ผู้จัดการรายวัน360- ครม.เห็นชอบเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ถกแก้ปัญหาวิกฤตชาติ คาด 26-27ต.ค. ม็อบ “เล่นเกมสับขาหลอก” ขู่ขีดเส้นตายม็อบทุกสถานีรถไฟฟ้า ให้ปล่อยแกนนำ-เลิกพรก.ฉุกเฉิน ก่อนทำ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ประกาศหยุดพัก นัดใหญ่วันนี้ นายกฯปลุกคนไทย "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี" ไฟเขียวเชือดสื่อบิดเบือนข่าว ยุงยง ปลุกปั่น กระทบความมั่นคงบ้านเมือง ‘เพื่อไทย’ร้องศาลแพ่งไต่สวนคุ้มครองชั่วคราว ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศาลนัดฟังคำสั่ง 22 ต.ค.นี้ “เสรีพิศุทธ์” ซัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นโมฆะ เหตุไม่ระบุวันหมดอายุด้าน กอร.ฉ.ใช้กำลัง 12 กองร้อย 1,860 นาย ดูแลการชุมนุม ตร.อายัดตัว "เพนกวิน-รุ้ง" ต่อ หลังศาลให้ประกัน ออกหมายจับเพิ่ม “สุรนาถ แป้นประเสริฐ” แกนนำเยาวชนฯ ฐานประทุษร้ายเสรีภาพพระราชินี
วานนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีประสานงานสภาผู้แทนราษฎร รายงานถึงการไปร่วมประชุมกับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และตัวแทนฝ่ายค้าย ตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนจากพรรคการเมือง เรื่องการพิจารณาสมควรเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ซึ่งที่ประชุมมีมติให้มารายงาน ครม.ในกรณีที่เห็นชอบให้ ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2563 เพื่อให้ทุกฝ่ายมีโอกาสอภิปรายแสดงความคิดเห็น และชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน และลดปัญหาข้อขัดแย้ง รวมถึงประเด็นที่ครม.ควรให้มีการรับฟังความคิดเห็นของส.ส.และส.ว.โดยขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมรัฐสภาตาม มาตรา 165
ทั้งนี้ ครม.ได้หารือกำหนดวัน และมีมติให้กำหนดข้อเปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ ทั้งนี้ให้เลื่อนการประชุมครม.ไปเป็นวันที่ 28 ต.ค.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดเรื่องวัน แต่อยากให้เปิดเร็วที่สุด ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า จะเปิดวันที่ 26-27 ต.ค. เพราะว่าเร็วที่สุดแล้ว เนื่องจากวันที่ 21-22 ต.ค.เป็นวันเปิดทำการ ส่วน 23-25 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการ วันที่ 26 ต.ค.จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เร็วที่สุด ส่วนจะพิจารณาประเด็นใดบ้าง ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะขอเรื่องอะไรไปบ้าง แต่ตอนนี้ ขอตาม มาตรา165 ซึ่งเป็นอำนาจของ ครม. ไม่ใช่แค่ของนายกฯ ส่วนจะมีการคุยเรื่องการแก้รธน. ด้วยหรือไม่ไม่ทราบ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การเปิดสภาสมัยวิสามัญ ก็ถือว่า ไม่มีช้า ไม่มีเร็ว ทุกอย่างมาในห้วงเวลาที่เหมาะสมอยู่แล้ว และมีกระบวนการทำงานเป็นทีม ไม่มีใครตัดสินใจคนเดียว
“บิ๊กตู่”ตัดพ้อ ถูกรุม ถูกด่าอยู่คนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมครม. หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาวาระปกติ และเข้าสู่การหารือ เรื่องการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งบรรยากาศการประชุม เป็นไปด้วยความอึมครึม โดยในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้พูดในเชิงตัดพ้อว่า ตัวเองถูกรุม ถูกด่าอยู่คนเดียว อยากให้มีรัฐมนตรี หรือใครมาช่วยปกป้องบ้าง
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้ในกรณีมีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ได้ต้องการใช้จัดการกับผู้ชุมชุม ประชาชนมีสิทธิแสดงออกตามกฎหมาย แต่อย่าทำอะไรที่เลยกรอบกฎหมาย และก้าวล่วง อยากให้เวทีการเปิดประชุมรัฐสภาส.ส.และส.ว.ช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมือง ขอให้กระทรวงต่างๆ ทำผลงานออกมาให้ประชาชนได้เห็น และขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันชี้แจงข้อซักถามของฝ่ายค้านในสภาด้วย
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เสนอให้นำญัตติการแก้ไขรธน.ที่ค้างการพิจารณา เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาในครั้งนี้ด้วย
ไม่เซอร์ไพรส์ หยุดพักม็อบก่อน
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ในเพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” โพสต์ข้อความ ระบุว่า “CIA พร้อมรึยัง ? นาตาชาพร้อมมั้ย ?! 17:50 ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี หากรัฐบาลไม่รับข้อเรียกร้อง ยังไม่ปล่อยเพื่อนเราทั้งหมด และยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมรับ BIG SURPRISE!”
