“สมพงษ์” เข้าวิน หน.เพื่อไทยอีกสมัย ประกาศ 4 ภารกิจหลังปรับโครงสร้างใหม่ ผนึกพลังคนสองรุ่นนำพรรคยิ่งใหญ่ ปัด “พจมาน” คุมพรรค “ประเสริฐ” ยังหวังกล่อม “สุดารัตน์” ช่วยงานต่อ กางชื่อ 24 กก.บห.ชุดใหม่ “ประเสริฐ” นั่งเลขาฯ ตามโผ
วานนี้ (1 ต.ค.) พรรคเพื่อไทย จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แกนนำ, ส.ส., สมาชิกพรรค, ตัวแทนสาขาพรรค และอดีตรัฐมนตรีที่เคยสังกัดพรรคต่างทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ก็ได้เดินทางมาร่วมการประชุมและใช้สิทธิ์ลงคะแนนด้วย
ทั้งนี้ ผลการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ปรากฏว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอีกสมัย โดยไม่มีการเสนอชื่อคู่แข่ง ด้วยคะแนนเสียง 376 เสียง จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 413 เสียง มีรองหัวหน้าพรรค 10 คน ประกอบด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายเกรียง กัลป์ตินันท์, นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, นายพิชัย นริททะพันธุ์ , นายสุทิน คลังแสง, นายไชยา พรหมา, พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้เป็นเลขาธิการพรรค โดยไม่มีคู่แข่งเช่นกัน ด้วยคะแนนเสียง 330 เสียง จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 413 เสียง โดยมีบัตรเสียถึง 37 ใบ และมีรองเลขาธิการพรรค 5 คน ประกอบด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม, นายจิรวัฒน์ ศิริพาณิชย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล, นายคุณากร ปรีชาชนะชัย และ นายนพ ชีวานันท์
ส่วน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวณิชย์ เป็นเหรัญญิกพรรค และนายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค ด้านน.ส.อรุณี กาสยานนท์ เป็นโฆษกพรรค และ มีกรรมการบริหารพรรคอีก 4 คน ประกอบด้วยนายชวลิต วิชยสุทธิ์, นายสรวงศ์ เทียนทอง, นายองอาจ วงษ์ประยูร และนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์
เด็ก “นายใหญ่-นายกฯปู” พรึ่บ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในกรรมการบริหารพรรคจำนวน 24 คนนั้นเป็นตัวแทนจากกลุ่มต่างๆในพรรค โดยส่วนมามาจากสายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผ่านแกนนำสายตรงหลายคน และอีกส่วนมาจากกลุ่มที่มีความใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาวของนายทักษิณ โดยนายสมพงษ์นั้นถือว่าเป็นผู้อาวุโส และคุ้นเคยกับตระกูลชินวัตร ในฐานะ ส.ส.เชียงใหม่ โดยจะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรโดยตำแหน่งอีกสมัยด้วย ขณะที่ นายประเสริฐ เลขาธิการพรรคคนใหม่ เป็น ส.ส.นครราชสีมา เคยเปนอดีต รมช.คมนาคม สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และได้รับการผลักดันนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล แกนนำคนสำคัญของพรรค เช่นเดียวกับ นายยุทธพงศ์ ส.ส.มหาสารคาม และนายพิชัย อดีต รมว.พลังงาน ที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ก็มีความใกล้ชิดกับนายพงษ์ศักดิ์เช่นกัน
สำหรับรองหัวหน้าพรรครายอื่นๆ ที่มาจากสาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกอบด้วยนายกิตติรัตน์ อดีตรองนายกฯ และนายอนุสรณ์ อดีตรองโฆษกรัฐบาล สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขณะที่นายเกรียง แกนนำกลุ่มอุบลราชธานี และนายไชยา ส.ส.หนองบัวลำภู มีความใกล้ชิดกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณอีกคน พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ ใกล้ชิดกับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา โดยปัจจุบันตั้งกลุ่มพลเมืองร่วมใจด้วยกัน ด้าน นายสุทิน ส.ส.มหาสารคาม และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ที่พลาดหวังจากความพยายามช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค กับนายชูศักดิ์ มือกฎหมายของพรรค ถือว่าได้รับแต่งตั้งในฐานะมือทำงานของพรรค มีเพียง น.อ.อนุดิษฐ์ ส.ส.กทม. และอดีตเลขาฯพรรคเท่านั้นที่มาจากสายคุณหญิงสุดารัตน์
