ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กตู่" รับ 5 ข้อเสนอ กรรมการชุด อ.วิชา ส่งไม้ต่อให้ ป.ป.ท. ดำเนินการ คดี "บอส อยู่วิทยา" ก่อนเผยความในใจเป็นเรื่องน่าเศร้า สั่งเร่งดำเนินคดีที่ยังไม่หมดอายุ ภายใน 30 วัน "วิชา" แถลงสรุปคดีบอส เปิดอักษรย่อคนมีเอี่ยวอื้อ ฉะหลายฝ่ายสมคบคิด ชี้ชัดรอง อสส.ทำผิด-รอง ผบ.ตร.บกพร่อง เสนอฟันคน 8 กลุ่ม
วานนี้ (1ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงเรื่องผลสอบกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ในคดีต่างๆ ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการสอบว่า คณะกรรมการฯ ชุดของนายวิชา ได้ลงมติเห็นว่า เรื่องนี้ได้ใช้เวลานานถึง 8 ปี เกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก ทั้งตำรวจ อัยการ ทนายความ ฝ่ายการเมือง ดูแล้วสลับซับซ้อนพิกลอยู่ ซึ่งสังคมไม่ไว้วางใจตรงนี้ คณะกรรมการตรวจสอบใช้คำว่า อาจจะมีการทำเป็นกระบวนการ
บิ๊กตู่ชี้เป็นเรื่องน่าเศร้ามาก
หลังจากแถลงข่าว นายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความทางไลน์ ถึงกลุ่มสื่อทำเนียบฯ และโพสต์ลงในเฟซบุ๊กด้วย หลังจากที่ได้รับรายงานจากทางคณะกรรมการ ใจความส่วนหนึ่งระบุว่า ว่า ได้อ่านเอกสารทุกหน้า และรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าเศร้ามากสำหรับประเทศไทย ผมขอเริ่มด้วยการพูดถึงสิ่งที่ผมไม่สามารถทำได้ก่อน
ผมไม่ใช่คนที่จะตัดสินได้ว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา มีความผิดหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่ศาล และผู้พิพากษาจะเป็นผู้ตัดสิน ตามหลักกฏหมาย และหลักฐานต่างๆ แต่สิ่งที่ผมสามารถทำได้ และผมจะทำ คือ คดีนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการเร่งด่วน และให้ตำรวจดำเนินคดีต่อ“บอส”ในคดีที่ยังไม่หมดอายุความ ภายใน 30 วัน เราต้องไม่ปล่อยให้คนหลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม
“ ผมขอบอกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีเหล่านี้ว่า ขอให้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง และใช้จริยธรรมและศีลธรรมนำทาง “
อีกเรื่องหนึ่งคือ ผมเห็นชัดเจนว่าอาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส หรือใช้จริยธรรมและศีลธรรมนำทางเท่าใดนัก เพราะฉะนั้นผมจะสั่งการให้เริ่มสอบสวนเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่อาจจะเกี่ยวข้องทำให้เกิดความไม่ถูกต้องในกระบวนการทางกฏหมาย เรื่องนี้ มี 2 ผู้เสียหาย ผู้เสียหายคนแรก คือ ตำรวจดีๆท่านหนึ่ง ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในช่วงเช้ามืดของวันนั้น ส่วนอีกหนึ่งผู้เสียหาย ก็คือประเทศไทยของเราทั้งหมด
เสนอแนะ 5 ข้อดำเนินการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการของนายวิชัย ยังมีข้อเสนอแนะ 5 ข้อ ด้วย คือ 1. ยกคดีขึ้นเพื่อดำเนินการใหม่ โดยเฉพาะคดีที่ยังไม่ขาดอายุความ ทำได้อย่างแน่นอนมี 2-3 คดี ที่มีอยู่ 2. ดำเนินคดีและดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย 3. ในบางเรื่องมีความชัดเจนว่ามีความผิดหรือไม่แต่ต้องตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในเชิงจริยธรรม
4. ซักซ้อมเกี่ยวกับความเข้าใจการมอบอำนาจของผู้บังคับบัญชาว่า จะทำอย่างไรเมื่อรับมอบไปแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร 5. ทางคณะกรรมการฯ ขอทำงานต่ออีก 30 วัน เพื่อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเชิงปฏิรูปให้เกิดความชัดเจน
