ผู้จัดการรายวัน360- "อานนท์ แสนน่าน"ระดมอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงอีสาน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ย้ำเป็นที่ยึดเหนี่ยวของปวงชนชาวไทย ประกาศไม่ร่วมชุมนุม 14 ต.ค. ขอเดินตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง "กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม" ระดมศิษย์เก่า แถลงจุดยืนปกป้องสถาบันฯ ศุกร์นี้ ด้าน"อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา"ยันศาลไม่เติมฟืนใส่กองไฟให้สถานการณ์ชุมนุมรุนแรงขึ้น แต่จะใช้กฎหมายให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
วานนี้(7ต.ค.) ศูนย์เรียนรู้เมืองสมุนไพรคำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย นางนิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่นไทย ร่วมประชุมกับอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ทั้ง 20 จังหวัดเพื่อขับเคลื่อน “เศรษฐกิจพอเพียง”ที่เป็นแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานมานานกว่า 40 ปี เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมไทย เป็นแนวทางการพัฒนาที่ตั้งบนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ที่สำคัญจะต้องมี“สติ ปัญญา และความเพียร”ซึ่งจะนำไปสู่ “ความสุข”ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง จาก ร. 9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา
นายอานนท์ กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นองค์ประกอบสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประเพณีการปกครองของไทย ประชาชนทุกคน จึงถือเป็นหน้าที่สำคัญในอันที่จะเชิดชูสถาบันนี้ด้วยความจงรักภักดี และปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางสังคม จิตวิทยา และมาตรการทางระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการดำเนินการกับผู้คะนองปาก ย่ามใจ หรือประสงค์ร้าย มุ่งสั่นคลอนสถาบันหลักของชาติ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สำนึก และความผูกพันภักดีของคนอีกเป็นจำนวนมาก
ทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง ให้อิสระทางความคิดของคน เด็กรุ่นเก่ากับเด็กรุ่นใหม่ จึงมีวิธีคิดที่ต่างกันออกไป ซึ่งก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล วิจารณญาณ และการอบรมสั่งสอนของคนในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นเรื่องที่ควรศึกษาให้ชัดเจนถ่องแท้ คนที่จะบอกเล่าและถ่ายทอดได้ดีที่สุดต้องเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุด และต้องรู้จริงเรื่องราวต่างๆ เด็กรุ่นใหม่จึงจะเข้าใจถึงความเป็นมาของสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น เพราะตลอดช่วงเวลากว่า 40 ปีที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “สยามมกุฎราชกุมาร”สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงเรียนรู้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในด้านต่างๆ อย่างทรงพระวิริยะ เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ พระองค์ทรงมุ่งมั่นสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ปวงประชาชนชาวไทยสืบไป
ส่วนที่มีกลุ่มคนออกมาจาบจ้วง โปรดพึงสังวรเอาไว้ว่า“ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์ไทย คงไม่มีแผ่นดินให้ คนรุ่นใหม่ได้มีที่ยืนในวันนี้ คงเป็นทาสของต่างชาติ หรือไม่ก็จะไม่มีชาติให้ได้ภาคภูมิใจเหมือนเช่นทุกวันนี้ เพราะการที่พวกเรา “ยุบและสลายหมู่บ้านเสื้อแดง”เข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เป็นเครือข่าย “รวมไทยสร้างชาติ เรารักประเทศไทย”ก็ต้องการที่จะทำงานด้วยจิตอาสาเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่ผ่านมาพวกเราเป็นคนเสื้อแดง และแยกออกมาเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ก็จะใช้สโลแกนที่ว่า “หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”เพราะพวกเราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ พวกเราอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน จึงเดินทางมาขอพรกับ “องค์เจ้าปู่ศรีสุทโธ”และ “องค์เจ้าย่าศรีปทุมมา”ณ วังนาคินทร์คำชะโนด ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปโดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ และร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ทรงเป็นประมุขของประเทศไทยต่อไป และพวกเราขอยืนยันว่า กลุ่ม “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง”และ “สมาชิกคนเสื้อแดงภาคอีสาน”จะขอปกป้องสถาบัน และไม่เคยคิดจะเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. แต่อย่างใด
นอกจากนี้มีรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของ "กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม" โดยพี่น้องศิษย์เก่า มธ. ประมาณ 100 คน ที่จะแสดงออกถึงพลังความรักในศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของสถาบัน ไม่ต้องการให้การเมืองนำชื่อของสถาบัน มธ.ไปใช้ และด้วยความรักและศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยตัวแทนของกลุ่มได้นัดหมายที่จะเปิดแถลงการณ์ เพื่อแสดงจุดยืนต่อสื่อมวลชน ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมไอบิส สไตล์ กรุงเทพ ข้าวสาร (เวียงใต้ ) จากนั้นจะส่งตัวแทนเดินทางไปยื่นจดหมาย ถึงอธิการบดี มธ. ในเวลา 14.00 น.
