"อานนท์"ปลุกม็อบชู 3 นิ้วรับเสด็จ ที่ราชดำเนิน ก่อนเคลื่อนขบวนยึดทำเนียบฯ ด้านตร.เตรียมเจรจาขออย่าป่วนขบวนเสด็จ หวังแกนนำรับฟัง "จตุพร"ซัดพวกยุยง ปลุกเด็กชุมนุม เก่งแต่อยู่ข้างเวที พอเกิดเรื่องวิ่งหนีก่อน
จากกรณีกลุ่มแนวร่วมนักศึกษาและประชาชน ที่ใช้ชื่อว่า "คณะราษฎร" จะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ และจะมีการชุมนุมค้างคืน ต่อเนื่อง หากในช่วงเวลาดังกล่าวมีขบวนเสด็จ ก็จะเปิดทางไม่ขวางขบวนเสด็จนั้น
วานนี้ (11 ต.ค.) นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า "14ตุลา หลังส่งเสด็จด้วยการชู 3 นิ้ว ที่ราชดำเนิน ขบวนประชาชนทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนไปตั้งเวทีปราศรัยไล่ประยุทธ์ และพักค้างรอบทำเนียบรัฐบาล ขอเชิญทุกท่านมาไล่ประยุทธ์ด้วยกัน นอนค้างบนถนนร่วมกับพี่น้องประชาชน"
ตร.เตือนม็อบขออย่าป่วนขบวนเสด็จ
แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยถึงกรณีแกนนำคณะราษฎร ระบุว่าจะไม่ขวางเส้นทางขบวนเสด็จ แต่จะให้ผู้ร่วมชุมนุมยืนสงบพร้อมกับชู 3 นิ้วนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามเจรจากับทางแกนนำว่า การแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าว ถือว่าไม่เหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าสามารถพูดคุยกันได้ และหวังว่าทางแกนนำ จะเข้าใจรับฟัง เหมือนกับ วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ทางแกนนำ ก็ยอมรับฟังและไม่ฝืนเคลื่อนขบวนมวลชน ปะทะเจ้าหน้าที่ เพื่อไปทำเนียบองคมนตรี
ส่วนการเตรียมความพร้อมดูแลสถานการณ์ชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เป็นแกนหลักในการรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งจะใช้แผนปฏิบัติการ เหมือนกับการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และบริเวณสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าผู้ร่วมชุมนุม ไม่น่าจะมีจำนวนมากเกินกว่าวันที่ 19 ก.ย.
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทางตำรวจได้ออกหมายจับแกนนำ ที่จัดการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. และจะทำการจับกุมก่อนวันที่ 14 ต.ค. เพื่อไม่ให้มานำการชุมนุมนั้น ทีมงานประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่าขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับแกนนำที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมาแต่อย่างใด เนื่องจากพนักงานสืบสวนสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย
ซัดพวกยุเด็กชุมนุม เก่งแต่อยู่ข้างเวที
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การออกมาพูดถึงการชุมนุม 14 ต.ค.นี้ โดยเฉพาะที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันฯนั้น ตนไม่กลัวทัวร์ลง แต่กลัวพัง และกลัวสิ่งที่จะไปลงกับเด็ก นิสิต นักศึกษา ประชาชน ที่มาชุมนุมตามนัด
สถานการณ์การเมืองตั้งแต่อดีตถึงในปัจจุบันนี้ ตนยืนอยู่แถวหน้าเสี่ยงความตายมาตลอด แต่มีหลายคนไม่พอใจที่ตนพูดถึงการชุมนุมเรียกร้องในวันที่ 14 ต.ค.นี้ โดยคนเหล่านั้นหยิบเนื้อหาการพูดของตนไม่เกินสองบรรทัดจากการพูดนาน 30 นาทีมาวิจารณ์
"ผมถูกทัวร์ลงอย่างมาก แต่ไม่กลัว ด่าทอก็ไม่กลัว เพราะผมมีความห่วงใยพี่น้อง นิสิต นักศึกษาในการชุมนุม 14 ต.ค.นี้ ซึ่งอาจจะมีสิ่งไปลงมากกว่าจึงต้องพูด"
นายจตุพร ยังกล่าวอย่างมีอารมณ์ถึง นายสุชาติ สวัสดิศรี ศิลปินแห่งชาติ ที่โพสต์ข้อความว่า "ไม่อยากเชื่อว่า ประธาน นปช.ไม่เข้าใจคำว่า "ระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ" ว่าตนไม่ได้โง่ จึงจะไม่รู้ว่าอยู่ใต้รธน.หมายถึงอะไร แต่ถามหน่อย นายสุชาติ เมื่อ14 ต.ค.16 คุณทำอะไร อยู่ตรงไหน หากต้องการรบกับตนวันไหนก็ได้
"สถานการณ์ในวันนี้อะไรจะเกิดขึ้นบ้างโดยเฉพาะพวกที่ช่างยุยง ทั้งมาจากต่างประเทศและในประเทศ ยุอยากให้เด็กขึ้นเวที แต่เมื่อเกิดเรื่อง พวกยุยง กลับวิ่งหนีกันหมด พวกชุมนุมที่เอาแต่ยุยงมักเป็นเช่นนี้เสมอ"