"หลายท่านได้ให้เกียรติร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ชุดนี้โดยไม่ได้หวังผลอะไรตอบแทน เพราะทุกคนต้องการที่จะทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นในเรื่องของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นหลักของประเทศชาติ ถ้าเราอยู่กันแบบไร้กฎหมายมันไม่ได้ บ้านเมืองก็จะกลายเป็นอนาธิปไตยทันที ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้วถ้าไม่มีกฎหมายเหล่านี้มันอยู่ไม่ได้ " พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
"วิชา" ฉะหลายฝ่ายสมคบคิด
นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไมฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน แถลงสรุปผลการค้นหาความจริง ว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอาย สำหรับบุคคลและองค์กรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ขอเรียนว่า ยังเป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
ในสรุปรายงานที่ให้กับสื่อมวลชน จะมีอักษรย่อครบเหมือนที่บอกไว้ ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง โดยเราเห็นพฤติกรรมที่เริ่มตั้งแต่ทำสำนวนบกพร่อง เพราะการที่ตั้งข้อหาสำหรับคนตาย โดยเฉพาะ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ที่ถูก นายวรยุทธ ขับรถชนจนเสียชีวิต ถือว่าไม่เป็นธรรม และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญสอนกันมาตั้งแต่อดีตว่า หากตำรวจตั้งรูปคดีแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้จริงจังหรือจริงใจในการทำสำนวน
กระบวนการเหล่านี้ ทำให้เราเห็นภาพว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ทำงานอย่างมืออาชีพ และคดีนี้มีการร้องขอความเป็นธรรม14 ครั้ง โดยไม่ประสบความสำเร็จ13 ครั้ง ส่วนการร้องขอความเป็นธรรมครั้งที่ 14 มีการยื่นพยานหลักฐานที่ก่อนหน้านี้ได้มีการปฏิเสธไปแล้ว และยังพบว่าในการร้องขอความเป็นธรรมครั้งที่ 8 วันที่ 16 มิ.ย.58 เป็นครั้งที่เราถือได้ว่าเป็นการร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันจนผิดปกติที่สุด ในกระบวนการทำสำนวนในลักษณะของการสมยอมในการสอบสวน และเรายังพบว่าวันที่ ก็ผิด ไม่ได้เป็นวันที่จริง เพราะวันที่มีการสอบปากคำจริงคือ วันที่ 29 ก.พ.59
“เรามีหลักฐานยืนยันชัดเจนทางนิติวิทยาศาสตร์ และเป็นหลักฐานที่ทำให้เราเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัย ซึ่งทั้ง พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานในคดี และนายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทำให้กลับความเห็นเรื่องความเร็ว ซึ่งพ.ต.อ.ธนสิทธิ ยืนยันว่ามีการกระทำในลักษณะที่ถูกกดดัน ด้วยเข้าอยู่ในกระบวนการคุ้มครองพยานในทันที และจากการสอบสวนของคณะกรรมการพบว่า มีผู้กระทำผิดประมาณ10 คนขึ้นไป”
" ในทางกระบวนการเราเห็นว่า ให้มีการสอบสวนใหม่ ไม่ใช่ว่าสอบสวนพยานหลักฐานใหม่ เราจึงได้เสนอด้วยว่าหลังจากนี้จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องอายุความ ที่เราเสนอว่าต้องแก้โดยเร่งด่วนให้อายุความ หยุดลงเมื่อผู้ต้องหาหลบหนี แบบเดียวกับคดีทุจริตที่อายุความหยุดลงตราบใดที่ยังหลบหนีอยู่"
นายวิชา กล่าวว่า มีเรื่องที่ต้องดำเนินการสำหรับบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งสูง และเป็นผู้นำองค์กร แต่ว่าเราสามารถดำเนินการได้ในแง่ของจริยธรรม โดยป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ประมาณ10 คนขึ้นไป ซึ่งมีทั้งหมด 8 กลุ่ม ดังนี้ 1. พนักงานสอบสวนซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนวน 2. พนักงานอัยการซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3. ผู้บังคับบัญชาซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ 4. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ 5.ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ 6. ทนายความ ซึ่งกระทำผิดกฎหมาย 7. พยานซึ่งให้การเป็นเท็จ และ 8. ตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุนในการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว
เมื่อถามถึงการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญ จากการสวบสวนมีความเชื่อมโยงกับนายวรยุทธ หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า จากที่เราได้มา มีความเชื่อมโยงพอสมควร ทางตำรวจภาค 5 กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ว่า ทำไมถึงมีการทำลายมือถือของนายจารุชาติ เพราะไม่น่าจะต้องทำลายถึงขนาดนั้น
เมื่อถามว่า จะมีการปฏิรูปเรื่องการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นข้อเสนอของคณะกรรมการที่จะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ประสานงาน
เมื่อถามอีกว่า จากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงของทนายความ กับครอบครัวนายวรยุทธ อย่างไรหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ก็ต้องมีการให้สภาทนายความไปสอบต่อเพื่อให้เห็นภาพเชื่อมโยง
อย่างไรก็ตาม นายวิชา ยังได้แจกเอกสารรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ได้ส่งให้นายกฯ จำนวน 7 หน้า โดยในเอกสารมีการระบุตัวย่อ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด คือ พันตำรวจโท ธ. , รองศาสตราจารย์ ส. , พันตำรวจโท ว. ,พลอากาศโท จ. , นาย จ. , นาย น. อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด และ นาย ช. เป็นต้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายวิชา มหาคุณ เสนอแนวทางปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้อายุความทุกคดีหยุดลงเมื่อผู้ต้องหาหลบหนี และให้นับต่อเมื่อได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ว่า ตอนนี้เรากำลังพูดถึงคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 แต่ข้อเสนอของ นายวิชา ให้ครอบคลุมทุกคดี ตอนนี้คดีที่แก้ไปแล้วคือ คดีทุจริต ส่วนคดีอื่นๆต้องไปรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม
วานนี้ (1ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงเรื่องผลสอบกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ในคดีต่างๆ ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการสอบว่า คณะกรรมการฯ ชุดของนายวิชา ได้ลงมติเห็นว่า เรื่องนี้ได้ใช้เวลานานถึง 8 ปี เกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก ทั้งตำรวจ อัยการ ทนายความ ฝ่ายการเมือง ดูแล้วสลับซับซ้อนพิกลอยู่ ซึ่งสังคมไม่ไว้วางใจตรงนี้ คณะกรรมการตรวจสอบใช้คำว่า อาจจะมีการทำเป็นกระบวนการ
บิ๊กตู่ชี้เป็นเรื่องน่าเศร้ามาก
หลังจากแถลงข่าว นายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความทางไลน์ ถึงกลุ่มสื่อทำเนียบฯ และโพสต์ลงในเฟซบุ๊กด้วย หลังจากที่ได้รับรายงานจากทางคณะกรรมการ ใจความส่วนหนึ่งระบุว่า ว่า ได้อ่านเอกสารทุกหน้า และรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าเศร้ามากสำหรับประเทศไทย ผมขอเริ่มด้วยการพูดถึงสิ่งที่ผมไม่สามารถทำได้ก่อน
ผมไม่ใช่คนที่จะตัดสินได้ว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา มีความผิดหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่ศาล และผู้พิพากษาจะเป็นผู้ตัดสิน ตามหลักกฏหมาย และหลักฐานต่างๆ แต่สิ่งที่ผมสามารถทำได้ และผมจะทำ คือ คดีนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการเร่งด่วน และให้ตำรวจดำเนินคดีต่อ“บอส”ในคดีที่ยังไม่หมดอายุความ ภายใน 30 วัน เราต้องไม่ปล่อยให้คนหลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม
“ ผมขอบอกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีเหล่านี้ว่า ขอให้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง และใช้จริยธรรมและศีลธรรมนำทาง “
อีกเรื่องหนึ่งคือ ผมเห็นชัดเจนว่าอาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส หรือใช้จริยธรรมและศีลธรรมนำทางเท่าใดนัก เพราะฉะนั้นผมจะสั่งการให้เริ่มสอบสวนเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่อาจจะเกี่ยวข้องทำให้เกิดความไม่ถูกต้องในกระบวนการทางกฏหมาย เรื่องนี้ มี 2 ผู้เสียหาย ผู้เสียหายคนแรก คือ ตำรวจดีๆท่านหนึ่ง ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในช่วงเช้ามืดของวันนั้น ส่วนอีกหนึ่งผู้เสียหาย ก็คือประเทศไทยของเราทั้งหมด
เสนอแนะ 5 ข้อดำเนินการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการของนายวิชัย ยังมีข้อเสนอแนะ 5 ข้อ ด้วย คือ 1. ยกคดีขึ้นเพื่อดำเนินการใหม่ โดยเฉพาะคดีที่ยังไม่ขาดอายุความ ทำได้อย่างแน่นอนมี 2-3 คดี ที่มีอยู่ 2. ดำเนินคดีและดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย 3. ในบางเรื่องมีความชัดเจนว่ามีความผิดหรือไม่แต่ต้องตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในเชิงจริยธรรม
4. ซักซ้อมเกี่ยวกับความเข้าใจการมอบอำนาจของผู้บังคับบัญชาว่า จะทำอย่างไรเมื่อรับมอบไปแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร 5. ทางคณะกรรมการฯ ขอทำงานต่ออีก 30 วัน เพื่อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเชิงปฏิรูปให้เกิดความชัดเจน
"หลายท่านได้ให้เกียรติร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ชุดนี้โดยไม่ได้หวังผลอะไรตอบแทน เพราะทุกคนต้องการที่จะทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นในเรื่องของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นหลักของประเทศชาติ ถ้าเราอยู่กันแบบไร้กฎหมายมันไม่ได้ บ้านเมืองก็จะกลายเป็นอนาธิปไตยทันที ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้วถ้าไม่มีกฎหมายเหล่านี้มันอยู่ไม่ได้ " พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
"วิชา" ฉะหลายฝ่ายสมคบคิด
นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไมฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน แถลงสรุปผลการค้นหาความจริง ว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอาย สำหรับบุคคลและองค์กรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ขอเรียนว่า ยังเป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
ในสรุปรายงานที่ให้กับสื่อมวลชน จะมีอักษรย่อครบเหมือนที่บอกไว้ ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง โดยเราเห็นพฤติกรรมที่เริ่มตั้งแต่ทำสำนวนบกพร่อง เพราะการที่ตั้งข้อหาสำหรับคนตาย โดยเฉพาะ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ที่ถูก นายวรยุทธ ขับรถชนจนเสียชีวิต ถือว่าไม่เป็นธรรม และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญสอนกันมาตั้งแต่อดีตว่า หากตำรวจตั้งรูปคดีแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้จริงจังหรือจริงใจในการทำสำนวน
กระบวนการเหล่านี้ ทำให้เราเห็นภาพว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ทำงานอย่างมืออาชีพ และคดีนี้มีการร้องขอความเป็นธรรม14 ครั้ง โดยไม่ประสบความสำเร็จ13 ครั้ง ส่วนการร้องขอความเป็นธรรมครั้งที่ 14 มีการยื่นพยานหลักฐานที่ก่อนหน้านี้ได้มีการปฏิเสธไปแล้ว และยังพบว่าในการร้องขอความเป็นธรรมครั้งที่ 8 วันที่ 16 มิ.ย.58 เป็นครั้งที่เราถือได้ว่าเป็นการร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันจนผิดปกติที่สุด ในกระบวนการทำสำนวนในลักษณะของการสมยอมในการสอบสวน และเรายังพบว่าวันที่ ก็ผิด ไม่ได้เป็นวันที่จริง เพราะวันที่มีการสอบปากคำจริงคือ วันที่ 29 ก.พ.59
“เรามีหลักฐานยืนยันชัดเจนทางนิติวิทยาศาสตร์ และเป็นหลักฐานที่ทำให้เราเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัย ซึ่งทั้ง พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานในคดี และนายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทำให้กลับความเห็นเรื่องความเร็ว ซึ่งพ.ต.อ.ธนสิทธิ ยืนยันว่ามีการกระทำในลักษณะที่ถูกกดดัน ด้วยเข้าอยู่ในกระบวนการคุ้มครองพยานในทันที และจากการสอบสวนของคณะกรรมการพบว่า มีผู้กระทำผิดประมาณ10 คนขึ้นไป”
" ในทางกระบวนการเราเห็นว่า ให้มีการสอบสวนใหม่ ไม่ใช่ว่าสอบสวนพยานหลักฐานใหม่ เราจึงได้เสนอด้วยว่าหลังจากนี้จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องอายุความ ที่เราเสนอว่าต้องแก้โดยเร่งด่วนให้อายุความ หยุดลงเมื่อผู้ต้องหาหลบหนี แบบเดียวกับคดีทุจริตที่อายุความหยุดลงตราบใดที่ยังหลบหนีอยู่"
นายวิชา กล่าวว่า มีเรื่องที่ต้องดำเนินการสำหรับบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งสูง และเป็นผู้นำองค์กร แต่ว่าเราสามารถดำเนินการได้ในแง่ของจริยธรรม โดยป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ประมาณ10 คนขึ้นไป ซึ่งมีทั้งหมด 8 กลุ่ม ดังนี้ 1. พนักงานสอบสวนซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนวน 2. พนักงานอัยการซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3. ผู้บังคับบัญชาซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ 4. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ 5.ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ 6. ทนายความ ซึ่งกระทำผิดกฎหมาย 7. พยานซึ่งให้การเป็นเท็จ และ 8. ตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุนในการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว
เมื่อถามถึงการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญ จากการสวบสวนมีความเชื่อมโยงกับนายวรยุทธ หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า จากที่เราได้มา มีความเชื่อมโยงพอสมควร ทางตำรวจภาค 5 กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ว่า ทำไมถึงมีการทำลายมือถือของนายจารุชาติ เพราะไม่น่าจะต้องทำลายถึงขนาดนั้น
เมื่อถามว่า จะมีการปฏิรูปเรื่องการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นข้อเสนอของคณะกรรมการที่จะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ประสานงาน
เมื่อถามอีกว่า จากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงของทนายความ กับครอบครัวนายวรยุทธ อย่างไรหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ก็ต้องมีการให้สภาทนายความไปสอบต่อเพื่อให้เห็นภาพเชื่อมโยง
อย่างไรก็ตาม นายวิชา ยังได้แจกเอกสารรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ได้ส่งให้นายกฯ จำนวน 7 หน้า โดยในเอกสารมีการระบุตัวย่อ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด คือ พันตำรวจโท ธ. , รองศาสตราจารย์ ส. , พันตำรวจโท ว. ,พลอากาศโท จ. , นาย จ. , นาย น. อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด และ นาย ช. เป็นต้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายวิชา มหาคุณ เสนอแนวทางปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้อายุความทุกคดีหยุดลงเมื่อผู้ต้องหาหลบหนี และให้นับต่อเมื่อได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ว่า ตอนนี้เรากำลังพูดถึงคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 แต่ข้อเสนอของ นายวิชา ให้ครอบคลุมทุกคดี ตอนนี้คดีที่แก้ไปแล้วคือ คดีทุจริต ส่วนคดีอื่นๆต้องไปรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม
