"โสภณ องค์การณ์"
"ผมไม่ได้ขู่ใคร แต่ประเทศชาติอยู่ด้วยกฎหมาย อยู่ด้วยหลักการและเหตุผลของกฎหมายแต่ละฉบับ ฉะนั้น ถ้าทุกคนตั้งใจจะฝ่าฝืนกฎหมาย ผมคิดว่าคนอื่นคนทั้งประเทศเขาจะยินยอมหรือไม่ เพราะจะเกิดผลกระทบต่อคนอื่นเขาด้วย…”
นี่เป็นส่วนหนึ่งของคำประกาศ เสียงดังฟังชัดของ ท่านลุงตู่ผู้นำรัฐบาล พูดเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนปลดแอกกำหนดไว้ช่วงสุดสัปดาห์นี้แหละ มีอะไรพูดอีกเยอะ แต่ยกมาเพียงท่อนนี้เพื่อให้เห็นท่าทีจุดยืน
“ประเทศชาติอยู่ด้วยกฎหมาย...” เป็นคำพูดที่ถูกต้องตามหลักการที่ควรจะเป็น ชาติใดไร้กฎหมาย หรือมีกฎหมายบังคับใช้ไม่ได้ ก็เป็นอนาธิปไตย บ้านป่าเมืองเถื่อน และกฎหมายต้องบังคับอย่างเที่ยงธรรม เสมอภาค ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
หรือมีอำนาจแฝงเร้นอย่างใดสามารถสั่งให้บิดเบือนในการบังคับใช้ทุกระดับของกระบวนการยุติธรรม อย่างที่มีเสียงร่ำลือ สภาวะฉาวโฉ่ น่าเคลือบแคลงสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รักษากฎหมายและอยู่ในกระบวนการยุติธรรมทุกระดับชั้น
คำประกาศของลุงตู่ผู้นำนั้น ในสภาวะปัจจุบัน และตั้งแต่เริ่มยุคคณะ 3 ลุงนั้น เป็นช่วงที่กระบวนการยุติธรรมน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ และมีความเสมอภาคหรือไม่
ทำไมจึงมีแต่คำพูดถากถากอยู่เสมอว่า “คุกมีไว้ขังคนจน คนไร้เส้นสาย ส่วนคนมีอำนาจและคนรวยไม่ติดคุก...?” จะให้ยกตัวอย่างทั้งหมดคงเยอะมาก เอาเพียงแค่ล่าสุด เช่นไม่อุทธรณ์คดีทายาทเศรษฐีเรื่องเช็ค คดีบ่อนมีคนยิงกันตาย 4 ราย
และคดีสะท้านโลก สื่อนอกจับตามอง คือคดีทายาทเศรษฐีขับรถชนคนตายแล้วหนี ปัจจุบัน ความเงียบเชียบ ทำให้สังคมเชื่อว่าเป็นคดีที่ถูกส่งไปเข้าขบวนการย่อยสลายเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่ลุงตู่ผู้นำทำท่าเอาจริง “ผมไม่ โอเค” ช่วงแรก
ออกท่าทางขึงขัง ตามกระแส เอาใจชาวบ้านแค่นั้นแหละ! และมองไม่ผิดด้วย
มาถึงตอนนี้ ประชาชนต้องเป็นฝ่ายประกาศว่า “พวกเราไม่โอเค กับคดีบ่อน คดีลูกมหาเศรษฐีทั้ง 2 ราย ที่เป็นความอัปยศ ทำให้ประเทศไทยดูเป็นรัฐล้มเหลว”
คดีพวกนี้ เหตุอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งของต้นเหตุแห่งความไม่พอใจ และวิกฤตสารพัดที่รัฐบาลยังแก้ไม่สำเร็จ และมีปัญหาที่ยังไม่มีท่าทีวี่แววว่าจะแก้ไขได้
และส่วนหนึ่งของวิกฤตก็ถูกก่อและบ่มเพาะโดยคณะ 3 ลุงนี้ โดยเฉพาะเชื้อทุจริต คอร์รัปชั่น เป็นเชื้อชั่วไม่เคยตาย มีมาก่อนรัฐบาล 3 ลุง และไม่มีใครจัดการอย่างจริงจัง เสียงร่ำลือเรื่องการรีดไถหนักในช่วงปลอดนักการเมือง ไร้การตรวจสอบ
ความไม่พอใจในการบริหารงานของคณะ 3 ลุงทำให้เกิดม็อบสารพัด ความทุกข์ยากลำบากกระจายทั่วประเทศ แต่มีกฎหมายห้ามการชุมนุมกดหัวประชาชนไว้ เพื่อการอยู่ยาวของคณะ 3 ลุง ยิ่งมีการระบาดของโคโรนาไวรัส ซ้ำเติมเศรษฐกิจอีก
แต่นั่นเป็นโอกาสทองของคณะ 3 ลุงที่ได้หวนคืนสู่อำนาจเด็ดขาดภายไต้สภาวะฉุกเฉิน หลังจากทนกับสภาพไร้อำนาจเข้มนานหลายเดือน ทำให้ฐานที่ปักหลักหวังอยู่ยาวเริ่มส่อแววง่อนแง่น เพราะความไม่พอใจกับความล้มเหลว
การบังคับใช้กฎหมายจึงถูกกล่าวหาว่า “2 มาตรฐาน” หรือ “ไร้มาตรฐาน” เริ่มตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ซึ่งออกกฎหมายลูกพิกลพิการ ใช้กับพวกรัฐบาลอย่างหนึ่ง ใช้กับพวกไม่เอารัฐบาลอีกอย่างหนึ่ง ประชาชนจึงไม่พอใจกับหลายปัญหาสะสมหมักไว้
กรณีทายาทเศรษฐีขับรถชนคนตายแล้วหนี ยังกล้าถูกนำเข้าสู่ขบวนการย่อยสลาย ทำกันอย่างโจ่งแจ้งซึ่งหน้า ไม่อายใคร แต่ขู่คำรามให้คนอื่นเคารพกฎหมาย
จึงเกิดวิกฤตศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์เป็นความอัปลักษณ์ เกียรติยศที่ควรจะมีกลายเป็นความอัปยศ ประชาชนต้องขายหน้าประชาคมโลก
ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย เคยมียุคใดที่เด็กนักเรียนระดับมัธยมต้นทนไม่ได้กับพฤติกรรมและสภาพของบ้านเมืองภายไต้คณะ 3 ลุง จนต้องออกมาร่วมกันชุมนุมในแทบทุกจังหวัด กลายเป็นหัวหอกนำหน้าประชาชนคนต้องทนทุกข์สารพัด
จริงอยู่มีบางส่วนเข้ามาด้วยเจตนาแฝงเร้นร้ายแรง แต่ไม่ได้หมายถึงเด็กนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั้งหมด ที่เห็นด้วย เพียงแต่มีมุมมองความคิดตรงกันว่าคณะกุมอำนาจปัจจุบันให้สร้างความเสื่อมโทรมต่อโครงสร้างของประเทศทุกด้าน
ทำไมต้องเดือดร้อนถึงเด็ก ซึ่งโดยสภาพแล้วยังอยู่ในวัยต้องศึกษาหาความรู้?
นั่นเป็นเพราะผู้ใหญ่ได้เดินขบวนประท้วงขับไล่คนชั่วร้ายกุมอำนาจบ้านเมืองหลายรอบแล้ว แต่ทุกครั้งจะมีพวกชุบมือเปิบสวมรอยเข้ามากุมอำนาจ อ้างนั่นนี่โน่นว่าจะจัดการปัญหาต่างๆ สุดท้ายกลายเป็นพวกมหาวายร้าย ชั่วร้ายยิ่งกว่ารุ่นก่อนๆ
มีพฤติกรรมชั่วร้ายทั้งการใช้อำนาจ ทั้งโกงบ้านกินเมือง สร้างเครือข่ายฐานอำนาจหวังอยู่ยาว ข่มเหงรังแกฝ่ายท้าทายอำนาจ สร้างเงื่อนไขจำบังต่างๆ
ประเทศไทยผ่านวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ สังคมมาหลายยุค เป็นหนี้สินแทบสิ้นสภาพ ไม่เคยมีใครรับผิดชอบ แต่ยังไม่มียุคใดที่จะต้องเสี่ยงกับวิกฤตถึงขั้นหายนะ เพราะรากฐานผุกร่อน หนี้สินพอกพูนทั้งครัวเรือน องค์กรและรัฐบาล
ฉายา “นักกู้รอบทิศอมตะนิรันดรกาล” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือบังเอิญ!
การละเมิดกฎหมาย รัฐบาลเล่นงานได้ แต่ถ้ารัฐบาลเพิกเฉยต่อการบังคับใช้กฎหมาย หรือทำให้กระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือ ประชาชนก็ควรมีสิทธิเล่นงานผู้กุมอำนาจรัฐก็ได้ไม่ใช่หรือ ในฐานะผู้ปกป้องชาติจากกลุ่มคนชั่วร้าย?
บอกมาได้เลยว่าจะจัดการปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่นได้อย่างไร และจะมีใครต้องรับโทษในคดีคนตายในบ่อนกลางเมือง และคดีทายาทเศรษฐีขับรถชนคนตายแล้วหนีหรือไม่ ถ้าเป็นปาหี่กลางเมือง ประชาชนไม่โอเคแน่ แม้จะทำอะไรไม่ได้ช่วงนี้
ถ้ารัฐบาลมีผลงานดี ทำงานด้วยใจซื่อมือสะอาด เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ไม่มีตัวโกงและเครือข่ายเป็น deep state บงการอำนาจ คงไม่มีใครไปขับไล่แน่!