นายจตุพร กล่าวว่า ประเด็นหลักการชุมนุมตามนัด 14 ต.ค.นั้น อยู่ที่วันที่13 ต.ค. เป็นวันสวรรคต ร. 9 ประชาชนนัดกันสวมเสื้อเหลืองไว้อาลัย แล้ววันที่14 ต.ค.จะชุมนุมใหญ่ เมื่อเป็นเช่นนี้รถตู้ที่จะนั่งมาชุมนุม กล้ามาสักคันหรือไม่ ดังนั้นการคิดอ่านสถานการณ์การเมือง ต้องขึ้นอยู่กับความจริงก่อน อย่าเอาแต่ยุยงเด็กๆให้ชุมนุม
อีกอย่าง ประเด็นที่ควรวิเคราะห์กันอย่างหนักคือ ถ้าต้องการจัดการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สถานการณ์ในวันนี้ มีโอกาสให้ทำสำเร็จและจบม้วนเดียวตามต้องการ แล้วสามารถเปลี่ยนรัฐบาลได้ สิ่งสำคัญเนื้อหาการชุมนุมควรเน้นที่ 2 ข้อเรียกร้องเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา เนื้อหาการพูดบนเวทีไล่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงรัฐบาลเพียง10% แสดงถึงเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลหรือต้องการไล่พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนข้อการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ เมื่อพิจารณาถึงกระแสต่อเนื่อง จากวันที่ 13 ต.ค.ไปถึงวันที่ 14 ต.ค. จะเปิดช่องว่างให้ถูกตีกลับได้ง่าย ดังนั้น ที่ตนพยายามอธิบายถึงสถานการณ์ด้วยความห่วงใยเด็ก นิสิต นักศึกษา กลับถูกทัวร์ลงให้อยู่เฉยๆ อย่าพูด และยังแดกดันว่าเป็นไดโนเสาร์เสียอีก
"ถ้าเป็นผม จะปรับวิธีการใหม่ รอให้งาน13 ต.ค. ผ่านก่อน แล้วนัดกันใหม่ เพื่อเกิดชอบธรรม ผมเชื่อว่า ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้รถขนคนมาวันชุมนุม14 ต.ค.ก็ไม่กล้ามา" นายจตุพร กล่าวและว่า ที่ตนพูดเช่นนี้ เพราะเสียดายขบวนการนิสิต นักศึกษาที่เดินมาไกล เพราะคนอยากจัดการรัฐบาล ต้องการไล่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งคนจะมากจนราชดำเนินเอาไม่อยู่ แต่ต้องพูดความจริง เพราะไม่ต้องการให้ใครมาตาย มาเป็นวีรชนอีกแล้ว
ปชช.ภาคตะวันออกป้องสถาบันฯ
วานนี้ (11 ต.ค.) ณ ห้องประชุมกิตตยา โรงเรียนอนุบาลวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว นายพชร ศตพรพงษ์ รองประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย น.ส.สุรภา การัณภิรมย์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก นายโสภี ศรีเพ็ชร์ ตัวแทนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนภาคตะวันออก ร่วมกับประชาชนและ "คนเสื้อแดงภาคตะวันออก" ได้ร่วมประชุมเพื่อรณรงค์ให้ความรู้พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมออกมาเรียกร้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ให้ผู้ใดมาจาบจ้วง หรือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมของคณะราษฎร 2563 ในวันที่ 14 ต.ค.นี้
นายพชร กล่าวว่า“อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง”ทั้ง 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้ร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้กับประชาชนได้รับทราบ พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี จ้องล้มล้างสถาบันฯ หยุดพฤติกรรมแบบนั้นเสีย พวกเราจึงต้องออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะ ตั้งแต่ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10” ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “สยามมกุฎราชกุมาร”สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเรียนรู้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในด้านต่าง ๆ อย่างทรงพระวิริยะ เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ พระองค์ทรงมุ่งมั่นสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ปวงประชาชนชาวไทย ทำให้พวกเราพสกนิกรชาว “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง”และ ประชาชนชาวภาคตะวันออกรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้พวกเราจึงขอออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
