xs
xsm
sm
md
lg

ไฟนรกสุดขอบฟ้ากำลังอุบัติขึ้นมารางๆ

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท



ช่วงระหว่างนี้...ไม่ว่าจะเป็น “แนวรบยุโรปตะวันออก” หรือ “แนวรบทะเลจีนใต้” ต้องเรียกว่า...เจอกับ “คุณพ่ออเมริกา” ท่านจัดหนัก จัดเต็ม ชนิดที่ “มหาอำนาจคู่แข่ง” (Rival Power) อย่างคุณพี่จีน และคุณน้ารัสเซีย หนีไม่พ้นต้องหันมาหายใจทางปาก หรือทางเหงือก ออกอาการปั่นป่วน มวนท้อง แทบอ้วกแตก อ้วกแตน ขึ้นมาบ้างแล้ว อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ด้วยเหตุนี้...สำหรับวันนี้ คงต้องลองไปสำรวจตรวจสอบ ฉากสถานการณ์ต่างๆ พอให้เห็นภาพ เห็นรูปร่าง หน้าตา ว่าอะไรต่อมิอะไรมันกำลังอุบัติขึ้นมามั่ง รวมทั้งแนวโน้มความเป็นไปของฉากสถานการณ์ดังกล่าว ว่ามันจะออกหัว ออกก้อย กันในแบบไหน อย่างไร???...

คือสำหรับสถานการณ์ใน “แนวรบยุโรปตะวันออก” นั้น...ส่วนที่กำลังฮอตฮิต ติดชาร์ต คงหนีไม่พ้นไปจากฉากสถานการณ์การประท้วง ลุกฮือ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในประเทศ “เบลารุส” เขานั่นแหละ ที่มีทั้ง “ม็อบปลดแอก” และ “ม็อบปกป้อง” ออกมาทั้ง “ต่อต้าน” และ “สนับสนุน” ผู้นำประเภท “เราจะทำตามสัญญา...ขอเวลาอีกไม่นานฮึ๊มฮึม...ฮึ๊มหึ่ม” อย่างประธานาธิบดี “อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก” ซึ่งอยู่ยาวว์ว์ว์เพื่อประคับประคอง “ยุทธศาสตร์ชาติ” ของประเทศเบลารุสมาเกือบจะ 30 ปีเข้าไปแล้ว ก็ยังไม่คิดจะไปไหนซักกะที จนทำให้การเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อช่วงวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงกลายเป็นการ “จุดชนวน” ให้เกิดม็อบปลดแอก แบบจุดติดและสว่างโร่ พอๆ กับ “ประกายไฟไหม้ลามทุ่ง” สามารถระดมไพร่พลออกกันมาเป็นแสนๆ เพื่อเรียกร้องให้ “บิ๊กตู่...ออกไป” (ประทานโทษ) ให้ “ลูคาเชนโก...ออกไป” ลูกเดียวเท่านั้นเอง...

แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุที่ผู้ซึ่งมีบทบาท อิทธิพลต่อผู้ประท้วงเอามากๆ ประเภท “ธร-บุด-ช่อ” ของบ้านเรา อะไรประมาณนั้น หรือผู้ที่อยู่ “เบื้องหลัง” การประท้วง อย่าง “นางสเวตลานา ติคานอฟสกายา” คู่แข่ง คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ “ลูคาเชนโก” ซึ่งได้เผ่นหนีออกไปตั้งหลักอยู่แถวๆ ประเทศลัตเวียเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ค่อนข้างแสดงตัวให้เห็นชัดเจน ว่าต้องการอยากจะหันไป “ฝักใฝ่ตะวันตก” ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่า...พยายามลอกแบบ เลียนแบบ การ “ปฏิวัติสี” ในยูเครน เอามาใช้กับเบลารุส อันอาจทำให้ประเทศเล็กๆ ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างอิทธิพลตะวันตกกับอิทธิพลรัสเซีย อาจต้องย้ายข้าง-เปลี่ยนข้าง ไปซบอก ซบตีน “นาโต” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ โดยเฉพาะล่าสุด...ที่คู่แข่ง คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรายนี้ ได้ออก “เดินสาย” พบปะกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายตะวันตก ไม่ว่าแคนาดา เยอรมนี อังกฤษ โปแลนด์ ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา อย่าง “นายStephen Biegun” เมื่อช่วงวันเสาร์ (22 ส.ค.) ที่ผ่านมานี่เอง...

