ผู้จัดการรายวัน360- เพื่อไทยดึง "ชัชชาติ" กลับรัง นำทัพชิงนายกฯ ขายภาพลักษณ์เรียกเรตติ้ง "หญิงอ้อ"นัดประชุมโปลิตบูโรทุกสัปดาห์ ต้อนลิ่วล้อเก่าร่วมผนึกกำลัง รียูเนี่ยนยุค "ไทยรักไทย" เรืองอำนาจ หึ่งปรับโครงสร้างใหม่ ปูทางรอ "ณัฐพงศ์" ซีอีโอ บมจ.เอสซี แอสเสทฯ ลูกเขย “ทักษิณ” ขึ้นนำพรรคในการเลือกตั้งหน้า เผยมีคลื่นใต้น้ำ ล็อบบี้สมาชิกพรรคไม่เข้าร่วมประชุมใหญ่ 1 ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ถึงความเคลื่อนไหวการปรับปลี่ยนโครงสร้างพรรค ที่จะมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งรูปแบบโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค จะมีเพียง 20-24 คน ตัดไขมันส่วนเกิน ลดโควตาสัดส่วนตำแหน่งที่ไม่จำเป็นลง เช่น ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค เดิมที่มีมากถึง 15 คน แต่ในโครงสร้างใหม่ จะคงเหลือโควตาตามภาค คือภาคเหนือ, กลาง, อีสาน, กทม. และตัวแทนมุ้งเป็นหลัก ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค จะลดจำนวนลง ไม่มีมากถึง 7 คนเหมือนอดีต โดยเพิ่มเติมกรรมการบริหารพรรคสัดส่วนคนรุ่นใหม่ แต่รูปแบบส่วนใหญ่ ยังคงเป็นนอมินีผสมกับรุ่นเก๋าตัวหลัก
โดยหัวหน้าพรรคยังคงเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ อดีตหัวหน้าพรรคคนเดิม ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเช่นเดิม ขณะที่ตำแหน่งสำคัญๆ ที่ลงตัวแล้ว มี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นเลขาธิการพรรค , น.ส.อรุณี กาสยานนท์ เป็นโฆษกพรรค , น.ส.จิราพร สินธุไพร และ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร เป็นรองโฆษกพรรค เป็นต้น
มีรายงานว่า หลังจากได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้วจะมีการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนพรรค แยกย่อยออกเป็นแต่ละด้าน อีก 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเมือง, ด้านเศรษฐกิจ, ด้านงานสภาผู้แทนราษฎร, ด้านข่าวกรอง และ ด้านการบริหารพื้นที่
ในขณะที่แกนนำตัวจริงระดับรัฐมนตรีสั่งการ จะอยู่เบื้องหลังในคณะกรรมการชุดใหญ่มีอำนาจเต็ม หรือ “โปลิตบูโร” โดยมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ประชุมวางแผนสัปดาห์ละครั้ง ล่าสุดขณะนี้ได้พยายามติดต่อ ดึงคนเก่าๆ ที่แยกตัวออกไปกลับมาเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่น เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ โดยได้ทาบทามหัวหน้าคณะบางคนที่เป็นสมาชิกพรรคไว้บ้างแล้ว นอกจากนี้หลังจากการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ คณะทำงานที่เคยมีความคิดเห็นระหองระแหงกับขั้วอำนาจเดิมอย่าง กลุ่มแคร์ กลุ่มไทยรักษาชาติ กลุ่มสายตรงจันทร์ส่องหล้า จะกลับมาช่วยงานที่พรรคทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรค และแกนนำกลุ่มแคร์, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรมว.พลังงาน และนายพงศ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน เป็นต้น ขณะที่กลุ่มที่มีความใกล้ชิดขั้วอำนาจเก่า เหลืออัตรส่วนในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เพียงไม่กี่คน
ยังมีกลุ่มอดีตพรรคไทยรักษาชาติ เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง รวมทั้งแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโดยคนที่วางแผนจะดึงตัวกลับมาอย่างแน่นอนคือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคตัวแม่ เพื่อนำมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า และอาจขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อถึงเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ก่อนหน้านี้ นายชัชชาติ จะประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ แต่ล่าสุดชัดเจนแล้วว่า จะถอนตัว เพื่อเปิดทางสะดวกให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่จะมาลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. เช่นกัน ด้วยสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นมาตั้งแต่รุ่นพ่อ คือ พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีต ผบช.น. ผ่านการดีลประสานงานจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้มากบารมีในรัฐบาล ประจวบเหมาะพอดีเข้าทางพรรคเพื่อไทย ที่จะดึงตัวกลับไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทวงคืนความยิ่งใหญ่ ขายภาพลักษณ์เรียกเรตติ้ง อย่างไรก็ตามเบื้องต้น จะยังไม่รีบร้อนเปิดหน้าโชว์ตัว เพื่อหลีกเลี่ยงความบอบช้ำจากการสาดโคลนทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณเอาจริง จากเจ้าของพรรคตัวจริง ด้วยการเตรียมให้ "ลูกเขย”นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" สามี น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ เปิดหน้าลงเล่นการเมือง เป็นแคนดิเดตนายกฯ ขายภาพคนรุ่นใหม่ อีกคนหนึ่งด้วย ปัจจุบัน นายณัฐพงศ์ นั่งตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC
มีรายงานด้วยว่า มีความพยายามจากคนในพรรคเพื่อไทยบางกลุ่ม ส่งสัญญาณไม่ให้สมาชิกมาร่วมประชุมใหญ่ ของพรรคในวันที่ 1 ต.ค.นี้ แต่สมาชิกหลายคนไม่ค่อยเห็นด้วย และยืนยันจะเดินทางมาร่วมประชุมตามเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ถึงความเคลื่อนไหวการปรับปลี่ยนโครงสร้างพรรค ที่จะมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งรูปแบบโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค จะมีเพียง 20-24 คน ตัดไขมันส่วนเกิน ลดโควตาสัดส่วนตำแหน่งที่ไม่จำเป็นลง เช่น ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค เดิมที่มีมากถึง 15 คน แต่ในโครงสร้างใหม่ จะคงเหลือโควตาตามภาค คือภาคเหนือ, กลาง, อีสาน, กทม. และตัวแทนมุ้งเป็นหลัก ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค จะลดจำนวนลง ไม่มีมากถึง 7 คนเหมือนอดีต โดยเพิ่มเติมกรรมการบริหารพรรคสัดส่วนคนรุ่นใหม่ แต่รูปแบบส่วนใหญ่ ยังคงเป็นนอมินีผสมกับรุ่นเก๋าตัวหลัก
โดยหัวหน้าพรรคยังคงเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ อดีตหัวหน้าพรรคคนเดิม ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเช่นเดิม ขณะที่ตำแหน่งสำคัญๆ ที่ลงตัวแล้ว มี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นเลขาธิการพรรค , น.ส.อรุณี กาสยานนท์ เป็นโฆษกพรรค , น.ส.จิราพร สินธุไพร และ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร เป็นรองโฆษกพรรค เป็นต้น
มีรายงานว่า หลังจากได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้วจะมีการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนพรรค แยกย่อยออกเป็นแต่ละด้าน อีก 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเมือง, ด้านเศรษฐกิจ, ด้านงานสภาผู้แทนราษฎร, ด้านข่าวกรอง และ ด้านการบริหารพื้นที่
ในขณะที่แกนนำตัวจริงระดับรัฐมนตรีสั่งการ จะอยู่เบื้องหลังในคณะกรรมการชุดใหญ่มีอำนาจเต็ม หรือ “โปลิตบูโร” โดยมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ประชุมวางแผนสัปดาห์ละครั้ง ล่าสุดขณะนี้ได้พยายามติดต่อ ดึงคนเก่าๆ ที่แยกตัวออกไปกลับมาเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่น เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ โดยได้ทาบทามหัวหน้าคณะบางคนที่เป็นสมาชิกพรรคไว้บ้างแล้ว นอกจากนี้หลังจากการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ คณะทำงานที่เคยมีความคิดเห็นระหองระแหงกับขั้วอำนาจเดิมอย่าง กลุ่มแคร์ กลุ่มไทยรักษาชาติ กลุ่มสายตรงจันทร์ส่องหล้า จะกลับมาช่วยงานที่พรรคทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรค และแกนนำกลุ่มแคร์, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรมว.พลังงาน และนายพงศ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน เป็นต้น ขณะที่กลุ่มที่มีความใกล้ชิดขั้วอำนาจเก่า เหลืออัตรส่วนในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เพียงไม่กี่คน
ยังมีกลุ่มอดีตพรรคไทยรักษาชาติ เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง รวมทั้งแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโดยคนที่วางแผนจะดึงตัวกลับมาอย่างแน่นอนคือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคตัวแม่ เพื่อนำมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า และอาจขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อถึงเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ก่อนหน้านี้ นายชัชชาติ จะประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ แต่ล่าสุดชัดเจนแล้วว่า จะถอนตัว เพื่อเปิดทางสะดวกให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่จะมาลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. เช่นกัน ด้วยสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นมาตั้งแต่รุ่นพ่อ คือ พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีต ผบช.น. ผ่านการดีลประสานงานจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้มากบารมีในรัฐบาล ประจวบเหมาะพอดีเข้าทางพรรคเพื่อไทย ที่จะดึงตัวกลับไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทวงคืนความยิ่งใหญ่ ขายภาพลักษณ์เรียกเรตติ้ง อย่างไรก็ตามเบื้องต้น จะยังไม่รีบร้อนเปิดหน้าโชว์ตัว เพื่อหลีกเลี่ยงความบอบช้ำจากการสาดโคลนทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณเอาจริง จากเจ้าของพรรคตัวจริง ด้วยการเตรียมให้ "ลูกเขย”นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" สามี น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ เปิดหน้าลงเล่นการเมือง เป็นแคนดิเดตนายกฯ ขายภาพคนรุ่นใหม่ อีกคนหนึ่งด้วย ปัจจุบัน นายณัฐพงศ์ นั่งตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC
มีรายงานด้วยว่า มีความพยายามจากคนในพรรคเพื่อไทยบางกลุ่ม ส่งสัญญาณไม่ให้สมาชิกมาร่วมประชุมใหญ่ ของพรรคในวันที่ 1 ต.ค.นี้ แต่สมาชิกหลายคนไม่ค่อยเห็นด้วย และยืนยันจะเดินทางมาร่วมประชุมตามเดิม