จากกรณีกลุ่มแนวร่วมนักศึกษาและประชาชน ที่ใช้ชื่อว่า "คณะราษฎร" จะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ และจะมีการชุมนุมค้างคืน ต่อเนื่อง หากในช่วงเวลาดังกล่าวมีขบวนเสด็จ ก็จะเปิดทางไม่ขวางขบวนเสด็จนั้น
วานนี้ (11 ต.ค.) นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า "14ตุลา หลังส่งเสด็จด้วยการชู 3 นิ้ว ที่ราชดำเนิน ขบวนประชาชนทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนไปตั้งเวทีปราศรัยไล่ประยุทธ์ และพักค้างรอบทำเนียบรัฐบาล ขอเชิญทุกท่านมาไล่ประยุทธ์ด้วยกัน นอนค้างบนถนนร่วมกับพี่น้องประชาชน"
ตร.เตือนม็อบขออย่าป่วนขบวนเสด็จ
แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยถึงกรณีแกนนำคณะราษฎร ระบุว่าจะไม่ขวางเส้นทางขบวนเสด็จ แต่จะให้ผู้ร่วมชุมนุมยืนสงบพร้อมกับชู 3 นิ้วนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามเจรจากับทางแกนนำว่า การแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าว ถือว่าไม่เหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าสามารถพูดคุยกันได้ และหวังว่าทางแกนนำ จะเข้าใจรับฟัง เหมือนกับ วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ทางแกนนำ ก็ยอมรับฟังและไม่ฝืนเคลื่อนขบวนมวลชน ปะทะเจ้าหน้าที่ เพื่อไปทำเนียบองคมนตรี
ส่วนการเตรียมความพร้อมดูแลสถานการณ์ชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เป็นแกนหลักในการรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งจะใช้แผนปฏิบัติการ เหมือนกับการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และบริเวณสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าผู้ร่วมชุมนุม ไม่น่าจะมีจำนวนมากเกินกว่าวันที่ 19 ก.ย.
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทางตำรวจได้ออกหมายจับแกนนำ ที่จัดการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. และจะทำการจับกุมก่อนวันที่ 14 ต.ค. เพื่อไม่ให้มานำการชุมนุมนั้น ทีมงานประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่าขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับแกนนำที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมาแต่อย่างใด เนื่องจากพนักงานสืบสวนสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย
ซัดพวกยุเด็กชุมนุม เก่งแต่อยู่ข้างเวที
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การออกมาพูดถึงการชุมนุม 14 ต.ค.นี้ โดยเฉพาะที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันฯนั้น ตนไม่กลัวทัวร์ลง แต่กลัวพัง และกลัวสิ่งที่จะไปลงกับเด็ก นิสิต นักศึกษา ประชาชน ที่มาชุมนุมตามนัด
สถานการณ์การเมืองตั้งแต่อดีตถึงในปัจจุบันนี้ ตนยืนอยู่แถวหน้าเสี่ยงความตายมาตลอด แต่มีหลายคนไม่พอใจที่ตนพูดถึงการชุมนุมเรียกร้องในวันที่ 14 ต.ค.นี้ โดยคนเหล่านั้นหยิบเนื้อหาการพูดของตนไม่เกินสองบรรทัดจากการพูดนาน 30 นาทีมาวิจารณ์
"ผมถูกทัวร์ลงอย่างมาก แต่ไม่กลัว ด่าทอก็ไม่กลัว เพราะผมมีความห่วงใยพี่น้อง นิสิต นักศึกษาในการชุมนุม 14 ต.ค.นี้ ซึ่งอาจจะมีสิ่งไปลงมากกว่าจึงต้องพูด"
นายจตุพร ยังกล่าวอย่างมีอารมณ์ถึง นายสุชาติ สวัสดิศรี ศิลปินแห่งชาติ ที่โพสต์ข้อความว่า "ไม่อยากเชื่อว่า ประธาน นปช.ไม่เข้าใจคำว่า "ระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ" ว่าตนไม่ได้โง่ จึงจะไม่รู้ว่าอยู่ใต้รธน.หมายถึงอะไร แต่ถามหน่อย นายสุชาติ เมื่อ14 ต.ค.16 คุณทำอะไร อยู่ตรงไหน หากต้องการรบกับตนวันไหนก็ได้
"สถานการณ์ในวันนี้อะไรจะเกิดขึ้นบ้างโดยเฉพาะพวกที่ช่างยุยง ทั้งมาจากต่างประเทศและในประเทศ ยุอยากให้เด็กขึ้นเวที แต่เมื่อเกิดเรื่อง พวกยุยง กลับวิ่งหนีกันหมด พวกชุมนุมที่เอาแต่ยุยงมักเป็นเช่นนี้เสมอ"
นายจตุพร กล่าวว่า ประเด็นหลักการชุมนุมตามนัด 14 ต.ค.นั้น อยู่ที่วันที่13 ต.ค. เป็นวันสวรรคต ร. 9 ประชาชนนัดกันสวมเสื้อเหลืองไว้อาลัย แล้ววันที่14 ต.ค.จะชุมนุมใหญ่ เมื่อเป็นเช่นนี้รถตู้ที่จะนั่งมาชุมนุม กล้ามาสักคันหรือไม่ ดังนั้นการคิดอ่านสถานการณ์การเมือง ต้องขึ้นอยู่กับความจริงก่อน อย่าเอาแต่ยุยงเด็กๆให้ชุมนุม
อีกอย่าง ประเด็นที่ควรวิเคราะห์กันอย่างหนักคือ ถ้าต้องการจัดการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สถานการณ์ในวันนี้ มีโอกาสให้ทำสำเร็จและจบม้วนเดียวตามต้องการ แล้วสามารถเปลี่ยนรัฐบาลได้ สิ่งสำคัญเนื้อหาการชุมนุมควรเน้นที่ 2 ข้อเรียกร้องเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา เนื้อหาการพูดบนเวทีไล่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงรัฐบาลเพียง10% แสดงถึงเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลหรือต้องการไล่พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนข้อการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ เมื่อพิจารณาถึงกระแสต่อเนื่อง จากวันที่ 13 ต.ค.ไปถึงวันที่ 14 ต.ค. จะเปิดช่องว่างให้ถูกตีกลับได้ง่าย ดังนั้น ที่ตนพยายามอธิบายถึงสถานการณ์ด้วยความห่วงใยเด็ก นิสิต นักศึกษา กลับถูกทัวร์ลงให้อยู่เฉยๆ อย่าพูด และยังแดกดันว่าเป็นไดโนเสาร์เสียอีก
"ถ้าเป็นผม จะปรับวิธีการใหม่ รอให้งาน13 ต.ค. ผ่านก่อน แล้วนัดกันใหม่ เพื่อเกิดชอบธรรม ผมเชื่อว่า ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้รถขนคนมาวันชุมนุม14 ต.ค.ก็ไม่กล้ามา" นายจตุพร กล่าวและว่า ที่ตนพูดเช่นนี้ เพราะเสียดายขบวนการนิสิต นักศึกษาที่เดินมาไกล เพราะคนอยากจัดการรัฐบาล ต้องการไล่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งคนจะมากจนราชดำเนินเอาไม่อยู่ แต่ต้องพูดความจริง เพราะไม่ต้องการให้ใครมาตาย มาเป็นวีรชนอีกแล้ว
ปชช.ภาคตะวันออกป้องสถาบันฯ
วานนี้ (11 ต.ค.) ณ ห้องประชุมกิตตยา โรงเรียนอนุบาลวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว นายพชร ศตพรพงษ์ รองประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย น.ส.สุรภา การัณภิรมย์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก นายโสภี ศรีเพ็ชร์ ตัวแทนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนภาคตะวันออก ร่วมกับประชาชนและ "คนเสื้อแดงภาคตะวันออก" ได้ร่วมประชุมเพื่อรณรงค์ให้ความรู้พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมออกมาเรียกร้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ให้ผู้ใดมาจาบจ้วง หรือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมของคณะราษฎร 2563 ในวันที่ 14 ต.ค.นี้
นายพชร กล่าวว่า“อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง”ทั้ง 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้ร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้กับประชาชนได้รับทราบ พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี จ้องล้มล้างสถาบันฯ หยุดพฤติกรรมแบบนั้นเสีย พวกเราจึงต้องออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะ ตั้งแต่ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10” ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “สยามมกุฎราชกุมาร”สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเรียนรู้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในด้านต่าง ๆ อย่างทรงพระวิริยะ เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ พระองค์ทรงมุ่งมั่นสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ปวงประชาชนชาวไทย ทำให้พวกเราพสกนิกรชาว “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง”และ ประชาชนชาวภาคตะวันออกรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้พวกเราจึงขอออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์