่งเยียวยาสมานฉันท์กับรอยร้าวระหว่างกลุ่มคนผิวสีต่างๆ ซึ่งร้ายแรงช่วงของทรัมป์

ความสัมพันธ์กับยุโรปและสมาชิกนาโตก็เช่นกัน ไบเดนจะพยายามฟื้นฟูสภาวะการเป็นผู้นำ ซึ่งจะไม่ง่ายเพราะความร้าวลึกได้เกิดขึ้นในช่วงของทรัมป์ และหลายประเทศได้รับผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษีทำภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ด้านจีน ไบเดนอาจไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะต้องเอาใจกลุ่มนายทหารและฝ่ายความมั่นคงสายเหยี่ยวซึ่งมองจีนเป็นศัตรูคู่แข่งสำคัญ แต่ชาวโลกน่าจะไม่ต้องเส้นกระตุกกับการคาดเดาได้ยากของทรัมป์ในการเปลี่ยนนโยบายหลัก

สุดท้ายต้องรอดูว่า ถ้าฝ่ายใดชนะ อีกฝ่ายจะยอมง่ายๆ หรือไม่ โดยเฉพาะทรัมป์ อาจเกิดศึกฟ้องร้องในศาลลากยาวโดยที่คนอเมริกันยังเป็นเหยื่ออีกต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น