หน.เพื่อไทยคนใหม่หน้าเก่า ประกาศ 4 ภารกิจหลังปรับโครงสร้างใหม่ ผนึกพลังคนสองรุ่นนำพรรคยิ่งใหญ่ ปัด “พจมาน” คุมพรรค “ประเสริฐ” ยังหวังกล่อม “สุดารัตน์” ช่วยงานต่อ
วันนี้ (1 ต.ค.) ภายหลังจากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกสมัย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ร่วมลงคะแนนให้ความไว้วางใจเลือกตนกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้อยู่ภายใต้ภาวะวิกฤต ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการบริหารพรรคให้แบกรับภารกิจเพื่อเป็นที่หวังพึ่งได้ของประชาชน ภารกิจสำคัญอย่างแรก คือ ความมุ่งมั่นต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับทุกเครือข่ายเร่งรัดแก้รัฐธรรมนูญให้เกิดกติกายุติธรรม เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ภารกิจที่ 2 คือ ความมุ่งมั่นแบ่งเบาความเดือดร้อนประชาชน โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้เริ่มส่งผลรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ สิ่งที่พรรคจะทำต่อจากนี้ คือ การระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอกพรรคเพื่อผลักดันนโยบาย หาทางแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมดังเช่นที่พรรคเพื่อไทยได้เคยทำสำเร็จมาแล้ว
นายสมพงษ์กล่าวว่า ภารกิจที่ 3 คือ กระชับความสัมพันธ์ในหมู่สมาชิกและประชาชน กลุ่มประชาสังคมทุกเครือข่ายให้เกิดการร่วมมือให้แน่นแฟ้น สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยร่วมกันอย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน และภารกิจท้ายสุด คือ การรวบรวมและนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญสื่อสารไปยังประชาชนและ ส.ส. เพื่อรับรู้ปัญหาและสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ของประชาชนในการแก้ไขปัญหาให้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังจากรุ่นสู่รุ่น ระหว่างความรู้ ประสบการณ์ของรุ่นพี่ กับความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ และความมุ่งมั่นที่เปี่ยมด้วยพลังของรุ่นน้องๆ ให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เราสองรุ่นจะจับมือกันให้แน่น ร่วมถักทอความหวัง ความฝันที่จะเห็นประชาชนกินอิ่ม นอนหลับ ยิ้มได้อย่างมีความสุขกับชีวิตที่ดีขึ้น คืออุดมการณ์สูงสุดของพรรคเพื่อไทย
จากนั้นนายสมพงษ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีบุคลากรที่ชำนาญด้านเศรษฐกิจอยู่ แต่จะเชิญบุคลากรหลายท่านมาช่วยแนะนำในด้านนี้เพิ่มเติม เพื่อจะได้วางแนวทางร่วมกัน ส่วนความนิยมของพรรคนั้น ส.ส.แต่ละพื้นที่ให้ข้อมูลตรงกันว่าประชาชนยังให้ความสนับสนุนพรรคเช่นเดิม เพียงแต่ต้องทำงานหนักเพื่อเข้าไปนั่งในใจประชาชน และคณะกรรมการบริหารชุดนี้มีทั้งคนหน้าเก่าหน้าใหม่ผสมผสานกันเพื่อนำพรรคเพื่อไทยให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเก่า จากนี้ขอเวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อปรับสิ่งต่างๆจากนั้นจะมีนโยบายออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม
เมื่อถามว่าคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้างหรือไม่ นายสมพงษ์ตอบว่า คุณหญิงพจมานไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรค แต่อาจมีสมาชิกไปหารือกับท่าน ตรงนี้เป็นเรื่องส่วนตัวตนคงไม่ไปก้าวล่วง ส่วนกระแสข่าวทีว่าจะเข้ามาคุมพรรคนั้นเป็นเพียงการลือกันไปต่างๆ นานา เพราะงานท่านก็มีอยู่เยอะพรรคเรางานก็ยุ่ง
ส่วนกระแสข่าวนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณจะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคนั้น ตนยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ เมื่อถามถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์ มาร่วมงานด้านใดบ้าง นายสมพงษ์ตอบว่า คุณหญิงสุดารัตน์ยังเป็นสมาชิกและเป็นประธานสรรหาผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคอยู่ เพียงแต่ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเท่านั้น
ด้านนายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า ตนขอใช้โอกาสนี้กราบขอบพระคุณสมาชิกพรรคทุกท่านที่ติดตามการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ทั้งนี้ พรรคจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของพรรคใหม่ โดยจะเน้นในเรื่องของการกระจายอำนาจ และแบ่งภารกิจกันอย่างชัดเจน โดยจะมีคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นศูนย์กลางในการบริหาร ส่วนสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคก็เนื่องจากว่า พรรคได้มองสถานการ์การเมืองในยุคปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารจึงปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพองเศรษฐกิจ และการเมืองที่เปลี่ยนไป เพราะวันนี้ประชาชนขาดศรัทธา วันนี้พรรคเพื่อไทยจึงจะขับเคลื่อนทุกองคาพยพ โดยหลังจากนี้ภารกิจเริ่มแรกที่สำคัญคือ ต้องเร่งระดมความคิดเห็น โดยการเร่งประชุมกรรมการบริหารพรรคโดยด่วน ภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์นี้ เพื่อวางกรอบนโยบายในด้านต่างๆ ต่อมา คือ เร่งสร้างนโยบายของพรรคให้ตรงต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้แล้ว ในฐานะที่ตนเป็นเลขาธิการพรรค ครั้งนี้จะต้องสร้างพรรคให้มีความเข้มแข็งด้วยการกระจายอำนาจ แบ่งส่วนงาน กระจายความรับผิดชอบ และให้ความสำคัญกับ ส.