เรียกว่า...ถึงขั้นที่ทำให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ไปจนกระทั่งตัวรัฐมนตรีต่างประเทศ อย่าง “นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” ต้องออกมาแสดงความวิตกกังวล มิใช่น้อย ต่อแนวโน้มของความพยายามเปลี่ยนประเทศเบลารุส ให้กลายเป็นแนวพรมแดนเข้ามาประชิดติดพัน หรือเข้ามาจ่อยังประเทศรัสเซีย โดยเฉพาะหลังจากเพิ่งได้มีการลงนามข้อตกลง “EDCA” ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กับรัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ในอันที่จะย้ายกองกำลังทหารอเมริกันที่ถอนออกจากเยอรมนี มาวางแหมะไว้ในประเทศโปแลนด์ หรือเป็นการ “ขยับแนวรุก” ของ “นาโต” เข้ามากดดันมหาอำนาจคู่แข่งอย่างรัสเซีย แบบดื้อๆ ทื่อๆ ชนิดที่ทำให้ “นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” ต้องออกมาเตือนว่า โอกาสที่จะเกิด “การนองเลือด” ไม่ว่าแบบประเภท 6 ตุลาฯบ้านเรา หรือแบบไหนๆ ก็แล้วแต่ ขึ้นมาในเบลารุส ย่อมมีสิทธิเป็นไปได้อยู่แล้วแน่ๆ โดยเฉพาะถ้าคิดจะเดินตามแนวทางเดียวกันกับประเทศยูเครน อะไรประมาณนั้น...

พูดง่ายๆ ว่า...ถึงแม้จะรู้สึก “ผะอืดผะอม” กับนักสืบทอดอำนาจ อย่าง “นายลูคาเชนโก” อยู่พอสมควร แต่ถ้าหากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเบลารุส อาจต้องไหลไปเข้าทางเท้า-เข้าทางตีนของ “ธร-บุด-ช่อ” หรือเป็นไปตามความปรารถนาและต้องการของ “นาโต” หรือ “นางสเวตลานา ติคานอฟสกายา” แล้วล่ะก็!!! ยังไงๆ...รัสเซียคงไม่อาจ “เอามือซุกหีบ” ได้ง่ายๆ โดยที่จะเกิดอะไรตามมา เกิดเหตุการณ์แบบยูเครน เกิดการผนวกแหลมไครเมีย หรือการยื้อกันไป-ยื้อกันมา ในแถบจอร์เจีย ออสเซเทีย ฯลฯ อันนั้น...คงยากที่จะสรุปได้ ณ ขณะนี้ หรืออาจต้องขึ้นอยู่กับพวก “เบลารุสสายกลาง” หรือสายมัชฌิมาปฏิปทา ที่นำโดย “นายValery Tsepkalo” อดีตทูตประจำอเมริกา เม็กซิโก และอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแห่งสหประชาชาติ ที่พยายามออกมาถ่วง ออกมารั้ง ออกมาชุมนุมผู้เดินขบวนสายกลาง ที่ไม่คิดจะเปิดช่อง เปิดทาง ให้กับทั้ง “กองกำลังนาโต” หรือ “กองทัพรัสเซีย” ยาตราเข้ามาในประเทศเบลารุสโดยเด็ดขาด...

แต่สรุปเอาเป็นว่า...โดยแนวรบในด้านนี้ ก็ยังไม่ถึงกับตึงมือ ตึงแขน มหาอำนาจคู่แข่งอเมริกาอย่างคุณน้ารัสเซีย มากมายสักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคุณพี่จีน ที่กำลังเจอแรงกด แรงบีบของพญาอินทรี เหนือดินแดน “ไต้หวัน” ชนิดอาจต้องอ้วกรดใส่มืออเมริกาหรือไต้หวัน ไม่วันใด-วันหนึ่งเอาเลยก็ไม่แน่!!! เพราะช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมานี่เอง...ถ้ามองจากปฏิกิริยาของ “สื่อทางการจีน” อย่าง “Global Times” จะเห็นได้ว่าเต็มไปด้วยเรื่อง “ไต้หวัน” ชนิดพรืดด์ด์ด์กันไปเป็นแถบๆ หรือทำให้ “กองทัพประชาชนจีน” (PLA) หนีไม่พ้นต้องจัดให้มีการ “ซ้อมรบ” ในพื้นที่อาณาบริเวณเหล่านี้ ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ล่าสุด...ในช่วงระหว่างวันจันทร์ที่ 24 ถึงวันเสาร์ที่ 29 ส.ค. ก็ต้องระดมซ้อมกันอีก ทั้งในระดับภาคพื้นอากาศ ไปจนเรือดำน้ำ อันเนื่องมาจากต้องเจอกับแรงกดดันทั้งทางการเมือง การทหาร จากคุณพ่ออเมริกา แบบชนิดน่าขนลุก ขนพอง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