ก่อนที่จะออกมาประกาศอีกครั้งโดย เพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH โพสต์ข้อความระบุว่า“ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”BIG SURPRISE คือ ไม่มี SURPRISE วันนี้พักก่อน ตลอดเกือบ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้ต่อสู้ร่วมกันอย่างหาญกล้า แต่รัฐบาลกลับไม่พึงสังวรไว้ว่า ความล่มสลายของศักดินากำลังมาเยือน เมื่อไม่รับข้อเรียกร้อง ก็เตรียมรอฟังการนัดหมายครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (21 ต.ค.) ส่วนใครไฟแรงวันนี้อยากลุยต่อ มีประชาชนจัดม็อบกันเองหลายจุด สามารถเข้าร่วมได้ที่นี่• กทม.17.00น. เซ็นทรัลปิ่นเกล้า• ต่างจังหวัด16.00น. ศาลาขุนแผน กาญจนบุรี 16.00น. วงเวียนพะยูน ตรัง17.00น. ท่ารถตู้ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค ปทุมธานี17.00น. อนุสาวรีย์สามครูบา ลำพูน
บิ๊กตู่ ปลุกคนไทย "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมครม. โดยก่อนการแถลง นายกฯได้ให้เจ้าหน้าที่ ที่ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอด และควบคุมเสียง เปิดเพลง "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี" เป็นไตเติ้ลนำก่อนแถลง โดยนายกฯ กล่าวว่า ฟังเพลงแล้วรู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างไหม เราลูกหลานไทย คนไทย อยู่กันอย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน หน้าที่ของรัฐบาล แต่ตนก็ไปบังคับใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของพวกเราทุกคน
"ผมขอพูดอีกครั้งว่า สื่อมวลชนนั้น เป็นภาคส่วนสำคัญของสังคมไทย สื่อ คือ พลังที่จะสร้างความชอบธรรม สร้างสรรค์ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศได้ บทบาทของสื่อ ต้องทำหน้าที่อย่างมีสิทธิเสรีภาพ และมีความเป็นกลาง สร้างคุณประโยชน์กับประเทศของเรามากมายมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน วันนี้ ผมได้ตัดสินใจออกคำสั่ง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนคำสั่งระงับการออกอากาศต่างๆ โดยคำนึงสิทธิ และเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสำคัญ ยกเว้นบางกรณีที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บิดเบือน ยุยงปลุกปั่น ล้ำเส้น ก้าวล่วง ละเมิดสิทธิของผู้อื่นตามกฎหมายมาตลอด ส่วนบางอันต้องปิดตามคำสั่งก็ต้องปิด และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ได้ไปละเมิดใครทั้งสิ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯกล่าวว่า หน้าที่ของตนและพวกเราทุกคน ต้องช่วยกันป้องกัน กำจัดการกระทำที่มีเจตนาร้าย ความพยายามยุยงปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยก สับสนอลหม่านภายในประเทศ นั้นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับไม่ให้เกิดขึ้น ต้องขอความร่วมมือจากพวกเราทุกคน จากประชาชนด้วย ตนไม่ต้องการละเมิดสิทธิของใคร แต่ท่านจะต้องระมัดระวังการละเมิดสิทธิผู้อื่นด้วย
ติดแฮชแท็ก #ราษฎรไทยใต้ร่มพระบารมี
รายงานข่าวแจ้งว่า ในทวิตเตอร์ (Twitter) ได้มีชาวเน็ตโพสต์ข้อความ ติดแฮชแท็ก #ราษฎรไทยใต้ร่มพระบารมี และ #อนุชนรักชาติศาสน์กษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙, พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ และพระบรมวงศานุวงศ์ กระทั่งติดอันดับหนึ่ง โดยพบว่า แต่ละข้อความ มีการกล่าวถึงโครงการในพระราชดำริ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสองพระองค์ บางข้อความกล่าวฝากไปถึงอีกฝ่ายที่ออกมาโจมตีว่า หากไม่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่มีใครว่า แต่อย่ารังแกกัน หรือเหน็บแนมคนที่คิดต่าง