ดันคนรุ่นใหม่นั่ง 5 รองเลขาฯ
สำหรับรองเลขาธิการพรรค 5 คน ที่ประกอบด้วย นายจักรพล เป็น ส.ส.เชียงใหม่ อ.สันกำแพง บ้านเกิดตระกูลชินวัตร และเคยเป็นเลขานุการส่วนตัว นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาก่อน, นายจิรวัฒน์ เป็นบุตรชายของนายประยุทธ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ผู้ผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย, นายเผ่าภูมิ เป็นคนสนิทของนายนายภูมิธรรม, นายคุณากร ส.ส.สุรินทร์, นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.อยุธยา บุตรชายนายพ้อง ชีวานันท์ อดีต รมช.คมนาคม, น.ส.ธีรรัตน์ ส.ส.กทม. ที่เป็นเหรัญญิก รวมไปถึง น.ส.อรุณี หรือ “ดร.หญิง” ที่เป็นโฆษกพรรค เคยเป็นรองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ และเคยทำงานที่ว๊อยซ์ทีวี ถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ด้านกรรมการบริหารพรรค 4 ราย มาจากโควตาภาค ประกอบด้วย “นายอำเภอ” ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม, องอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี, “นายกฯบัง” พรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และ “เสี่ยบอย” สรวงศ์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว และอดีต รมช.สาธารณสุข ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย.
เร่งดำเนินการ 4 ภารกิจ
ภายหลังจากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกสมัย นายสมพงษ์ ได้ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ พร้อมประกาศ 4 ภารกิจที่จะดำเนินการ คือ 1. มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยพรรคจะจับมือกับทุกเครือข่าย เร่งรัดแก้รธน.ให้เกิดกติกาที่ยุติธรรม เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด 2. มุ่งมั่นแบ่งเบาความเดือดร้อนประชาชนจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยจะระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอกพรรค เพื่อผลักดันนโยบายหาทางแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม 3. กระชับความสัมพันธ์ในหมู่สมาชิกและประชาชน กลุ่มประชาสังคมทุกเครือข่าย ให้เกิดการร่วมมือให้แน่นแฟ้น สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน และ 4 .รวบรวมและนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญ สื่อสารไปยังประชาชนและส.ส. เพื่อรับรู้ปัญหา และสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ของประชาชน ในการแก้ไขปัญหาให้ดียิ่งขึ้น
“การเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังจากรุ่นสู่รุ่น ระหว่างความรู้ ประสบการณ์ของรุ่นพี่ กับความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ และความมุ่งมั่นที่เปี่ยมด้วยพลังของรุ่นน้องๆ ให้ทันกับโลกที่เปลี่ยน แปลงไป เราสองรุ่นจะจับมือกันให้แน่น ร่วมถักทอความหวัง ความฝันที่จะเห็นประชาชนกินอิ่ม นอนหลับ ยิ้มได้ อย่างมีความสุข กับชีวิตที่ดีขึ้น คือ อุดมการณ์สูงสุดของพรรคเพื่อไทย” นายสมพงษ์ ระบุ
ปัดวุ่น “คุณหญิงอ้อ” คุมพรรค
นายสมพงษ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีบุคลากรที่ชำนาญด้านเศรษฐกิจอยู่ แต่จะเชิญบุคลากรหลายท่านมาช่วยแนะนำในด้านนี้เพิ่มเติม เพื่อจะได้วางแนวทางร่วมกัน ส่วนความนิยมของพรรค นั้นส.ส.แต่ละพื้นที่ให้ข้อมูลตรงกันว่า ประชาชนยังให้ความสนับสนุนพรรคเช่นเดิม เพียงแต่ต้องทำงานหนัก เพื่อเข้าไปนั่งในใจประชาชน ซึ่งคณะกรรมการบริหารชุดนี้ มีทั้งคนหน้าเก่าหน้าใหม่ผสมผสานกัน เพื่อนำพรรคเพื่อไทยให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเก่า จากนี้ขอเวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อปรับสิ่งต่างๆ จากนั้นจะมีนโยบายออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม
เมื่อถามว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้าง หรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า คุณหญิงพจมาน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรค แต่อาจมีสมาชิกไปหารือกับท่าน ตรงนี้เป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่ไปก้าวล่วง ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะเข้ามาคุมพรรคนั้น เป็นเพียงการลือกันไป เพราะงานท่านก็มีอยู่เยอะ พรรคเรางานก็ยุ่ง ส่วนกระแสข่าว นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ จะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคนั้น ตนยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ เมื่อถามถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์ มาร่วมงานด้านใดบ้าง นายสมพงษ์ ตอบว่า คุณหญิงสุดารัตน์ยังเป็นสมาชิกพรรค และเป็นประธานสรรหาผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคอยู่ เพียงแต่ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเท่านั้น
ยังหวัง “สุดารัตน์” อยู่ช่วยงาน
ด้าน นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ โดยเน้นในเรื่องของการกระจายอำนาจ และแบ่งภารกิจกันอย่างชัดเจน และจะให้ความสำคัญกับ ส.ส.ทุกคน วันนี้มีคนรุ่นใหม่เข้ามา เป็นการผสมเอาความคิดของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่ามารวมกัน เด็กหลายคนมีความคิดสร้างสรรค์ วันนี้เทคโนโลยีและการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก พรรคจึงต้องผนึกกำลังกันทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า จะมีการดึง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม กลับมาช่วยงานนั้น นายชัชชาติได้ปฏิเสธในเบื้องต้นก่อน คงเป็นเรื่องในอนาคต และต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน สำหรับการดึงกลุ่มบุคคลต่างๆ กลับมาร่วมงาน อาทิ กลุ่มแคร์ เขาเป็นกลุ่มนักวิชาการ มีแนวความคิด และข้อคิดเห็นหลายอย่าง อะไรที่เป็นประโยชน์ พรรคก็พร้อมรับฟัง โดยอาจจะร่วมสนทนา สัมนากัน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในอนาคตก็เป็นไปได้ เช่นเดียวกับ คุณหญิงสุดารัตน์ ท่านก็ยังเป็นสมาชิก เป็นบุคลากรคนสำคัญของพรรคอยู่ หลังจากที่คณะกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกันแล้ว ก็คงจะมีการพูดคุยกันว่า จะขอให้ท่านกลับมาทำงานร่วมกันอย่างไร
วานนี้ (1 ต.ค.) พรรคเพื่อไทย จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แกนนำ, ส.ส., สมาชิกพรรค, ตัวแทนสาขาพรรค และอดีตรัฐมนตรีที่เคยสังกัดพรรคต่างทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ก็ได้เดินทางมาร่วมการประชุมและใช้สิทธิ์ลงคะแนนด้วย
ทั้งนี้ ผลการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ปรากฏว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอีกสมัย โดยไม่มีการเสนอชื่อคู่แข่ง ด้วยคะแนนเสียง 376 เสียง จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 413 เสียง มีรองหัวหน้าพรรค 10 คน ประกอบด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายเกรียง กัลป์ตินันท์, นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, นายพิชัย นริททะพันธุ์ , นายสุทิน คลังแสง, นายไชยา พรหมา, พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้เป็นเลขาธิการพรรค โดยไม่มีคู่แข่งเช่นกัน ด้วยคะแนนเสียง 330 เสียง จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 413 เสียง โดยมีบัตรเสียถึง 37 ใบ และมีรองเลขาธิการพรรค 5 คน ประกอบด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม, นายจิรวัฒน์ ศิริพาณิชย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล, นายคุณากร ปรีชาชนะชัย และ นายนพ ชีวานันท์