คือเอาแค่ว่า...เพียงแค่ช่วงระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา เครื่องบินโจมตีและทิ้งระเบิดของคุณพ่ออเมริกา แวะๆ เวียนๆ เข้าไปในอาณาบริเวณพื้นที่ทะเลจีนใต้ ตะวันออก และช่องแคบไต้หวันไม่ต่ำกว่า 67 ครั้งเป็นอย่างน้อย แม้กระทั่งปัจจุบันเรือพิฆาต “USS Mustin (DDG-89)” ก็ยังแล่นไป-แล่นมาอยู่แถวๆ ช่องแคบไต้หวัน โดยมีเรือบรรทุกเครื่องบิน “USS Ronald Reagan” คอยให้การสนับสนุนอยู่ห่างๆ แถวทะเลญี่ปุ่น ไปจนถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดยักษ์อย่าง “B1-B” ที่แล่นฉวัดเฉวียนไป-มาอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ จนทำให้กองทัพประชาชนจีน อดไม่ได้ที่จะต้องส่งสัญญาณ ส่งคำเตือน ด้วยปฏิบัติการ “ซ้อมรบ” ทั้งในทะเลจีนใต้ ทะเลเหลืองและแถบอ่าวโบไฮ ไปจนครั้งล่าสุด แถวๆ อ่าวด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองกวางตุ้ง ดังที่กล่าวไปแล้ว...

เพราะไม่ใช่เพียงแค่ “ปฏิบัติการทางทหาร” ของกองทัพอเมริกา...ที่ชักมาแรงแซงโค้งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทาง “การเมือง” เท่าที่ฝ่ายจีนเขาลองนับนิ้วไป-มา ตลอดช่วงระยะที่ “สงครามเย็นยุคใหม่”ระหว่างจีนและอเมริกาได้เปิดฉาก เปิดม่านกั้ง อย่างไม่เป็นทางการไปแล้วนั้น อย่างน้อย...คุณพ่ออเมริกาได้ออกกฎหมายเพื่อให้การสนับสนุนไต้หวัน ในรัฐสภาอเมริกัน ไปไม่น้อยกว่า 5 ฉบับ ไม่ว่ากฎหมาย “Taiwan Travel Act” ปี ค.ศ. 2018 กฎหมาย “The Asia Reassurance Initiative Act” ในปีเดียวกัน กฎหมาย “The Taiwan Assurance Act” ในปี ค.ศ. 2019 กฎหมาย “The Taiwan Allies International Protection and Enhancement Act” และ “The National Defense Authorization Act” ในปีเดียวกัน หรือแสดงออกถึงความพยายาม “ละเมิดหลักการโดยพื้นฐาน” ของนโยบาย “จีนเดียว” อันเป็นสิ่งที่อเมริกาให้ความยอมรับมาตั้งแต่แรกเริ่ม เดิมที และเป็นสิ่งที่ฝ่ายจีนมิอาจปล่อยให้เกิดการละเมิดได้โดยหัวเด็ดตีนขาด...

ด้วย “ความตึงเครียด” ทั้งในทางการเมืองและการทหาร ระดับอาจใกล้ถึง “จุดระเบิด”เต็มที ทำให้สื่อทางการของจีนถึงกับต้อง ออกมาสรุปไว้ด้วยถ้อยคำที่ว่า... “ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า...เอาเข้าจริงๆ แล้ว สงครามมิได้เกิดขึ้นจากฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งอยากจะสู้รบซึ่งกันและกัน แต่เป็นเพราะแต่ละฝ่ายไม่อาจแก้ไขท่าทีความเป็นปฏิปักษ์ อันทำให้ต่างต้องเตรียมพร้อมรับมือกับฉากสถานการณ์ระดับเลวร้ายที่สุด จนกระทั่งฉากสถานการณ์ดังกล่าวอุบัติขึ้นมาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...”หรือพูดง่ายๆ ว่า โอกาสที่จะเกิด “อุบัติเหตุทางทหาร” ขึ้นมาในทะเลจีนทุกวันนี้ ชักเริ่มมีความเป็นไปได้สูงยิ่งเข้าไปทุกที!!!




กำลังโหลดความคิดเห็น