'ปิยบุตร'เสนอตั้งกมธ.ปฏิรูปสถาบันฯ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์คลิป และข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก ระบุว่า "จะชอบหรือไม่ชอบ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จนถึงวันนี้ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าในห้วงเวลานี้ ข้อเรียกร้องของประชาชนจำนวนมากคือ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ผมเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร มีมติตั้ง กมธ.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เพื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเรื่องนี้ นำเอาข้อเสนอของประชาชน เข้ามาผลักดัน เพื่อให้สถาบันกษัตริย์ สามารถอยู่กับประชาธิปไตยได้ การปกป้องสถาบันกษัตริย์ในยุคสมัยนี้ มีแต่เพียงทางนี้เท่านั้น การปกป้องสถาบันกษัตริย์ ต้องมิใช่การบังคับ การปราบปราม หรือการจงใจละเลยไม่พูดถึง"
"ก้าวไกล"แถลงการณ์ 4ข้อ จี้"บิ๊กตู่"ลาออก
ที่รัฐสภา พรรคก้าวไกล ได้ออกแถลงการณ์ ที่เป็นข้อเรียกร้อง เสนอทางออกของประเทศชาติบ้านเมืองโดย 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และปล่อยประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยทันที 2. พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3. พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ต้องถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของวุฒิสภา และ 4. ต้องมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อให้รัฐสภาพิจารณาการแก้ไขรธน. โดยมีสาระสำคัญ คือ ตั้ง ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน ยุติอำนาจของวุฒิสภา ในการเลือกนายกรัฐมนตรี และลงมติกฎหมายปฏิรูปประเทศ รวมถึงการออกแบบระบบการเลือกตั้ง ที่สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
"อุทัย"ยกวลี "อย่างนี้ก็ยุ่งตายห่า"
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีต ส.ส.หลายสมัย กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุม "แฟลซม็อบ"ที่กระจายไปทั่วประเทศ ว่า ต้องใช้คำ "อย่างนี้ก็ยุ่งตายห่า.." ที่นายประสิทธิ์ กาญจวัฒน์ อดีตประธานรัฐสภา เคยอุทานวลีนี้ ขณะประชุมสภาช่วงปี 2518 เพราะเกิดความวุ่นวายสับสนในระหว่างประชุมสภา ซึ่งปัญหาบ้านเมืองเวลานี้ เป็นผลมาจากการยึดอำนาจของ คสช. หรือจะเรียกว่า มรดกบาปจากการรัฐประหารปี 2557 ก็ได้ การแก้ปัญหาความขัดแย้งแตกแยก ตอนนั้นถือว่าพอไปได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจแล้วไม่คืนอำนาจ มิหนำซ้ำ บอกว่าจะคืนความสุข ก็ไม่เห็นความสุข ตรงกันข้ามประชาชนมีแต่ความทุกข์
ตร.วางกำลัง 12 กองร้อยคุมม็อบ
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร., พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และนายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกันแถลง สรุปภาพรวมสถานการณ์การชุมนุม และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อย โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมกำลังไว้ 12 กองร้อย จำนวน 1,860 นาย ภายใต้การบังคับบัญชาพล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.น. โดยเน้นการปฏิบัติเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วในการเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณที่มีการชุมนุม และป้องกันมือที่ 3 ก่อความไม่สงบเรียบร้อย
ศาลนัดฟังคำสั่ง 22 ต.ค.จะคุ้มครองยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน!
