ผู้จัดการรายวัน 360 - เครือข่ายปกป้องสถาบัน บุกสถานทูตสหรัฐฯ จี้หยุดแทรกแซงกิจการประเทศไทย เสื้อเหลืองนัดรวมพลังปกป้องสถาบัน "บิณฑ์" นัดรวมพลเสื้อเหลือง-ชมพู ที่วัดพระแก้ว 1 พ.ย. 'ไพศาล' เผยอดีตทหารผ่านศึกพร้อมพลีชีพปกป้องสถาบัน "หมอวรงค์" อัดยับ ม็อบ 3 นิ้ว สนองนักการเมืองชั่ว "ต่อตระกูล"ฟันธงม็อบยกระดับ ไม่ไล่แค่รัฐบาลแล้ว "ศรีสุวรรณ"บี้ฟันอาญาม็อบบุกสถานทูต ตำรวจเตรียมดำเนินคดี'ม็อบราษฎร'
วานนี้ (27 ต.ค.) กลุ่มเครือข่ายปกป้องสถาบัน นำโดย นางหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ นักร้องชื่อดัง และนายศาสตรา โตอ่อน นักวิชาการอิสระ เดินทางมาที่สถานเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ พร้อมเปิดเผยว่า ต้องการแสดงพลังให้เคารพกิจการภายในของประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน และเชื่อว่า คนอเมริกันจำนวนมากก็รักประเทศไทยเช่นเดียวกัน
แต่วันนี้ประเทศไทยมีความแตกแยกทางความคิดเป็นจำนวนมาก หากเป็นเรื่องการเมือง ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่มีการโจมตีสถาบัน ซึ่งสถาบันถือเป็นความมั่นคงของชาติ และยึดโยงจิตใจของคนทั้งชาติ จึงขออย่านำการเมืองมาโยงกับสถาบัน พร้อมยืนยันว่า สถาบันไม่ได้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมา มีการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ และมีข้อมูลหลักฐานที่บ่งชี้แน่นอน ว่ามีการปั่นกระแสจากนอกประเทศ ซึ่งจะใช้ประเทศไทยเปรียบเสมือนฮ่องกงไม่ได้
สาเหตุของการรัฐประหารเกิดจากนักการเมืองที่ไม่เคารพกฎหมาย รัฐธรรมนูญมีช่องโหว่ ทำให้เกิดการทุจริตโดยอ้างระบอบประชาธิปไตย ทำให้ประเทศชาติสูญเสียความมั่นคงและประโยชน์ ไม่ใช่สถาบัน
นางหฤทัย ยังยืนยันว่า การรวมมวลชนฝ่ายที่ปกป้องสถาบันไม่ให้มีการจาบจ้วงนั้นยังไม่ได้เริ่มต้น แต่เร็วๆนี้ อาจจะมีการรวมมวลชนจากทั่วประเทศ แต่ต้องหารือกันก่อน
มวลชนเสื้อเหลืองรวมพลังปกป้องสถาบัน
ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา เกียกกาย กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และภาคีเครือข่ายหลายกลุ่มประมาณ 400 คน สวมสีเสื้อเหลืองทยอยเดินทางมาชุมนุมด้วยรถบัสเพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการปกป้องสถาบัน และให้กำลังใจรัฐบาลทำงาน
ขณะที่นายวิชิต ชิตวิเศษ หรือกำนันเผือก ระบุว่า นำมวลชนประมาณ 1,600 คนทั้งจาก จ.ชลบุรี และจ.สมุทรปราการ มารอให้กำลังใจรัฐบาล โดยยืนยันว่าไม่มีการปักหลักค้างคืน
ขณะที่นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ร่วมใจคนไทยใส่เสื้อสีเหลืองถือพระบรมรูปในหลวง ร.๙ และ ร.๑๐ เวลา 17.00 น. ที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ ๖ สวนลุมพินี เพื่อแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” โดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก พร้อมตะโกน "เรารักพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ เรามาด้วยใจ มาแสดงออกเพื่อปกป้องสถาบัน เราจะสู้ไปด้วยกัน ไม่ต้องการให้ใครมาจาบจ้วงสถาบัน หากอยากอยู่ประเทศไทยอย่าคิดล้มสถาบัน"
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ประกาศนัดรวมพล
ด้านบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้โพสต์ข้อความประกาศนัดรวมพลคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำจาบจ้วงต่อสถาบัน โดยบอกว่า เจอกันในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่วัดพระแก้ว โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า
