xs
xsm
sm
md
lg

อเมริการับวิกฤตหลายด้าน

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์



คนทั้งโลกยังคงต่อสู้กับการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งกำลังแสดงแสนยานุภาพในหลายพื้นที่ นอกจากยังไม่มีวัคซีนป้องกันพร้อมรับประกันคุณภาพว่าได้ผลเต็มร้อยแล้ว การแตกตัวผ่าเหล่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ยากต่อการตั้งรับ

ล่าสุดสายพันธุ์จี ถูกวิเคราะห์ว่ามีศักยภาพในการติดเชื้อรวดเร็วและเป็นวงกว้างกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ ยารักษาที่ผลิตออกมาจำหน่ายในราคาค่อนข้างแพงยังไม่ทั่วถึง ไม่มีรับประกันเช่นกันว่าได้ผลเต็มที่ หลายประเทศต้องยอมรับสภาพ

การระบาดที่แพร่กระจายในหลายประเทศขณะนี้เป็นระลอก 2 หลังจากมาตรการคลายล็อกเพื่อให้การทำมาค้าขายเป็นไปตามปกติเพราะเกิดวิกฤตภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง นั่นทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ บางแห่งคุมเข้มเช่นเดิม

ดังเช่นรัฐวิคตอเรียของออสเตรเลียซึ่งประกาศปิดล็อกอีกรอบ และประกาศห้ามออกนอกบ้านยามค่ำคืนสำหรับคนในเมืองเมลเบิร์น หลังจากออสเตรเลียมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันหลายร้อยคน ทำให้ต้องมีคำสั่งเข้มงวดสำหรับประชาชน

การระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นในยุโรปตะวันตก ในประเทศอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และเพื่อนบ้าน เช่น เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ขณะที่ในเยอรมนีมีความเสี่ยงเพิ่มเมื่อกลุ่มขวาจัดและนีโอนาซีจัดชุมนุมประท้วงใหญ่ในกรุงเบอร์ลิน

มีคนไปร่วมด้วยกว่า 2 หมื่นคนในวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่ทิ้งระยะห่างตามคำแนะนำ เพราะการประท้วงก็มีเป้าหมายคือต้องการคัดค้านมาตรการคุมเข้มเรื่องสวมหน้ากากและการทิ้งระยะ ดูแล้วน่าสยดสยองมาก

ถ้าคำขอร้อง หรือคำสั่งไร้ความหมาย ความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการระบาดเป็นวงกว้างก็เป็นไปได้ เพราะรอบเยอรมนีก็ยังระบาด รวมทั้งยุโรปตะวันออกด้วย

ในสหรัฐฯ ต้องเผชิญวิกฤต 3 อย่างคือการระบาดรอบ 2 ซึ่งไปได้เร็ว กระจายเป็นวงกว้างในหลายมลรัฐ สภาวะเศรษฐกิจถดถอย คนว่างงาน และปัญหาการชุมนุมประท้วงการเหยียดสีผิวซึ่งมีความรุนแรง ความเสียหายด้านทรัพย์สินมากมาย

ดัชนีตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ยังสวนทางกับสภาวะที่ย่ำแย่ ค่าเงินดอลลาร์เริ่มมีปัญหาเมื่อคนเริ่มหันไปหาทองคำเพื่อความมั่นคงในระยะยาว การเมืองซึ่งไม่แน่นอนทำให้แผนการตั้งรับการระบาดไม่ได้ผล โดยเฉพาะผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งสิ้นสภาพ

โดนัลด์ ทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของวิกฤตการระบาด เพราะขัดแย้งกับกลุ่มแพทย์และหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใส่ใจด้านการรณรงค์เรื่องสวมหน้ากากอนามัยในช่วงแรก สั่งการผิดพลาด และนโยบายไม่ได้รับการยอมรับโดยผู้ว่าการรัฐพรรคเดโมแครต

ทรัมป์ยังไม่ยอมรับคำแนะนำของกลุ่มแพทย์จากองค์กรหลักของประเทศ ทั้งยังไปทะเลาะ หาเรื่องยกเลิกการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก ซึ่งผิดปกติวิสัยของผู้นำประเทศมหาอำนาจอันดับ 1 ซึ่งจะต้องเป็นผู้นำประชาชาติในโลกสู้การระบาด

แต่ผู้นำทำเนียบขาวมุ่งเล่นการเมือง หาความนิยม ไม่คำนึงถึงความเสียหายของฐานรากและโครงสร้างเศรษฐกิจ ด้วยการเปิดสงครามการค้ากับจีน ส่งผลกระทบเกิดความปั่นป่วนไปทั่วโลก เมื่อถูกซ้ำเติมโดยโควิด-19 ทำให้สถานการณ์รุนแรงมาก

ทำให้คนอเมริกันว่างงานกว่า 20 ล้านคน การขยายตัวของเศรษฐกิจติดลบหนักกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ใน 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ ทำให้โอกาสฟื้นตัวเป็นไปได้ยากเพราะการระบาดระลอก 2 ทำท่าจะรุนแรงกว่าระลอกแรก อาจเกินการรับมือได้ผล

ดังนั้น สหรัฐฯ จึงอยู่ในสภาพหนักหนาสาหัส เพราะวิกฤตทั้ง 3 ประเภทมีความเชื่อมโยง ส่งผลกระทบต่อกันและกัน ทรัมป์เหมือนอยู่ในสภาพไร้ความสามารถในการนำ ธาตุไฟรวน คร่ำครวญว่าทำไมหมอแอนโทนี เฟาซี มีชื่อเสียงมากกว่าตนเอง

ล่าสุดออกมาโอดครวญให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “ไม่มีใครรักผมเลย” นับว่าเป็นเอามาก และผลที่ตามมาคือความนิยมตกต่ำกว่าคู่แข่ง โจ ไบเดน ถึง 2 หน่วย เสี่ยงถึงขั้นว่าจะแพ้การเลือกตั้งหลุดลุ่ย เพียงแต่หวังว่าคนผิวขาวจะยังเทคะแนนให้อยู่

โจ ไบเดน ไม่มีอะไรโดดเด่น ทั้งยังอายุมากถึง 79 ปี เพียงแต่ว่าทรัมป์ทำตัวเองในด้านความยโส ความโอหัง ใช้วิธีโกหก พ่นแต่ลมโม้ และไร้ยางอาย ทำให้ผู้นำชาติมหาอำนาจอื่นๆ มองว่าขาดความสามารถ อารมณ์แปรปรวนถึงขั้นผิดปกติ

การประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเพื่อรับรองทรัมป์ให้เป็นผู้ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ถูกมองว่าเป็นความถดถอย เพราะสั่งห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าว ซึ่งถือว่าเป็นความพิสดารอย่างมาก

นั่นคืออีกปัญหาของทรัมป์ในการมองว่าสื่อทำตัวเป็นศัตรู มีเพื่อนเพียงแค่สถานีทีวี ฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งเป็นข่าวนิยมขวาจัด แม้จะมีชื่อเสียงเสียหายด้านข้อมูลไม่แม่นยำ และการอ้างข้อมูลผิดพลาด ทำให้ทรัมป์ขาดความน่าเชื่อถือต่อเนื่อง

แม้แต่แกนนำพรรครีพับลิกันก็ยังป่าวร้องบอกพวก ส.ส., ส.ว. ผู้ว่าการมลรัฐ และเจ้าหน้าที่ระดับอื่นๆ ที่ต้องเข้ารับเลือกตั้งพร้อมกับประธานาธิบดี ว่าถ้าจำเป็นต้องถอยห่างจากทรัมป์ เพื่อไม่ให้เสียคะแนน หรือเสี่ยงที่จะแพ้ ก็ต้องทำ

คนอเมริกันเริ่มสงสัยว่าถ้าทรัมป์พ่ายแพ้ จะหาทางยื้ออยู่ในตำแหน่ง ด้วยการฟ้องศาล อ้างว่ามีการโกงในการลงคะแนนทางไปรษณีย์หรือไม่ และถ้ายืดเยื้ออย่างนั้นหลายเดือน หรือเป็นปี ตามที่ทรัมป์ขู่ไว้ จะหาทางออกอย่างไรได้รวดเร็ว

ก่อนหน้านี้ทรัมป์อาจโยนหินถามทาง รวมทั้งเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ถูกคนในพรรคเดียวกันทักท้วงว่าไม่เคยทำมาก่อนแม้ในยามสงคราม หรือวิกฤตเศรษฐกิจ และสภาคองเกรสเท่านั้นมีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้ง หรือเลื่อนวัน ถ้าจะมี

รอดูว่า เหลือไม่ถึง 100 วันก่อนเลือกตั้ง ทรัมป์จะทำอะไรให้ตัวเองดีขึ้นได้บ้าง

โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต


กำลังโหลดความคิดเห็น