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมายังศาลแพ่งรัชดา เพื่อยื่นคำฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อการชุมนุมของเยาวชน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนในฐานะโจทก์ที่ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพราะเห็นว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ใช้กฎหมายในการสลายการชุมนุมของเยาวชน จึงร้องขอต่อศาลให้พิจารณาว่าประกาศ และคำสั่ง นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ ศาลแพ่งตรวจคำฟ้องแล้ว เห็นว่า เพื่อให้การพิจารณาสั่งคำฟ้องของโจทก์ทั้งสี่เป็นไปโดยถูกต้อง และเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายที่บังคับไว้ เกี่ยวกับสิทธิของคู่ความหรือบุคคลซึ่งยื่นคำคู่ความ จึงเห็นควรให้นัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษา ในวันที่ 22 ต.ค. นี้ เวลา 09.00 น.
“เสรีพิศุทธ์” ซัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นโมฆะ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ถูกต้อง เพราะประกาศดังกล่าวต้องระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุด แต่ประกาศฉบับแรกบอกแค่เริ่มใช้วันที่ 15 ต.ค.2563 ไม่บอกวันสิ้นสุด ถือเป็นประกาศที่ไม่ถูกต้อง เป็นโมฆะ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์นำประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ครม.รับรอง จึงมีการประกาศวันสิ้นสุดเป็นวันที่ 13พ.ย.2563 แต่การที่ครม.ไปรับรองประกาศที่เป็นโมฆะตั้งแต่แรกไปแล้ว
ตร.อายัดตัว "เพนกวิน-รุ้ง" คดีฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน
รายงานข่าวาจากเรือนจำธัญบุรี ได้ปล่อยตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายณัฐชนน ไพโรจน์ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม หลังศาลให้ประกันตัวชั่วคราวออกมาแล้ว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้นำหมายจับในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ของ น.ส.ปนัสยา และนายพริษฐ์ ควบคุมตัวทั้งสองขึ้นรถห้องขังพาตัวไปทำไปทำการสอบสวนที่ ตชด.ภ 1 ต.คลองห้า ทันที ก่อนที่จะส่งฟ้องศาลแขวงดุสิต ในวันที่ 21 ต.ค.นี้
หมายจับ"สุรนาถ แป้นประเสริฐ"ฐานฐานความผิด ม.110
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานว่า ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth) ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำเครือข่ายรณรงค์ด้านเด็กและเยาวชน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 กรณีขัดขวางขบวนเสด็จบนถนนพิษณุโลกข้างทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 14 ต.ค.รายที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลอาญาอนุมัติตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ให้ออกหมายจับ นายเอกชัย หงส์กังวาน และ นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักกิจกรรมทางการเมือง ตามหมายจับที่ 1595/2563 และ 1596/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ในข้อหา ม.110 โดย นายบุญเกื้อหนุน ได้รับการประกันตัวไปแล้ว ส่วน นายเอกชัย ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
วานนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีประสานงานสภาผู้แทนราษฎร รายงานถึงการไปร่วมประชุมกับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และตัวแทนฝ่ายค้าย ตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนจากพรรคการเมือง เรื่องการพิจารณาสมควรเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ซึ่งที่ประชุมมีมติให้มารายงาน ครม.ในกรณีที่เห็นชอบให้ ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2563 เพื่อให้ทุกฝ่ายมีโอกาสอภิปรายแสดงความคิดเห็น และชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน และลดปัญหาข้อขัดแย้ง รวมถึงประเด็นที่ครม.ควรให้มีการรับฟังความคิดเห็นของส.ส.และส.ว.โดยขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมรัฐสภาตาม มาตรา 165