ส่วน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวณิชย์ เป็นเหรัญญิกพรรค และนายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค ด้านน.ส.อรุณี กาสยานนท์ เป็นโฆษกพรรค และ มีกรรมการบริหารพรรคอีก 4 คน ประกอบด้วยนายชวลิต วิชยสุทธิ์, นายสรวงศ์ เทียนทอง, นายองอาจ วงษ์ประยูร และนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์
เด็ก “นายใหญ่-นายกฯปู” พรึ่บ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในกรรมการบริหารพรรคจำนวน 24 คนนั้นเป็นตัวแทนจากกลุ่มต่างๆในพรรค โดยส่วนมามาจากสายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผ่านแกนนำสายตรงหลายคน และอีกส่วนมาจากกลุ่มที่มีความใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาวของนายทักษิณ โดยนายสมพงษ์นั้นถือว่าเป็นผู้อาวุโส และคุ้นเคยกับตระกูลชินวัตร ในฐานะ ส.ส.เชียงใหม่ โดยจะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรโดยตำแหน่งอีกสมัยด้วย ขณะที่ นายประเสริฐ เลขาธิการพรรคคนใหม่ เป็น ส.ส.นครราชสีมา เคยเปนอดีต รมช.คมนาคม สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และได้รับการผลักดันนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล แกนนำคนสำคัญของพรรค เช่นเดียวกับ นายยุทธพงศ์ ส.ส.มหาสารคาม และนายพิชัย อดีต รมว.พลังงาน ที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ก็มีความใกล้ชิดกับนายพงษ์ศักดิ์เช่นกัน
สำหรับรองหัวหน้าพรรครายอื่นๆ ที่มาจากสาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกอบด้วยนายกิตติรัตน์ อดีตรองนายกฯ และนายอนุสรณ์ อดีตรองโฆษกรัฐบาล สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขณะที่นายเกรียง แกนนำกลุ่มอุบลราชธานี และนายไชยา ส.ส.หนองบัวลำภู มีความใกล้ชิดกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณอีกคน พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ ใกล้ชิดกับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา โดยปัจจุบันตั้งกลุ่มพลเมืองร่วมใจด้วยกัน ด้าน นายสุทิน ส.ส.มหาสารคาม และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ที่พลาดหวังจากความพยายามช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค กับนายชูศักดิ์ มือกฎหมายของพรรค ถือว่าได้รับแต่งตั้งในฐานะมือทำงานของพรรค มีเพียง น.อ.อนุดิษฐ์ ส.ส.กทม. และอดีตเลขาฯพรรคเท่านั้นที่มาจากสายคุณหญิงสุดารัตน์
ดันคนรุ่นใหม่นั่ง 5 รองเลขาฯ
สำหรับรองเลขาธิการพรรค 5 คน ที่ประกอบด้วย นายจักรพล เป็น ส.ส.เชียงใหม่ อ.สันกำแพง บ้านเกิดตระกูลชินวัตร และเคยเป็นเลขานุการส่วนตัว นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาก่อน, นายจิรวัฒน์ เป็นบุตรชายของนายประยุทธ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ผู้ผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย, นายเผ่าภูมิ เป็นคนสนิทของนายนายภูมิธรรม, นายคุณากร ส.ส.สุรินทร์, นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.อยุธยา บุตรชายนายพ้อง ชีวานันท์ อดีต รมช.คมนาคม, น.ส.ธีรรัตน์ ส.ส.กทม. ที่เป็นเหรัญญิก รวมไปถึง น.ส.อรุณี หรือ “ดร.หญิง” ที่เป็นโฆษกพรรค เคยเป็นรองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ และเคยทำงานที่ว๊อยซ์ทีวี ถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ด้านกรรมการบริหารพรรค 4 ราย มาจากโควตาภาค ประกอบด้วย “นายอำเภอ” ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม, องอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี, “นายกฯบัง” พรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และ “เสี่ยบอย” สรวงศ์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว และอดีต รมช.สาธารณสุข ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย.