"กราบขอบคุณทุกๆท่าน ที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทยทั้งประเทศ ผมไม่ได้สร้างความแตกแยก แต่อยากจะสร้างความรักที่มีต่อชาติ ศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ ให้สืบต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ยังมีคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขา เช่น ยกนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จฯ ฉีก พระบรมฉายาลักษณ์ ทำคลิปออกมาล้อเลียนพระมหากษัตริย์ ผมขอพลังอันเป็นมหาพลังของทุกคนชาวไทยที่ยังมีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในหัวใจ ลุกขึ้นมาปกป้องและเป็นกำลังใจให้พระองค์ท่านด้วยนะครับ
วันที่ 1 พ.ย.2563 เวลา 16.00 น. เจอกันที่วัดพระแก้วนะครับ เสื้อเหลืองกับชมพู งามจับตาครับ
วันนี้มีเพจปลอมบอกว่าผมนัดให้ออกมา อย่าไปเชื่อนะครับ หน้าแฟนเพจ ของผมต้อง 9,500,000 คน ถ้าหลักหมื่นอย่าไปอ่านอย่าไปสนใจครับ กราบขอบคุณทุกๆท่านครับผม.."
"ไพศาล" จี้รัฐบาลหาตัวบุคคลล้มเจ้า
นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่า กระแสพิทักษ์ปกป้องสถาบันฮือโหมทั่วประเทศ อดีตทหารผ่านศึกทั่วประเทศประสานงานกันกึกก้องว่า ได้รับใช้ชาติศาสน์กษัตริย์ โดยมีชีวิตเป็นเดิมพันมาตลอดชีวิต จะไม่ยอมให้ใครจาบจ้วงรังแกระรานสถาบันอีกแล้ว พร้อมพลีชีพทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย!!!! แต่ไม่เกี่ยวกับการปกป้องรัฐบาล
สถานการณ์นับถึงขณะนี้ 1.ขบวนการล้มเจ้านั้นมีจริงแท้แน่นอน เป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องทราบตัวบุคคลให้ชัดเจนและหลักฐานการกระทำเพราะเป็นความผิดตามกฎหมาย2.ขบวนการโหนเจ้าเป็นเกราะคุ้มกันทางการเมืองก็มีอยู่จริง ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องควรท้วงติงห้ามปรามให้หยุดการกระทำเช่นนี้เสีย! ใครจะปกป้องรัฐบาลก็ออกหน้าประกาศกันตรงๆ อย่าโหนเจ้ามาเป็นเกราะคุ้มกัน
ขณะเดียวกัน ได้โพสต์ถึงกรณีม็อบคณะราษฎรได้เดินทางไปสถานทูตเยอรมนี และสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า “ช่วยกันชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน!! พวกหนึ่งไปสถานทูตเยอรมันให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของพระมหากษัตริย์ ซึ่งข้อที่อ้างทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องการกระทำของ นักการเมืองและข้าราชการทั้งสิ้น
วันนี้อีกพวกหนึ่งจะไปที่สถานทูตอเมริกายังไม่รู้ว่าจะไปเรื่องอะไร แต่ทั้งหมดนี้ เป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน!!!
"ต่อตระกูล"ฟันธงม็อบยกระดับ
นายต่อตระกูล ยมนาค นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ ต่อตระกูล ยมนาค ระบุส่วนหนึ่งว่า ...คณะราษฎร์ 2563 Go Inter ! ใช้ชื่อ "คณะราษฎร อินเตอร์เนชันแนล" มีโลโก้ ที่แสดงความสืบต่อ มาจากเครื่องหมายบนหมุดทองเหลืองของคณะราษฎร์ 2475 ที่เคยปักอยู่บนลานถนนข้างพระบรมรูปทรงม้า ใช้เป็นครั้งแรกเป็นหัวจดหมาย มอบต่อทูตเยอรมันเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ในจดหมายมีข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน
แกนนำผู้ชุมนุมประกาศว่า จะยกระดับการชุมนุมให้มากขึ้น และจะไม่ไล่แค่รัฐบาลแล้ว !
'หมอวรงค์'อัดยับ!ม็อบ3นิ้ว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ว่า ได้ติดตามข้อเรียกร้องของม็อบปลดแอก ที่ยื่นสถานทูตเยอรมัน อ่านแล้วรู้สึกหดหู่ ต่อเหตุและผลของการเรียกร้องการกล่าวหาองค์พระมหากษัตริย์ในข้อต่างๆ จึงไม่มีเหตุผล ที่บ่งบอกถึงปัญหาที่กระทบต่อรัฐบาล และประชาชน แต่กลายเป็นอคติคิดล้มล้าง ด้วยการดึงต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง
การอ้างเรื่องการใช้อำนาจอธิปไตย ในดินแดนเยอรมัน เพราะอำนาจอธิปไตย เป็นเรื่องของการใช้อำนาจของรัฐบาล นิติบัญญัติและตุลาการ แค่นี้ก็เป็นการใส่ร้ายแบบผิดๆ แต่ความจริงพวกที่ลี้ภัยต่างประเทศ ที่จ้องล้มล้างการปกครองนี่ต่างหาก คือพวกใช้แผ่นดินต่างชาติแทรกแซงอธิปไตยของไทยกลับไม่สนใจ
ไม่ต้องเอ่ยถึงข้อกล่าวหา ที่ไปทรมาน อุ้มหายที่กล่าวหาใส่ร้ายลอยๆ แค่คดีทนายสมชาย นีละไพจิตร เอกยุทธ์ อัญชัญบุตร ชิปปิ้งหมู ฆ่าตัดตอน 2000 ศพ คดีฆ่าที่ตากใบ กรือเซะ นี่คือเหตุการจริงๆกลับไม่พูดถึง หรือแม้แต่เรียกร้องรัฐบาลเยอรมัน ให้ดำเนินการเรื่องภาษี ก็กลายเป็นสิ่งที่อ้างลอยๆ ข้อกล่าวหาต่างๆที่เพื่อสนองนักการเมืองชั่ว ที่สมคบจักรวรรดิ์นิยมต่างชาติ
#ทุนสามานย์จงพินาศประเทศชาติจะพ้นภัย.
ม็อบบุกสถานทูตผิดอาญา9ข้อหาหนัก
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณี กลุ่มราษฎร 2563 ได้จัดการชุมนุมเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่หน้าสถานทูตเยอรมนี เพื่อยื่นหนังสือไปยังเอกอัครราชทูตฯ โดยมีข้อเรียกร้องในลักษณะกล่าวหาสถาบันกษัตริย์อย่างรุนแรง อีกทั้งมีพฤติการณ์และหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ ที่ก้าวล่วงศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ตามรธน. มาตรา 6 ที่บัญญัติไว้ว่า "องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้"
กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวได้ล่วงละเมิดกฎหมายอาญาแผ่นดินหนักๆ หลายข้อหา ดังนี้
1. ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตาม ป.อาญา ม. 112 ข้อหาที่ 2. ข้อหากบฏ ตาม ป.อาญา ม. 113 ข้อหาที่ 3. ข้อหาก่อความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 116 ข้อหาที่ 4. มั่วสุม 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ข้อหาที่ 5. กีดขวางทางสาธารณะ ข้อหาที่ 6. ชุมนุมสาธารณะโดยไม่ขออนุญาต ข้อหาที่ 7. กีดขวางจราจร ข้อหาที่ 8. ข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาที่ 9 . ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ความผิดดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ สามารถกล่าวโทษ ดำเนินการออกหมายเรียก หรือหมายจับมาทำการสอบสวน เอาผิด ตามครรลองของกฎหมายได้เลย โดยมิจำต้องรอให้ผู้ใดมาแจ้งความกล่าวโทษ เพราะเป็นความผิดอาญาของแผ่นดิน ซึ่งถ้าตำรวจไม่รีบจัดการ ก็อาจมีความผิดตาม ป.อาญา ม.157 ได้
'ตำรวจ'เตรียมดำเนินคดี'ม็อบราษฎร'
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎ ชุมนุมบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ว่า กรณีดังกล่าวสถานีตำรวจนครบาลเตรียมจะแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนภาพรวมของการชุมนุมเมื่อวาน พบการกระทำความผิดตั้งแต่การรวมตัวกันที่บริเวณสามย่านมิตรทาวน์ ทางพ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัยผกก.สน.ปทุมวัน ได้แจ้งให้ยุติการชุมนุมแต่ผู้ชุมนุมก็ยังฝ่าฝืน กรณีดังกล่าวมีการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวโดยตลอด
“ เบื้องต้นมีความผิดพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะส่วนหนึ่ง ส่วนความผิดอื่นๆ ในการขึ้นเวทีปราศรัยในแต่ละส่วน ถ้ามีการยุยงก่อให้เกิดความวุ่นวายก็เป็นความผิดอีกส่วนหนึ่งหรือหมิ่นประมาท ให้ร้ายหรือประทุษร้าย ก็จะเป็นความผิดเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ”
ส่วนการดำเนินคดีในภาพรวมกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทางบช.น. มีพล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผบช.น. ดูแลสำนวนคดีดังกล่าว และมีทีมสืบสวนสอบสวนลงไปช่วยสถานีตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการยุติพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็ยังมีการออกหมายจับอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่มีการออกหมายเรียกการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุนเฉินร้ายแรงในกรุงเทพมหานครพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด 34 หมายนั้น เนื่องจากพ.ร.ก.ฉุนเฉินยังคงมีอยู่เพียงแต่ยกเลิกข้อกำหนดในกฎหมายเท่านั้น การดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าวยังคงมีอยู่
ทั้งนี้ กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะไปชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์คในวันที่ 29 ตุลาคมนี้อีกครั้งพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการชุมนุมบริเวณดังกล่าวจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมการรับมือไว้เช่นเดิม โดยใช้กำลังจากบก.น.5 - บก.น.6 ร่วมกัน มีการแบ่งพื้นที่ที่ทำการส่วนหน้ามีผู้บริหารกำลังแต่ละส่วน โดยจะใช้ประมาณ 4-6 กองร้อยต่อ 1 ผลัด เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ไม่กว้างมีเพียงแค่3,000 - 5,000 คนก็เต็มพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่สกายวอล์คได้แค่เพียง 800 คน จึงขอฝากเตือนว่าสกายวอล์คนั้นมีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างเพื่อสัญจรไปมา โครงสร้างอาจจะไม่ได้รองรับน้ำหนักของผู้ชุมนุมเมื่อมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากอาจจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างบริเวณดังกล่าวอาจเกิดอุบัติเหตุได้
วานนี้ (27 ต.ค.) กลุ่มเครือข่ายปกป้องสถาบัน นำโดย นางหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ นักร้องชื่อดัง และนายศาสตรา โตอ่อน นักวิชาการอิสระ เดินทางมาที่สถานเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ พร้อมเปิดเผยว่า ต้องการแสดงพลังให้เคารพกิจการภายในของประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน และเชื่อว่า คนอเมริกันจำนวนมากก็รักประเทศไทยเช่นเดียวกัน
แต่วันนี้ประเทศไทยมีความแตกแยกทางความคิดเป็นจำนวนมาก หากเป็นเรื่องการเมือง ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่มีการโจมตีสถาบัน ซึ่งสถาบันถือเป็นความมั่นคงของชาติ และยึดโยงจิตใจของคนทั้งชาติ จึงขออย่านำการเมืองมาโยงกับสถาบัน พร้อมยืนยันว่า สถาบันไม่ได้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมา มีการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ และมีข้อมูลหลักฐานที่บ่งชี้แน่นอน ว่ามีการปั่นกระแสจากนอกประเทศ ซึ่งจะใช้ประเทศไทยเปรียบเสมือนฮ่องกงไม่ได้
สาเหตุของการรัฐประหารเกิดจากนักการเมืองที่ไม่เคารพกฎหมาย รัฐธรรมนูญมีช่องโหว่ ทำให้เกิดการทุจริตโดยอ้างระบอบประชาธิปไตย ทำให้ประเทศชาติสูญเสียความมั่นคงและประโยชน์ ไม่ใช่สถาบัน
นางหฤทัย ยังยืนยันว่า การรวมมวลชนฝ่ายที่ปกป้องสถาบันไม่ให้มีการจาบจ้วงนั้นยังไม่ได้เริ่มต้น แต่เร็วๆนี้ อาจจะมีการรวมมวลชนจากทั่วประเทศ แต่ต้องหารือกันก่อน
มวลชนเสื้อเหลืองรวมพลังปกป้องสถาบัน
ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา เกียกกาย กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และภาคีเครือข่ายหลายกลุ่มประมาณ 400 คน สวมสีเสื้อเหลืองทยอยเดินทางมาชุมนุมด้วยรถบัสเพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการปกป้องสถาบัน และให้กำลังใจรัฐบาลทำงาน