ทั้งนี้ ครม.ได้หารือกำหนดวัน และมีมติให้กำหนดข้อเปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ ทั้งนี้ให้เลื่อนการประชุมครม.ไปเป็นวันที่ 28 ต.ค.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดเรื่องวัน แต่อยากให้เปิดเร็วที่สุด ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า จะเปิดวันที่ 26-27 ต.ค. เพราะว่าเร็วที่สุดแล้ว เนื่องจากวันที่ 21-22 ต.ค.เป็นวันเปิดทำการ ส่วน 23-25 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการ วันที่ 26 ต.ค.จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เร็วที่สุด ส่วนจะพิจารณาประเด็นใดบ้าง ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะขอเรื่องอะไรไปบ้าง แต่ตอนนี้ ขอตาม มาตรา165 ซึ่งเป็นอำนาจของ ครม. ไม่ใช่แค่ของนายกฯ ส่วนจะมีการคุยเรื่องการแก้รธน. ด้วยหรือไม่ไม่ทราบ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การเปิดสภาสมัยวิสามัญ ก็ถือว่า ไม่มีช้า ไม่มีเร็ว ทุกอย่างมาในห้วงเวลาที่เหมาะสมอยู่แล้ว และมีกระบวนการทำงานเป็นทีม ไม่มีใครตัดสินใจคนเดียว
“บิ๊กตู่”ตัดพ้อ ถูกรุม ถูกด่าอยู่คนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมครม. หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาวาระปกติ และเข้าสู่การหารือ เรื่องการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งบรรยากาศการประชุม เป็นไปด้วยความอึมครึม โดยในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้พูดในเชิงตัดพ้อว่า ตัวเองถูกรุม ถูกด่าอยู่คนเดียว อยากให้มีรัฐมนตรี หรือใครมาช่วยปกป้องบ้าง
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้ในกรณีมีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ได้ต้องการใช้จัดการกับผู้ชุมชุม ประชาชนมีสิทธิแสดงออกตามกฎหมาย แต่อย่าทำอะไรที่เลยกรอบกฎหมาย และก้าวล่วง อยากให้เวทีการเปิดประชุมรัฐสภาส.ส.และส.ว.ช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมือง ขอให้กระทรวงต่างๆ ทำผลงานออกมาให้ประชาชนได้เห็น และขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันชี้แจงข้อซักถามของฝ่ายค้านในสภาด้วย
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เสนอให้นำญัตติการแก้ไขรธน.ที่ค้างการพิจารณา เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาในครั้งนี้ด้วย
ไม่เซอร์ไพรส์ หยุดพักม็อบก่อน
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ในเพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” โพสต์ข้อความ ระบุว่า “CIA พร้อมรึยัง ? นาตาชาพร้อมมั้ย ?! 17:50 ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี หากรัฐบาลไม่รับข้อเรียกร้อง ยังไม่ปล่อยเพื่อนเราทั้งหมด และยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมรับ BIG SURPRISE!”
ก่อนที่จะออกมาประกาศอีกครั้งโดย เพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH โพสต์ข้อความระบุว่า“ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”BIG SURPRISE คือ ไม่มี SURPRISE วันนี้พักก่อน ตลอดเกือบ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้ต่อสู้ร่วมกันอย่างหาญกล้า แต่รัฐบาลกลับไม่พึงสังวรไว้ว่า ความล่มสลายของศักดินากำลังมาเยือน เมื่อไม่รับข้อเรียกร้อง ก็เตรียมรอฟังการนัดหมายครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (21 ต.ค.) ส่วนใครไฟแรงวันนี้อยากลุยต่อ มีประชาชนจัดม็อบกันเองหลายจุด สามารถเข้าร่วมได้ที่นี่• กทม.17.00น. เซ็นทรัลปิ่นเกล้า• ต่างจังหวัด16.00น. ศาลาขุนแผน กาญจนบุรี 16.00น. วงเวียนพะยูน ตรัง17.00น. ท่ารถตู้ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค ปทุมธานี17.00น. อนุสาวรีย์สามครูบา ลำพูน
บิ๊กตู่ ปลุกคนไทย "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมครม. โดยก่อนการแถลง นายกฯได้ให้เจ้าหน้าที่ ที่ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอด และควบคุมเสียง เปิดเพลง "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี" เป็นไตเติ้ลนำก่อนแถลง โดยนายกฯ กล่าวว่า ฟังเพลงแล้วรู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างไหม เราลูกหลานไทย คนไทย อยู่กันอย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน หน้าที่ของรัฐบาล แต่ตนก็ไปบังคับใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของพวกเราทุกคน
"ผมขอพูดอีกครั้งว่า สื่อมวลชนนั้น เป็นภาคส่วนสำคัญของสังคมไทย สื่อ คือ พลังที่จะสร้างความชอบธรรม สร้างสรรค์ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศได้ บทบาทของสื่อ ต้องทำหน้าที่อย่างมีสิทธิเสรีภาพ และมีความเป็นกลาง สร้างคุณประโยชน์กับประเทศของเรามากมายมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน วันนี้ ผมได้ตัดสินใจออกคำสั่ง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนคำสั่งระงับการออกอากาศต่างๆ โดยคำนึงสิทธิ และเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสำคัญ ยกเว้นบางกรณีที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บิดเบือน ยุยงปลุกปั่น ล้ำเส้น ก้าวล่วง ละเมิดสิทธิของผู้อื่นตามกฎหมายมาตลอด ส่วนบางอันต้องปิดตามคำสั่งก็ต้องปิด และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ได้ไปละเมิดใครทั้งสิ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯกล่าวว่า หน้าที่ของตนและพวกเราทุกคน ต้องช่วยกันป้องกัน กำจัดการกระทำที่มีเจตนาร้าย ความพยายามยุยงปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยก สับสนอลหม่านภายในประเทศ นั้นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับไม่ให้เกิดขึ้น ต้องขอความร่วมมือจากพวกเราทุกคน จากประชาชนด้วย ตนไม่ต้องการละเมิดสิทธิของใคร แต่ท่านจะต้องระมัดระวังการละเมิดสิทธิผู้อื่นด้วย
ติดแฮชแท็ก #ราษฎรไทยใต้ร่มพระบารมี
รายงานข่าวแจ้งว่า ในทวิตเตอร์ (Twitter) ได้มีชาวเน็ตโพสต์ข้อความ ติดแฮชแท็ก #ราษฎรไทยใต้ร่มพระบารมี และ #อนุชนรักชาติศาสน์กษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙, พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ และพระบรมวงศานุวงศ์ กระทั่งติดอันดับหนึ่ง โดยพบว่า แต่ละข้อความ มีการกล่าวถึงโครงการในพระราชดำริ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสองพระองค์ บางข้อความกล่าวฝากไปถึงอีกฝ่ายที่ออกมาโจมตีว่า หากไม่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่มีใครว่า แต่อย่ารังแกกัน หรือเหน็บแนมคนที่คิดต่าง
'ปิยบุตร'เสนอตั้งกมธ.ปฏิรูปสถาบันฯ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์คลิป และข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก ระบุว่า "จะชอบหรือไม่ชอบ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จนถึงวันนี้ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าในห้วงเวลานี้ ข้อเรียกร้องของประชาชนจำนวนมากคือ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ผมเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร มีมติตั้ง กมธ.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เพื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเรื่องนี้ นำเอาข้อเสนอของประชาชน เข้ามาผลักดัน เพื่อให้สถาบันกษัตริย์ สามารถอยู่กับประชาธิปไตยได้ การปกป้องสถาบันกษัตริย์ในยุคสมัยนี้ มีแต่เพียงทางนี้เท่านั้น การปกป้องสถาบันกษัตริย์ ต้องมิใช่การบังคับ การปราบปราม หรือการจงใจละเลยไม่พูดถึง"
"ก้าวไกล"แถลงการณ์ 4ข้อ จี้"บิ๊กตู่"ลาออก
ที่รัฐสภา พรรคก้าวไกล ได้ออกแถลงการณ์ ที่เป็นข้อเรียกร้อง เสนอทางออกของประเทศชาติบ้านเมืองโดย 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และปล่อยประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยทันที 2. พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3. พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ต้องถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของวุฒิสภา และ 4. ต้องมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อให้รัฐสภาพิจารณาการแก้ไขรธน. โดยมีสาระสำคัญ คือ ตั้ง ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน ยุติอำนาจของวุฒิสภา ในการเลือกนายกรัฐมนตรี และลงมติกฎหมายปฏิรูปประเทศ รวมถึงการออกแบบระบบการเลือกตั้ง ที่สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
"อุทัย"ยกวลี "อย่างนี้ก็ยุ่งตายห่า"
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีต ส.ส.หลายสมัย กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุม "แฟลซม็อบ"ที่กระจายไปทั่วประเทศ ว่า ต้องใช้คำ "อย่างนี้ก็ยุ่งตายห่า.." ที่นายประสิทธิ์ กาญจวัฒน์ อดีตประธานรัฐสภา เคยอุทานวลีนี้ ขณะประชุมสภาช่วงปี 2518 เพราะเกิดความวุ่นวายสับสนในระหว่างประชุมสภา ซึ่งปัญหาบ้านเมืองเวลานี้ เป็นผลมาจากการยึดอำนาจของ คสช. หรือจะเรียกว่า มรดกบาปจากการรัฐประหารปี 2557 ก็ได้ การแก้ปัญหาความขัดแย้งแตกแยก ตอนนั้นถือว่าพอไปได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจแล้วไม่คืนอำนาจ มิหนำซ้ำ บอกว่าจะคืนความสุข ก็ไม่เห็นความสุข ตรงกันข้ามประชาชนมีแต่ความทุกข์