เร่งดำเนินการ 4 ภารกิจ
ภายหลังจากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกสมัย นายสมพงษ์ ได้ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ พร้อมประกาศ 4 ภารกิจที่จะดำเนินการ คือ 1. มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยพรรคจะจับมือกับทุกเครือข่าย เร่งรัดแก้รธน.ให้เกิดกติกาที่ยุติธรรม เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด 2. มุ่งมั่นแบ่งเบาความเดือดร้อนประชาชนจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยจะระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอกพรรค เพื่อผลักดันนโยบายหาทางแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม 3. กระชับความสัมพันธ์ในหมู่สมาชิกและประชาชน กลุ่มประชาสังคมทุกเครือข่าย ให้เกิดการร่วมมือให้แน่นแฟ้น สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน และ 4 .รวบรวมและนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญ สื่อสารไปยังประชาชนและส.ส. เพื่อรับรู้ปัญหา และสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ของประชาชน ในการแก้ไขปัญหาให้ดียิ่งขึ้น
“การเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังจากรุ่นสู่รุ่น ระหว่างความรู้ ประสบการณ์ของรุ่นพี่ กับความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ และความมุ่งมั่นที่เปี่ยมด้วยพลังของรุ่นน้องๆ ให้ทันกับโลกที่เปลี่ยน แปลงไป เราสองรุ่นจะจับมือกันให้แน่น ร่วมถักทอความหวัง ความฝันที่จะเห็นประชาชนกินอิ่ม นอนหลับ ยิ้มได้ อย่างมีความสุข กับชีวิตที่ดีขึ้น คือ อุดมการณ์สูงสุดของพรรคเพื่อไทย” นายสมพงษ์ ระบุ
ปัดวุ่น “คุณหญิงอ้อ” คุมพรรค
นายสมพงษ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีบุคลากรที่ชำนาญด้านเศรษฐกิจอยู่ แต่จะเชิญบุคลากรหลายท่านมาช่วยแนะนำในด้านนี้เพิ่มเติม เพื่อจะได้วางแนวทางร่วมกัน ส่วนความนิยมของพรรค นั้นส.ส.แต่ละพื้นที่ให้ข้อมูลตรงกันว่า ประชาชนยังให้ความสนับสนุนพรรคเช่นเดิม เพียงแต่ต้องทำงานหนัก เพื่อเข้าไปนั่งในใจประชาชน ซึ่งคณะกรรมการบริหารชุดนี้ มีทั้งคนหน้าเก่าหน้าใหม่ผสมผสานกัน เพื่อนำพรรคเพื่อไทยให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเก่า จากนี้ขอเวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อปรับสิ่งต่างๆ จากนั้นจะมีนโยบายออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม
เมื่อถามว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้าง หรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า คุณหญิงพจมาน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรค แต่อาจมีสมาชิกไปหารือกับท่าน ตรงนี้เป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่ไปก้าวล่วง ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะเข้ามาคุมพรรคนั้น เป็นเพียงการลือกันไป เพราะงานท่านก็มีอยู่เยอะ พรรคเรางานก็ยุ่ง ส่วนกระแสข่าว นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ จะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคนั้น ตนยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ เมื่อถามถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์ มาร่วมงานด้านใดบ้าง นายสมพงษ์ ตอบว่า คุณหญิงสุดารัตน์ยังเป็นสมาชิกพรรค และเป็นประธานสรรหาผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคอยู่ เพียงแต่ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเท่านั้น
ยังหวัง “สุดารัตน์” อยู่ช่วยงาน
ด้าน นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ โดยเน้นในเรื่องของการกระจายอำนาจ และแบ่งภารกิจกันอย่างชัดเจน และจะให้ความสำคัญกับ ส.ส.ทุกคน วันนี้มีคนรุ่นใหม่เข้ามา เป็นการผสมเอาความคิดของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่ามารวมกัน เด็กหลายคนมีความคิดสร้างสรรค์ วันนี้เทคโนโลยีและการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก พรรคจึงต้องผนึกกำลังกันทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า จะมีการดึง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม กลับมาช่วยงานนั้น นายชัชชาติได้ปฏิเสธในเบื้องต้นก่อน คงเป็นเรื่องในอนาคต และต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน สำหรับการดึงกลุ่มบุคคลต่างๆ กลับมาร่วมงาน อาทิ กลุ่มแคร์ เขาเป็นกลุ่มนักวิชาการ มีแนวความคิด และข้อคิดเห็นหลายอย่าง อะไรที่เป็นประโยชน์ พรรคก็พร้อมรับฟัง โดยอาจจะร่วมสนทนา สัมนากัน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในอนาคตก็เป็นไปได้ เช่นเดียวกับ คุณหญิงสุดารัตน์ ท่านก็ยังเป็นสมาชิก เป็นบุคลากรคนสำคัญของพรรคอยู่ หลังจากที่คณะกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกันแล้ว ก็คงจะมีการพูดคุยกันว่า จะขอให้ท่านกลับมาทำงานร่วมกันอย่างไร