ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง ระดมอดีต ปธ.หมู่บ้านเสื้อแดงอีสาน ปกป้องสถาบันฯ เพราะเป็นที่ยึดเหนี่ยวของปวงชนชาวไทย พร้อมปฏิเสธอดีตแกนนำและสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดงไม่ร่วมชุมนุม 14 ตุลาคม ขอเดินตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
วันนี้ (7 ต.ค.) ณ ศูนย์เรียนรู้เมืองสมุนไพรคำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย นางนิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่นไทย ร่วมประชุมกับอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ทั้ง 20 จังหวัด เพื่อขับเคลื่อน “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่เป็นแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมานานกว่า 40 ปี เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมไทย เป็นแนวทางการพัฒนาที่ตั้งบนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ที่สำคัญจะต้องมี “สติ ปัญญา และความเพียร” ซึ่งจะนำไปสู่ความสุขในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง จาก ร.๙ ถึง ร.๑๐ สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา
นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประกอบสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประเพณีการปกครองของไทย ประชาชนทุกคนจึงถือเป็นหน้าที่สำคัญยิ่งยวดในอันที่จะเชิดชูสถาบันนี้ไว้ด้วยความจงรักภักดีและปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางสังคมจิตวิทยา และมาตรการทางระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการดำเนินการกับผู้คะนองปาก ย่ามใจหรือประสงค์ร้าย มุ่งสั่นคลอนสถาบันหลักของชาติ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สำนึกและความผูกพันภักดีของคนอีกเป็นจำนวนมาก เพราะทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง ให้อิสระทางความคิดของคน เด็กรุ่นเก่ากับเด็กรุ่นใหม่จึงมีวิธีคิดที่ต่างกันออกไป ซึ่งก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล วิจารณญาณ และการอบรมสั่งสอนบอกเล่าของคนในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นเรื่องที่ควรศึกษาให้ชัดเจนถ่องแท้ คนที่จะบอกเล่าและถ่ายทอดได้ดีที่สุดต้องเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุดและต้องรู้จริงเรื่องราวต่างๆ จึงจะสืบต่อไป เด็กรุ่นใหม่จึงจะเข้าใจถึงความเป็นมาของสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น เพราะตลอดช่วงเวลากว่า 40 ปีที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “สยามมกุฎราชกุมาร” สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเรียนรู้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ในด้านต่างๆ อย่างทรงพระวิริยะ เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ พระองค์ทรงมุ่งมั่นสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ปวงประชาชนชาวไทยสืบไป
นายอานนท์กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีกลุ่มคนออกมาจาบจ้วงโปรดพึงสังวรเอาไว้ว่า “ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์ไทย คงไม่มีแผ่นดินให้ คนรุ่นใหม่ได้มีที่ยืนในวันนี้คงเป็นทาสของต่างชาติ หรือไม่ก็จะไม่มีชาติให้ได้ภาคภูมิใจเหมือนเช่นทุกวันนี้ เพราะการที่พวกเรา “ยุบและสลายหมู่บ้านเสื้อแดง” เข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเป็นเครือข่าย “รวมไทยสร้างชาติ เรารักประเทศไทย” ก็ต้องการที่จะทำงานด้วยจิตอาสาเพื่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ เพราะที่ผ่านมาพวกเราเป็นคนเสื้อแดง และแยกออกมาเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ก็จะใช้สโลแกนที่ว่า “หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เพราะพวกเราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ พวกเราอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน จึงเดินทางมาขอพรกับ “องค์เจ้าปู่ศรีสุทโธ” และ “องค์เจ้าย่าศรีปทุมมา” ณ วังนาคินทร์คำชะโนด ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศและร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ทรงเป็นประมุขของประเทศไทยต่อไป และพวกเราขอยืนยันว่ากลุ่ม “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง” และ “สมาชิกคนเสื้อแดงภาคอีสาน” จะขอปกป้องสถาบันฯ และไม่เคยคิดจะเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 แต่อย่างใด