ขณะที่นายวิชิต ชิตวิเศษ หรือกำนันเผือก ระบุว่า นำมวลชนประมาณ 1,600 คนทั้งจาก จ.ชลบุรี และจ.สมุทรปราการ มารอให้กำลังใจรัฐบาล โดยยืนยันว่าไม่มีการปักหลักค้างคืน
ขณะที่นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ร่วมใจคนไทยใส่เสื้อสีเหลืองถือพระบรมรูปในหลวง ร.๙ และ ร.๑๐ เวลา 17.00 น. ที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ ๖ สวนลุมพินี เพื่อแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” โดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก พร้อมตะโกน "เรารักพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ เรามาด้วยใจ มาแสดงออกเพื่อปกป้องสถาบัน เราจะสู้ไปด้วยกัน ไม่ต้องการให้ใครมาจาบจ้วงสถาบัน หากอยากอยู่ประเทศไทยอย่าคิดล้มสถาบัน"
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ประกาศนัดรวมพล
ด้านบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้โพสต์ข้อความประกาศนัดรวมพลคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำจาบจ้วงต่อสถาบัน โดยบอกว่า เจอกันในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่วัดพระแก้ว โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า
"กราบขอบคุณทุกๆท่าน ที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทยทั้งประเทศ ผมไม่ได้สร้างความแตกแยก แต่อยากจะสร้างความรักที่มีต่อชาติ ศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ ให้สืบต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ยังมีคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขา เช่น ยกนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จฯ ฉีก พระบรมฉายาลักษณ์ ทำคลิปออกมาล้อเลียนพระมหากษัตริย์ ผมขอพลังอันเป็นมหาพลังของทุกคนชาวไทยที่ยังมีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในหัวใจ ลุกขึ้นมาปกป้องและเป็นกำลังใจให้พระองค์ท่านด้วยนะครับ
วันที่ 1 พ.ย.2563 เวลา 16.00 น. เจอกันที่วัดพระแก้วนะครับ เสื้อเหลืองกับชมพู งามจับตาครับ
วันนี้มีเพจปลอมบอกว่าผมนัดให้ออกมา อย่าไปเชื่อนะครับ หน้าแฟนเพจ ของผมต้อง 9,500,000 คน ถ้าหลักหมื่นอย่าไปอ่านอย่าไปสนใจครับ กราบขอบคุณทุกๆท่านครับผม.."
"ไพศาล" จี้รัฐบาลหาตัวบุคคลล้มเจ้า
นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่า กระแสพิทักษ์ปกป้องสถาบันฮือโหมทั่วประเทศ อดีตทหารผ่านศึกทั่วประเทศประสานงานกันกึกก้องว่า ได้รับใช้ชาติศาสน์กษัตริย์ โดยมีชีวิตเป็นเดิมพันมาตลอดชีวิต จะไม่ยอมให้ใครจาบจ้วงรังแกระรานสถาบันอีกแล้ว พร้อมพลีชีพทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย!!!! แต่ไม่เกี่ยวกับการปกป้องรัฐบาล
สถานการณ์นับถึงขณะนี้ 1.ขบวนการล้มเจ้านั้นมีจริงแท้แน่นอน เป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องทราบตัวบุคคลให้ชัดเจนและหลักฐานการกระทำเพราะเป็นความผิดตามกฎหมาย2.ขบวนการโหนเจ้าเป็นเกราะคุ้มกันทางการเมืองก็มีอยู่จริง ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องควรท้วงติงห้ามปรามให้หยุดการกระทำเช่นนี้เสีย! ใครจะปกป้องรัฐบาลก็ออกหน้าประกาศกันตรงๆ อย่าโหนเจ้ามาเป็นเกราะคุ้มกัน
ขณะเดียวกัน ได้โพสต์ถึงกรณีม็อบคณะราษฎรได้เดินทางไปสถานทูตเยอรมนี และสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า “ช่วยกันชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน!! พวกหนึ่งไปสถานทูตเยอรมันให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของพระมหากษัตริย์ ซึ่งข้อที่อ้างทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องการกระทำของ นักการเมืองและข้าราชการทั้งสิ้น
วันนี้อีกพวกหนึ่งจะไปที่สถานทูตอเมริกายังไม่รู้ว่าจะไปเรื่องอะไร แต่ทั้งหมดนี้ เป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน!!!
"ต่อตระกูล"ฟันธงม็อบยกระดับ
นายต่อตระกูล ยมนาค นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ ต่อตระกูล ยมนาค ระบุส่วนหนึ่งว่า ...คณะราษฎร์ 2563 Go Inter ! ใช้ชื่อ "คณะราษฎร อินเตอร์เนชันแนล" มีโลโก้ ที่แสดงความสืบต่อ มาจากเครื่องหมายบนหมุดทองเหลืองของคณะราษฎร์ 2475 ที่เคยปักอยู่บนลานถนนข้างพระบรมรูปทรงม้า ใช้เป็นครั้งแรกเป็นหัวจดหมาย มอบต่อทูตเยอรมันเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ในจดหมายมีข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน
แกนนำผู้ชุมนุมประกาศว่า จะยกระดับการชุมนุมให้มากขึ้น และจะไม่ไล่แค่รัฐบาลแล้ว !
'หมอวรงค์'อัดยับ!ม็อบ3นิ้ว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ว่า ได้ติดตามข้อเรียกร้องของม็อบปลดแอก ที่ยื่นสถานทูตเยอรมัน อ่านแล้วรู้สึกหดหู่ ต่อเหตุและผลของการเรียกร้องการกล่าวหาองค์พระมหากษัตริย์ในข้อต่างๆ จึงไม่มีเหตุผล ที่บ่งบอกถึงปัญหาที่กระทบต่อรัฐบาล และประชาชน แต่กลายเป็นอคติคิดล้มล้าง ด้วยการดึงต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง
การอ้างเรื่องการใช้อำนาจอธิปไตย ในดินแดนเยอรมัน เพราะอำนาจอธิปไตย เป็นเรื่องของการใช้อำนาจของรัฐบาล นิติบัญญัติและตุลาการ แค่นี้ก็เป็นการใส่ร้ายแบบผิดๆ แต่ความจริงพวกที่ลี้ภัยต่างประเทศ ที่จ้องล้มล้างการปกครองนี่ต่างหาก คือพวกใช้แผ่นดินต่างชาติแทรกแซงอธิปไตยของไทยกลับไม่สนใจ
ไม่ต้องเอ่ยถึงข้อกล่าวหา ที่ไปทรมาน อุ้มหายที่กล่าวหาใส่ร้ายลอยๆ แค่คดีทนายสมชาย นีละไพจิตร เอกยุทธ์ อัญชัญบุตร ชิปปิ้งหมู ฆ่าตัดตอน 2000 ศพ คดีฆ่าที่ตากใบ กรือเซะ นี่คือเหตุการจริงๆกลับไม่พูดถึง หรือแม้แต่เรียกร้องรัฐบาลเยอรมัน ให้ดำเนินการเรื่องภาษี ก็กลายเป็นสิ่งที่อ้างลอยๆ ข้อกล่าวหาต่างๆที่เพื่อสนองนักการเมืองชั่ว ที่สมคบจักรวรรดิ์นิยมต่างชาติ
#ทุนสามานย์จงพินาศประเทศชาติจะพ้นภัย.
ม็อบบุกสถานทูตผิดอาญา9ข้อหาหนัก
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณี กลุ่มราษฎร 2563 ได้จัดการชุมนุมเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่หน้าสถานทูตเยอรมนี เพื่อยื่นหนังสือไปยังเอกอัครราชทูตฯ โดยมีข้อเรียกร้องในลักษณะกล่าวหาสถาบันกษัตริย์อย่างรุนแรง อีกทั้งมีพฤติการณ์และหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ ที่ก้าวล่วงศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ตามรธน. มาตรา 6 ที่บัญญัติไว้ว่า "องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้"
กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวได้ล่วงละเมิดกฎหมายอาญาแผ่นดินหนักๆ หลายข้อหา ดังนี้
1. ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตาม ป.อาญา ม. 112 ข้อหาที่ 2. ข้อหากบฏ ตาม ป.อาญา ม. 113 ข้อหาที่ 3. ข้อหาก่อความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 116 ข้อหาที่ 4. มั่วสุม 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ข้อหาที่ 5. กีดขวางทางสาธารณะ ข้อหาที่ 6. ชุมนุมสาธารณะโดยไม่ขออนุญาต ข้อหาที่ 7. กีดขวางจราจร ข้อหาที่ 8. ข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาที่ 9 . ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ความผิดดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ สามารถกล่าวโทษ ดำเนินการออกหมายเรียก หรือหมายจับมาทำการสอบสวน เอาผิด ตามครรลองของกฎหมายได้เลย โดยมิจำต้องรอให้ผู้ใดมาแจ้งความกล่าวโทษ เพราะเป็นความผิดอาญาของแผ่นดิน ซึ่งถ้าตำรวจไม่รีบจัดการ ก็อาจมีความผิดตาม ป.อาญา ม.157 ได้
'ตำรวจ'เตรียมดำเนินคดี'ม็อบราษฎร'
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎ ชุมนุมบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ว่า กรณีดังกล่าวสถานีตำรวจนครบาลเตรียมจะแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนภาพรวมของการชุมนุมเมื่อวาน พบการกระทำความผิดตั้งแต่การรวมตัวกันที่บริเวณสามย่านมิตรทาวน์ ทางพ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัยผกก.สน.ปทุมวัน ได้แจ้งให้ยุติการชุมนุมแต่ผู้ชุมนุมก็ยังฝ่าฝืน กรณีดังกล่าวมีการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวโดยตลอด
“ เบื้องต้นมีความผิดพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะส่วนหนึ่ง ส่วนความผิดอื่นๆ ในการขึ้นเวทีปราศรัยในแต่ละส่วน ถ้ามีการยุยงก่อให้เกิดความวุ่นวายก็เป็นความผิดอีกส่วนหนึ่งหรือหมิ่นประมาท ให้ร้ายหรือประทุษร้าย ก็จะเป็นความผิดเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ”
ส่วนการดำเนินคดีในภาพรวมกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทางบช.น. มีพล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผบช.น. ดูแลสำนวนคดีดังกล่าว และมีทีมสืบสวนสอบสวนลงไปช่วยสถานีตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการยุติพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็ยังมีการออกหมายจับอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่มีการออกหมายเรียกการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุนเฉินร้ายแรงในกรุงเทพมหานครพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด 34 หมายนั้น เนื่องจากพ.ร.ก.ฉุนเฉินยังคงมีอยู่เพียงแต่ยกเลิกข้อกำหนดในกฎหมายเท่านั้น การดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าวยังคงมีอยู่
ทั้งนี้ กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะไปชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์คในวันที่ 29 ตุลาคมนี้อีกครั้งพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการชุมนุมบริเวณดังกล่าวจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมการรับมือไว้เช่นเดิม โดยใช้กำลังจากบก.น.5 - บก.น.6 ร่วมกัน มีการแบ่งพื้นที่ที่ทำการส่วนหน้ามีผู้บริหารกำลังแต่ละส่วน โดยจะใช้ประมาณ 4-6 กองร้อยต่อ 1 ผลัด เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ไม่กว้างมีเพียงแค่3,000 - 5,000 คนก็เต็มพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่สกายวอล์คได้แค่เพียง 800 คน จึงขอฝากเตือนว่าสกายวอล์คนั้นมีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างเพื่อสัญจรไปมา โครงสร้างอาจจะไม่ได้รองรับน้ำหนักของผู้ชุมนุมเมื่อมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากอาจจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างบริเวณดังกล่าวอาจเกิดอุบัติเหตุได้