ด้าน นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึง นโยบายการทำงานในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งบางครั้งก็มีผู้ใช้ศาลอาญา เป็นสถานที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ปกติศาลจะมีแนวทางป้องกันไว้อย่างรอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย ส่วนการดำเนินการของศาล จะใช้หลักกฎหมายเป็นหลักในการพิจารณา แต่ศาลไม่ใช่ฝ่ายปกครองโดยตรง จึงต้องนำหลักรัฐศาสตร์มาประยุกต์ปรับใช้กับการบริหารจัดการด้วย ปัจจุบันศาลอาญาเป็นหลักในการรักษากฎหมายของบ้านเมือง จะต้องรักษาจุดนี้ไว้ให้ได้
"ศาลอาญาจะไม่เติมฟืนใส่กองไฟให้สถานการณ์ทางการเมืองรุนแรงขึ้น แต่จะบังคับใช้กฎหมายไปตามครรลอง ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย" นายสิทธิโชติ กล่าว
วานนี้(7ต.ค.) ศูนย์เรียนรู้เมืองสมุนไพรคำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย นางนิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่นไทย ร่วมประชุมกับอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ทั้ง 20 จังหวัดเพื่อขับเคลื่อน “เศรษฐกิจพอเพียง”ที่เป็นแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานมานานกว่า 40 ปี เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมไทย เป็นแนวทางการพัฒนาที่ตั้งบนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ที่สำคัญจะต้องมี“สติ ปัญญา และความเพียร”ซึ่งจะนำไปสู่ “ความสุข”ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง จาก ร. 9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา
นายอานนท์ กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นองค์ประกอบสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประเพณีการปกครองของไทย ประชาชนทุกคน จึงถือเป็นหน้าที่สำคัญในอันที่จะเชิดชูสถาบันนี้ด้วยความจงรักภักดี และปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางสังคม จิตวิทยา และมาตรการทางระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการดำเนินการกับผู้คะนองปาก ย่ามใจ หรือประสงค์ร้าย มุ่งสั่นคลอนสถาบันหลักของชาติ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สำนึก และความผูกพันภักดีของคนอีกเป็นจำนวนมาก
ทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง ให้อิสระทางความคิดของคน เด็กรุ่นเก่ากับเด็กรุ่นใหม่ จึงมีวิธีคิดที่ต่างกันออกไป ซึ่งก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล วิจารณญาณ และการอบรมสั่งสอนของคนในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นเรื่องที่ควรศึกษาให้ชัดเจนถ่องแท้ คนที่จะบอกเล่าและถ่ายทอดได้ดีที่สุดต้องเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุด และต้องรู้จริงเรื่องราวต่างๆ เด็กรุ่นใหม่จึงจะเข้าใจถึงความเป็นมาของสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น เพราะตลอดช่วงเวลากว่า 40 ปีที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “สยามมกุฎราชกุมาร”สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงเรียนรู้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในด้านต่างๆ อย่างทรงพระวิริยะ เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ พระองค์ทรงมุ่งมั่นสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ปวงประชาชนชาวไทยสืบไป
ส่วนที่มีกลุ่มคนออกมาจาบจ้วง โปรดพึงสังวรเอาไว้ว่า“ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์ไทย คงไม่มีแผ่นดินให้ คนรุ่นใหม่ได้มีที่ยืนในวันนี้ คงเป็นทาสของต่างชาติ หรือไม่ก็จะไม่มีชาติให้ได้ภาคภูมิใจเหมือนเช่นทุกวันนี้ เพราะการที่พวกเรา “ยุบและสลายหมู่บ้านเสื้อแดง”เข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เป็นเครือข่าย “รวมไทยสร้างชาติ เรารักประเทศไทย”ก็ต้องการที่จะทำงานด้วยจิตอาสาเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่ผ่านมาพวกเราเป็นคนเสื้อแดง และแยกออกมาเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ก็จะใช้สโลแกนที่ว่า “หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”เพราะพวกเราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ พวกเราอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน จึงเดินทางมาขอพรกับ “องค์เจ้าปู่ศรีสุทโธ”และ “องค์เจ้าย่าศรีปทุมมา”ณ วังนาคินทร์คำชะโนด ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปโดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ และร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ทรงเป็นประมุขของประเทศไทยต่อไป และพวกเราขอยืนยันว่า กลุ่ม “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง”และ “สมาชิกคนเสื้อแดงภาคอีสาน”จะขอปกป้องสถาบัน และไม่เคยคิดจะเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. แต่อย่างใด
นอกจากนี้มีรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของ "กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม" โดยพี่น้องศิษย์เก่า มธ. ประมาณ 100 คน ที่จะแสดงออกถึงพลังความรักในศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของสถาบัน ไม่ต้องการให้การเมืองนำชื่อของสถาบัน มธ.ไปใช้ และด้วยความรักและศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยตัวแทนของกลุ่มได้นัดหมายที่จะเปิดแถลงการณ์ เพื่อแสดงจุดยืนต่อสื่อมวลชน ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมไอบิส สไตล์ กรุงเทพ ข้าวสาร (เวียงใต้ ) จากนั้นจะส่งตัวแทนเดินทางไปยื่นจดหมาย ถึงอธิการบดี มธ. ในเวลา 14.00 น.
ด้าน นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึง นโยบายการทำงานในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งบางครั้งก็มีผู้ใช้ศาลอาญา เป็นสถานที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ปกติศาลจะมีแนวทางป้องกันไว้อย่างรอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย ส่วนการดำเนินการของศาล จะใช้หลักกฎหมายเป็นหลักในการพิจารณา แต่ศาลไม่ใช่ฝ่ายปกครองโดยตรง จึงต้องนำหลักรัฐศาสตร์มาประยุกต์ปรับใช้กับการบริหารจัดการด้วย ปัจจุบันศาลอาญาเป็นหลักในการรักษากฎหมายของบ้านเมือง จะต้องรักษาจุดนี้ไว้ให้ได้
"ศาลอาญาจะไม่เติมฟืนใส่กองไฟให้สถานการณ์ทางการเมืองรุนแรงขึ้น แต่จะบังคับใช้กฎหมายไปตามครรลอง ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย" นายสิทธิโชติ กล่าว