ตร.วางกำลัง 12 กองร้อยคุมม็อบ
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร., พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และนายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกันแถลง สรุปภาพรวมสถานการณ์การชุมนุม และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อย โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมกำลังไว้ 12 กองร้อย จำนวน 1,860 นาย ภายใต้การบังคับบัญชาพล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.น. โดยเน้นการปฏิบัติเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วในการเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณที่มีการชุมนุม และป้องกันมือที่ 3 ก่อความไม่สงบเรียบร้อย
ศาลนัดฟังคำสั่ง 22 ต.ค.จะคุ้มครองยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน!
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมายังศาลแพ่งรัชดา เพื่อยื่นคำฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อการชุมนุมของเยาวชน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนในฐานะโจทก์ที่ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพราะเห็นว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ใช้กฎหมายในการสลายการชุมนุมของเยาวชน จึงร้องขอต่อศาลให้พิจารณาว่าประกาศ และคำสั่ง นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ ศาลแพ่งตรวจคำฟ้องแล้ว เห็นว่า เพื่อให้การพิจารณาสั่งคำฟ้องของโจทก์ทั้งสี่เป็นไปโดยถูกต้อง และเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายที่บังคับไว้ เกี่ยวกับสิทธิของคู่ความหรือบุคคลซึ่งยื่นคำคู่ความ จึงเห็นควรให้นัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษา ในวันที่ 22 ต.ค. นี้ เวลา 09.00 น.
“เสรีพิศุทธ์” ซัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นโมฆะ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ถูกต้อง เพราะประกาศดังกล่าวต้องระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุด แต่ประกาศฉบับแรกบอกแค่เริ่มใช้วันที่ 15 ต.ค.2563 ไม่บอกวันสิ้นสุด ถือเป็นประกาศที่ไม่ถูกต้อง เป็นโมฆะ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์นำประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ครม.รับรอง จึงมีการประกาศวันสิ้นสุดเป็นวันที่ 13พ.ย.2563 แต่การที่ครม.ไปรับรองประกาศที่เป็นโมฆะตั้งแต่แรกไปแล้ว
ตร.อายัดตัว "เพนกวิน-รุ้ง" คดีฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน
รายงานข่าวาจากเรือนจำธัญบุรี ได้ปล่อยตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายณัฐชนน ไพโรจน์ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม หลังศาลให้ประกันตัวชั่วคราวออกมาแล้ว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้นำหมายจับในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ของ น.ส.ปนัสยา และนายพริษฐ์ ควบคุมตัวทั้งสองขึ้นรถห้องขังพาตัวไปทำไปทำการสอบสวนที่ ตชด.ภ 1 ต.คลองห้า ทันที ก่อนที่จะส่งฟ้องศาลแขวงดุสิต ในวันที่ 21 ต.ค.นี้
หมายจับ"สุรนาถ แป้นประเสริฐ"ฐานฐานความผิด ม.110
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานว่า ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth) ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำเครือข่ายรณรงค์ด้านเด็กและเยาวชน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 กรณีขัดขวางขบวนเสด็จบนถนนพิษณุโลกข้างทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 14 ต.ค.รายที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลอาญาอนุมัติตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ให้ออกหมายจับ นายเอกชัย หงส์กังวาน และ นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักกิจกรรมทางการเมือง ตามหมายจับที่ 1595/2563 และ 1596/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ในข้อหา ม.110 โดย นายบุญเกื้อหนุน ได้รับการประกันตัวไปแล้ว ส่วน นายเอกชัย ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว