xs
xsm
sm
md
lg

มนุษย์คุณภาพ“ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ”! (ตอนสิบหก) “พ่อ - ลูก” มองต่างมุม..“เสียบเพื่อชาติ”!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สอดแนมการเมือง
ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย



“คนที่ปฏิเสธเสรีภาพของคนอื่น ย่อมไม่คู่ควรกับการมีเสรีภาพของตนเอง”

นั่นเป็นหลักการของ “อับราฮัม ลินคอล์น” บุรุษจากครอบครัวยากจนในรัฐเคนทักกี ที่ต้องขวนขวายศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง จนได้เป็นทนายความในรัฐอิลินอยส์ และได้รับเลือกเป็น “สมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐอิลินอยส์” ต่อมาในปี ค.ศ.1846 ได้รับเลือกให้เป็น “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา” อยู่หนึ่งสมัย ก่อนกลับไปประกอบอาชีพนักกฎหมาย

“ลินคอล์น” กลับสู่การเมืองอีกครั้งในปี ค.ศ.1854 ด้วยการเป็นผู้นำก่อตั้งพรรค “รีพับลิกัน” ซึ่งในปี ค.ศ.1858 “ลินคอล์น”ได้ขึ้นโต้วาทีกับ “สตีเฟน เอ. ดักลัส”แห่งพรรค “เดโมแครต” โดย “ลินคอล์น”ได้แสดงจุดยืนคัดค้านการขยายตัวของ “สถาบันทาส” แต่ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งนั้น “ลินคอร์น” พ่ายแก่“ดักลัส” ที่ใช้นโยบายไม่แทรกแซงการมี “สถาบันทาส”

ในปี ค.ศ.1860 “ลินคอล์น” ได้ลงสมัครในนามพรรครีพับลิกัน เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้ “ลินคอล์น” จะไม่ได้รับคะแนนเสียงจากรัฐทางตอนใต้เลย แต่ “ลินคอล์น” ก็กวาดเสียงจากทางเหนือได้อย่างท่วมท้น จนได้รับเลือกตั้งให้เป็น “ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 16”

ด้วยความมุ่งมั่นต่อการ “เลิกทาส” ของ “ลินคอล์น” ได้สร้างความแตกแยกทาง “ความคิด” ในหมู่ “อเมริกันชน” ให้บานปลายกลายเป็น “สงครามกลางเมือง” ทำให้ “อเมริกัน-ฆ่า-อเมริกัน” ด้วยกันเอง ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ 12 เมษายน ค.ศ.1861 ก่อนจะ “ประกาศเลิกทาส” ในปี ค.ศ.1863

สงคราม “มะกัน-ฆ่า-มะกัน” ครานั้น ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1861-1865 มีผู้บาดเจ็บล้มตายไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านคน เฉพาะทหารทั้งสองฝ่าย เสียชีวิตมากกว่า 6-7 แสนคน!

“ลินคอล์น”มีทั้ง“ฝันไกลไปถึง”ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะผลงานอันยิ่งใหญ่เรื่อง“เลิกทาส”นั้น-สุดยอด!

ส่วน“ฝัน”อีกมากมายของ“ลินคอล์น” ต้องมาสะดุดหยุดกึกลงอย่างกะทันหัน เพราะเขาถูก“คนร้าย”ยิงเสียชีวิตในโรงละคร เมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี ค.ศ.1865

“เสรีภาพ” ที่แลกด้วย “ชีวิตมนุษย์เห็นต่าง” จำนวนมากมาย ย่อมมิใช่เสรีภาพ “ทำตามใจฉันได้ทุกเรื่อง” หรือเป็น “เสรีภาพไร้ขอบเขต” จนอยู่เหนือกฎหมาย อีกทั้งไปล่วงละเมิดต่อวัฒนธรรม ศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ฯลฯ อันดีงามของผู้คนในสังคม รวมทั้งต้องมิใช่เสรีภาพส่งเดช ที่ไประรานรังแกทำร้ายทำลายผู้คนนะเว้ยเฮ้ย..!

ที่สำคัญ..ถ้าจะเป็น “นักประชาธิปไตยที่แท้จริง” ก็ต้องใช้ “ความคิดแตกต่าง” อย่างสร้างสรรค์ ต้องเคารพให้เกียรติกันและกัน ต้องมุ่งไปสู่เป้าหมาย เหมือนอย่างที่ “จอห์น แครี่” รมว.ก.ต่างประเทศมะกัน ได้กล่าวเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ว่า

“ประชาธิปไตย ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว คุณอาจมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่อาจไม่มีการปฏิรูปอย่างเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์”

อืม..จริงว่ะ..เฉกเช่นชาติไทยที่ไม่ปฏิรูปการเมือง แต่กลับปล่อยให้มีการเลือกตั้งสกปรก จึงได้แต่ “รัฐบาลเลือกตั้ง” โสมม ซึ่งใช้อำนาจรัฐทำเพื่อตนเองกับพวกพ้อง ด้วยการคอร์รัปชั่นโกงชาติชนิดมิรู้จักพอ ทำให้ “คณะทหาร” ฉวยโอกาสใช้เป็นข้ออ้าง ทำรัฐประหารตั้งรัฐบาลเผด็จการทหารอยู่บ่อยๆ

เรียกว่า..รัฐบาลเลือกตั้งกับรัฐประหาร ได้สลับกันบริหารชาติแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง” มายาวนาน80 กว่าปีแล้ว แต่ก็ทำให้ชาติไทยได้แค่ “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ของเผด็จการทหารกับทุนสามานย์เท่านั้น

เรื่อง “เสียบเพื่อชาติ” เกิดหลังเหตุการณ์ “สปก.4-01” ที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ทำผิดพลาดเข้าจังเบอร์ จนรัฐบาล “ชวน หลีกภัย” คะแนนนิยมตกต่ำดิ่งเหว แถมเกิดความขัดแย้งกระทั่งพรรค “ความหวังใหม่” ต้องตีจาก “รัฐบาลชวน” จนเกิดกระแสข่าวอุตลุดว่า สองพรรคฝ่ายค้าน “ชาติไทย” กับ “ชาติพัฒนา” แข่งกัน “เสียบ” เข้าร่วมกับ “รัฐบาลชวน”

เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวด้าน “ชาติไทย” โดย “บรรหาร ศิลปอาชา” เป็นเช่นไรไม่อาจรู้ได้ แต่ “น้าชาติ” ในฐานะหน.พรรคชาติพัฒนา ถูกบรรดา ส.ส.ของพรรคกดดันให้เข้าร่วมกับ “รัฐบาลชวน”

ห้วงนั้นบรรดา“ส.ส.”ทั้งสองพรรคฝ่ายค้าน ล้วนแอบต่อสายเป็นพัลวันกับ “ส.ส.” พรรคปชป. ที่เป็นแกนนำ “รัฐบาลชวน” จนมีข่าวปล่อยข่าวจริงข่าวเท็จ แพร่ออกมาอย่างไม่ขาดสายว่า “ฝ่ายค้านพรรคนั้นพรรคนี้ติดต่อเข้าร่วมรัฐบาลชวนแล้ว”

งานนี้..ต้องยอมรับความจริงว่า เรื่องแย่งชิงเข้าร่วม “รัฐบาลชวน” นี้ มิใช่ข่าวโคมลอยไปลอยมาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอดีต ส.ส.รุ่นเดอะระดับแกนนำคนหนึ่ง ซึ่งเรียนกฎหมายที่ ม.ธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกับ “นายกฯ ชวน” และใกล้ชิดกับ“บรรหาร” ได้แอบไปพบกับแกนนำ ปชป.อยู่ตลอดเวลา

เรื่องเสียบเพื่อชาติ “จารย์โต้ง” ไม่เห็นด้วย โดยโทรบอกผมให้มานั่งถกเรื่องนี้กับ “น้าชาติ” ด้วย “จารย์โต้ง” กับผมและทีมงานของ “น้าชาติ” ได้วิเคราะห์สภาพ “รัฐบาลชวน” ว่าคงอยู่ได้ไม่นาน เพราะเหตุฉ้อฉล “สปก.4-01” ได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนอย่างรุนแรงกว้างขวาง..

ดังนั้น “จารย์โต้ง” กับพวกเรา จึงเสนอให้ “น้าชาติ” สยบข่าวแย่งกัน “เสียบ” เข้าร่วมรัฐบาลทันที โดย “น้าชาติ” ได้เชิญแกนนำของพรรคฝ่ายค้าน ทั้ง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” กับ “มนตรี พงษ์พานิช” และแกนนำ “บิ๊กเบิ้ม” ในพรรคชาติไทยอย่าง “บรรหาร ศิลปอาชา” รวมทั้ง “เสนาะ เทียนทอง-วัฒนา อัศวเหม” มาประชุมเพื่อ “ลงสัตยาบัน” ว่าฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมกับ “รัฐบาลชวน” เด็ดขาด

การพูดคุยแลกเปลี่ยนผ่านไปไม่นาน แกนนำพรรคชาติไทยบางคนอ้างว่า เรื่อง “การลงสัตยาบัน” ต้องประชุมกับ คกก.ของพรรคชาติไทยก่อน แต่ทาง “ร.ต.อ.เฉลิม-จารย์โต้ง-ผม” ได้เสนอความเห็นตรงๆว่ า


“..โอ๊ย..หัวหน้าและผู้ใหญ่ที่มีอำนาจจริงๆ ของพรรคชาติไทย นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว..จะรอทำไมล่ะ”

สุดท้าย..เรื่องก็ยุติลงด้วยดี โดย “น้าชาติ-บรรหาร” กับ “ขาใหญ่” ของพรรคฝ่ายค้าน ที่ประชุมอยู่ที่บ้านราชครูทุกคน ก็ยอม “ลงนาม” ใน “สัตยาบัน” จะไม่เสียบเพื่อชาติแน่นอน

ทว่า..เรื่อง “เสียบเพื่อชาติ” ก็มิได้ยุติลง เพราะทาง “แกนนำปชป.”กั บแกนนำฝ่ายค้าน ทั้งชาติไทยกับชาติพัฒนายังคงแอบเจอกันตลอด จน “จารย์โต้ง” กับ “ผม” ต้องติดต่อกับแกนนำพรรคชาติไทยคนหนึ่งที่เราสนิทสนม เราวิเคราะห์สภาพการเมืองให้แกนนำคนนั้นฟังว่า

“..ฝากไปบอก “พี่บรรหาร” กับพี่ส.ส.อีกคน ที่สนิทกับ “นายกฯ ชวน” ให้หยุดเคลื่อนไหว เพื่อจะเข้าร่วมกับรัฐบาลด้วยนะ เพราะแกนนำ ปชป.ส่งข่าวมาบอกเราตลอด ให้เรารู้ว่าทางชาติไทยจะเสียบแล้ว ตอนนี้กำลังคุยกันเรื่องตำแหน่งรมต.แล้วด้วย”

“..ถ้าจะเสียบรัฐบาล..ชาติพัฒนาเสียบได้เร็วกว่าชาติไทยแน่นอน เพราะภาพพจน์ชาติพัฒนาดีกว่าชาติไทยนะ แกนนำ ปชป.ก็อยากได้ชาติพัฒนา ให้เข้าร่วมรัฐบาลชวนมากกว่าชาติไทยนะ..”

นั่นเป็นคำพูดที่บ่งบอกให้รู้ล่วงหน้าว่า “สัตยาบันฝ่ายค้าน” มีแนวโน้มจะโดนฉีกแล้วว้อย!

เช้าวันหนึ่ง “พ่อ-ลูก” - “น้าชาติ” กับ “จารย์โต้ง” ถกเถียงกันจนถึงขั้น “จารย์โต้ง” ทุบโต๊ะ ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมบ้านราชครูไปอย่างไม่พอใจ ในห้องจึงเหลือ “น้าชาติ” กับ “ผม” นั่งคุยกันต่อ

“ชัช..อั๊วทำตามโต้งไม่ได้นะ พวก ส.ส.ในพรรคกดดันให้ต้องเสียบรัฐบาล เพราะทางฝ่าย “เติ้ง” กำลังจะเสียบกันแล้วนะ..ไอ้โต้งไม่อยู่ในสภาพแบบอั๊วนี่หว่า..”
“..แต่ถ้าพ่อเสียบ..พ่อจะโดนคนด่าเละเลยนะ..พี่โต้งกลัวพ่อจะเสียชื่อลามถึงลูกหลานราชครู..ที่ต้องเดินทางการเมืองต่อในอนาคตนะ..”

ผมย้ำถึงเหตุผลที่ “จารย์โต้ง” ไม่เห็นด้วย กับเรื่องพรรค “น้าชาติ” จะ “เสียบเพื่อชาติ” ซึ่งมี “ผม” นั่งฟังอยู่ด้วยตลอด..แล้ว “น้าชาติ” ก็พูดขึ้นว่า..

“ชัช..การเมืองไม่มีอะไรได้ร้อยเสียร้อยนะ..ปชป.โทรมาบอกอั๊วว่า “เติ้ง” มันเสียบแน่ๆ อั๊วต้องเสียบและพร้อมจะโดนด่าคนเดียวนะ..เพื่อให้พรรคเราเดินหน้าต่อไปได้ไงล่ะ..”

ด้วยความกลัว “ชาติไทย” จะ “เสียบก่อน” ทำให้ “น้าชาติ” ตัดสินใจ “เสียบเพื่อชาติ”ทั นที!

แต่ “เสียบและถูกด่าเพื่อชาติ” ของ “น้าชาติ” ครั้งนั้น ทำได้แค่ช่วย “รัฐบาลชวน” อยู่ได้อีกเฮือกหนึ่ง ก่อนจะหนีอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน ด้วยการ “ยุบสภา”..!

..โปรดติดตามตอนต่อไปในสัปดาห์หน้า..


กำลังโหลดความคิดเห็น