ส.ทุกคน เพราะถือเป็นผู้ที่สัมผัสกับพี่น้องประชาชนโดยตรง จะรับรู้ รับทราบปัญหาของพี่น้อง
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยจะสร้างมิติใหม่ทางการเมืองเพื่อความหวังของประชาชนในอนาคต โดยวันนี้มีคนรุ่นใหม่เข้ามา เป็นการผสมเอาความคิดของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่ามารวมกัน ซึ่งเราจะทำงานประสานกัน เด็กหลายคนมีความคิดสร้างสรรค์ วันนี้เทคโนโลยีและการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก พรรคจึงต้องผนึกกำลังกันทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยยืนหยัดที่จะทำประชาธิปไตย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้เราจะมีทีงาน ซึ่งถ้าเปิดประชุมสภาขึ้นมาคงจะได้พูดกันในสภาต่อไป
เมื่อถามว่า วันนี้รัฐบาลได้มีความพยายามในการติดต่อขอฝ่ายค้านเข้าไปร่วมพูดคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจะร่วมพูดคุยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ฝ่ายค้านไม่ร่วมสังฆกรรมแน่นอน เพราะมองดูแล้วรัฐบาลยังขาดความจริงใจในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง เพราะจากวาระ 1 แทนที่จะพิจารณาเลย รัฐบาลกลับซื้อเวลา 1 เดือน เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญให้รอบคอบก่อน ส่วนที่ทางกมธ.จะเชิญไปให้คามเห็นนั้น เรื่องนี้ยังไม่เห็นหนังสือ ซึ่งต้องดูประเด็นก่อน ว่าเป็นประเด็นที่พี่น้องประชาชนต้องการหรือไม่ แล้วเราจึงจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามถึงการเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นในส่วนของพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกๆ หลังจากที่คณะกรรมการบริหารเข้าทำงานแล้วจะได้พูดึคุยกันในที่ประชุมต่อไป เพราะเราต้องมีการเตรียมการ เนื่องจากอีกไม่นานแล้ว
เมื่อถามว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเข้ามามีบทบาทในการดึงคะแนนนิยมซึ่งที่ผ่านมาอาจจะเสียไปหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่มีจุดยืนที่มั่นคงในเรื่องของประชาธิปไตยแต่แรกแล้ว จุดยืนนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง วันนี้การรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่พวกเรามองว่าเป็นประโยชน์ เราเดินเคียงคู่ทั้งบทบาทในสภาและนอกสภา และเราต้องมีการประสานงานกับอีกหลายภาคส่วนในอนาคต
เมื่อถามว่า ในฐานะเลขาธิการพรรคจะสร้างความเข้มแข็งเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้นในพรรคอย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า ในฐานะพ่อบ้านของพรรค ต้องประสานงานกับบุคลากรในพรรคทุกภาคส่วนเพื่อสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ให้พรรคเพื่อไทย ทั้งภายใน และภายนอก และอยากให้คอยดูบทบาทต่อจากนี้ของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามถึงข่าวที่จะมีการดึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม กลับมาช่วยงาน นายประเสริฐกล่าวว่า นายชัชชาติได้ปฏิเสธในเบื้องต้นก่อน คงเป็นเรื่องในอนาคต และต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน สำหรับการดึงกลุ่มบุคคลต่างๆ กลับมาร่วมงาน อาทิ กลุ่มแคร์ เขาเป็นกลุ่มนักวิชาการ มีแนวความคิด และข้อคิดเห็นกลายอย่าง อะไรที่เป็นประโยชน์พรรคเพื่อไทยก็พร้อมรับฟัง โดยอาจจะร่วมสนทนา สัมมนากันเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในอนาคตก็เป็นไปได้
เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวคุณหญิงพจมานจะกลับมาบริหารพรรค นายประเสริฐกล่าวว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่ของพรรค ที่เราให้ความเคารพนับถือ แต่ที่ผ่ามาท่านไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารกิจการของพรรคแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงการดึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เข้ามาร่วมงาน นายประเสริฐกล่าวว่า ท่านยังเป็นสมาชิก และบุคลากรคนสำคัญของพรรคอยู่ หลังจากที่คณะกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกันแล้วก็คงจะมีการพูดคุยกันว่าจะขอให้ท่านกลับมาทำงานร่วมกันอย่างไร