ผู้จัดการรายวัน 360 - ปูด “บิ๊กตู่” เตรียมอนุมัติขยายสัมปทานสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี ทั้งที่เสียงค้านกระหึ่ม “ยุทธพงศ์” ชำแหละใช้ ม.44 เลี่ยงการแข่งขันฯ ไม่เคารพมติสภาฯที่ค้านชัดเจน ท้าถ้ากล้าอนุมัติเจอร้อง ปปช.ทั้ง ครม.แน่ ตอก รบ.ปล้นชาติ จองกฐินซักฟอกนายกฯด้วย
วานนี้ (12 ส.ค.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ทราบมาว่า ในวันนี้ (13 ส.ค.63) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ที่มีรัฐมนตรีใหม่ร่วมประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีวาระพิจารณาสำคัญที่ต้องจับตา คือวาระที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอขออนุมัติให้มีการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ออกไปอีก 40 ปี ทั้งๆที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายฯ แต่กลับมาใช้อำนาจตามมาตรา 44 สมัยรัฐบาลที่แล้วเพื่อหลีกหนีการแข่งขัน
นายยุทธพงศ์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า 1.ข้ออ้าง กทม.ใช้มาตรา 44 มี 2 ประเด็น คือให้ BTS แบกหนี้แทน กทม. และค่าโดยสารต้องถูกลง เหลือ 65 บาทตลอดสาย มาเจรจาแลกกับการต่อสัมปทาน โดย กทม.อ้างว่าไม่มีเอกชนสนใจเลยต้องเจรจากับรายเดิม BTS แต่ตนมองว่าเรื่องนี้ผิดกฎหมาย เพราะสัญญาเหลือเป็น 10 ปี เหตุใดจึงไม่รอสัญญาจบ ค่อยเปิดประมูลใหม่ รู้ได้อย่างไรว่าไม่มีคนเข้าร่วมประมูล ส่วนเรื่องหนี้ค่าก่อสร้างที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รับภาระอยู่ เหตุใดต้องโอนให้ กทม. แล้วเอาไปแลกกับการต่อสัมปทาน ถ้าจะโอนให้ กทม. รัฐก็จัดงบประมาณจ่ายให้ กทม.ไปเหมือนที่จ่ายให้ รฟม.ในสายอื่นๆ หรือให้ กทม.วางแผนนำเงินรายได้ในอนาคตมาจ่ายก็สามารถทำได้
“ส่วนเรื่องค่าโดยสารถูก ส่วนต่อขยาย กทม.เก็บถูกอยู่แล้ว 10-15 บาท ขณะที่เส้นทางหลักก็ให้ BTS เก็บไปตามสัญญาจบ ปี2573 จากนั้นประมูลใหม่ก็กำหนดค่าโดยสารใหม่ทั้งสายให้ถูกลงได้ สัญญาส่วนต่อขยายที่จ้างอยู่ก็หนี พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ โดย กทม.ใช้ บริษัท กรุงเทพธนาคม หรือ KT ที่เป็นบริษัทของ กทม.จ้าง BTS อ้างว่าไม่ใช่รัฐ ทั้งที่ กทม.ถือหุ้น 100% เรื่องนี้ผิดมาเป็น 10 ปี และมีเรื่องร้องเรียนอยู่ที่ ปปช. และดีเอสไอ ด้วย” นายยุทธพงศ์ ระบุ
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า การออกคำสั่ง โดยอาศัยอำนาจมาตรา 44 เมื่อเดือน เม.ย.62)ทั้งที่เรื่องนี้เป็น PPP ต้องทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ที่บังคับใช้ มี.ค.62 และในคำสั่งยังระบุว่า เมื่ออนุมัติจบให้ถือว่า เป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน โดยอนุโลม เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการฟอกตัวสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย เอื้อประโยชน์ เมื่อเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง มีกฎหมายร่วมทุนบังคับใช้แล้ว ควรยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 ฉบับนี้เสัย ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.), กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไม่มีใครเห็นด้วยกับ กทม. เพราะไม่มีเหตุผล และผิดกฎหมาย สุดท้ายกระทรวงมหาดไทย จึงขอใช้มาตรา 44 และเมื่อเข้าสภาผู้แทนราษฎร มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา และสภาฯก็มีมติไม่ให้ต่อขยาย 40 ปี และแม้จะใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ คสช.ที่ 3/2562 แล้วก็ยังใช้เกินขอบเขตอำนาจของคำสั่งจากการแก้ไขสัญญาสัมปทาน เป็นการยกเลิกสัญญาสัมปทาน ซึ่งตนเองได้ยื่นคัดค้านไว้
“ถ้านายกฯประยุทธ์ ยังดื้อดึง อนุมัติให้ต่อขยายสัมปทานสายสีเขียว เท่ากับว่าจงใจใช้ คำสั่ง ม.44 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ และ พร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2562 ที่ตราขึ้นมาเอง เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน โดยหลีกหนีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ไม่เคารพต่อ มติของสภาฯ รัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เพิ่งถวายสัตย์เข้ามารับตำแหน่งใหม่ยังไม่รู้เรื่องเลย มามัดมือชกให้อนุมัติในสัญญาที่เหลืออีก 10 ปี แสดงถึงความไม่ชอบมาพากลเร่งรีบทำไม ไม่ให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่ไปดูมาให้รอบคอบเสียก่อน ทั้งหมดนี้แสดงออกอย่างชัดเจน เหมือนที่ม็อบนักศึกษาฯ ว่า รัฐบาลนี้ มีพฤติกรรมปล้นชาติชัดๆ”
นายยุทธพงศ์ ยังได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯระงับยับยั้งเรื่องการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปีก่อนถ้าไม่เช่นนั้นมีความจำเป็นต้องร้องเรียน ครม. ชุดนี้ทั้งคณะฯ ต่อ ป.ป.ช. ต่อไป และเตรียมเสนอให้พรรคเพื่อไทย เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน
วานนี้ (12 ส.ค.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ทราบมาว่า ในวันนี้ (13 ส.ค.63) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ที่มีรัฐมนตรีใหม่ร่วมประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีวาระพิจารณาสำคัญที่ต้องจับตา คือวาระที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอขออนุมัติให้มีการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ออกไปอีก 40 ปี ทั้งๆที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายฯ แต่กลับมาใช้อำนาจตามมาตรา 44 สมัยรัฐบาลที่แล้วเพื่อหลีกหนีการแข่งขัน
นายยุทธพงศ์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า 1.ข้ออ้าง กทม.ใช้มาตรา 44 มี 2 ประเด็น คือให้ BTS แบกหนี้แทน กทม. และค่าโดยสารต้องถูกลง เหลือ 65 บาทตลอดสาย มาเจรจาแลกกับการต่อสัมปทาน โดย กทม.อ้างว่าไม่มีเอกชนสนใจเลยต้องเจรจากับรายเดิม BTS แต่ตนมองว่าเรื่องนี้ผิดกฎหมาย เพราะสัญญาเหลือเป็น 10 ปี เหตุใดจึงไม่รอสัญญาจบ ค่อยเปิดประมูลใหม่ รู้ได้อย่างไรว่าไม่มีคนเข้าร่วมประมูล ส่วนเรื่องหนี้ค่าก่อสร้างที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รับภาระอยู่ เหตุใดต้องโอนให้ กทม. แล้วเอาไปแลกกับการต่อสัมปทาน ถ้าจะโอนให้ กทม. รัฐก็จัดงบประมาณจ่ายให้ กทม.ไปเหมือนที่จ่ายให้ รฟม.ในสายอื่นๆ หรือให้ กทม.วางแผนนำเงินรายได้ในอนาคตมาจ่ายก็สามารถทำได้
“ส่วนเรื่องค่าโดยสารถูก ส่วนต่อขยาย กทม.เก็บถูกอยู่แล้ว 10-15 บาท ขณะที่เส้นทางหลักก็ให้ BTS เก็บไปตามสัญญาจบ ปี2573 จากนั้นประมูลใหม่ก็กำหนดค่าโดยสารใหม่ทั้งสายให้ถูกลงได้ สัญญาส่วนต่อขยายที่จ้างอยู่ก็หนี พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ โดย กทม.ใช้ บริษัท กรุงเทพธนาคม หรือ KT ที่เป็นบริษัทของ กทม.จ้าง BTS อ้างว่าไม่ใช่รัฐ ทั้งที่ กทม.ถือหุ้น 100% เรื่องนี้ผิดมาเป็น 10 ปี และมีเรื่องร้องเรียนอยู่ที่ ปปช. และดีเอสไอ ด้วย” นายยุทธพงศ์ ระบุ
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า การออกคำสั่ง โดยอาศัยอำนาจมาตรา 44 เมื่อเดือน เม.ย.62)ทั้งที่เรื่องนี้เป็น PPP ต้องทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ที่บังคับใช้ มี.ค.62 และในคำสั่งยังระบุว่า เมื่ออนุมัติจบให้ถือว่า เป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน โดยอนุโลม เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการฟอกตัวสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย เอื้อประโยชน์ เมื่อเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง มีกฎหมายร่วมทุนบังคับใช้แล้ว ควรยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 ฉบับนี้เสัย ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.), กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไม่มีใครเห็นด้วยกับ กทม. เพราะไม่มีเหตุผล และผิดกฎหมาย สุดท้ายกระทรวงมหาดไทย จึงขอใช้มาตรา 44 และเมื่อเข้าสภาผู้แทนราษฎร มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา และสภาฯก็มีมติไม่ให้ต่อขยาย 40 ปี และแม้จะใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ คสช.ที่ 3/2562 แล้วก็ยังใช้เกินขอบเขตอำนาจของคำสั่งจากการแก้ไขสัญญาสัมปทาน เป็นการยกเลิกสัญญาสัมปทาน ซึ่งตนเองได้ยื่นคัดค้านไว้
“ถ้านายกฯประยุทธ์ ยังดื้อดึง อนุมัติให้ต่อขยายสัมปทานสายสีเขียว เท่ากับว่าจงใจใช้ คำสั่ง ม.44 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ และ พร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2562 ที่ตราขึ้นมาเอง เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน โดยหลีกหนีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ไม่เคารพต่อ มติของสภาฯ รัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เพิ่งถวายสัตย์เข้ามารับตำแหน่งใหม่ยังไม่รู้เรื่องเลย มามัดมือชกให้อนุมัติในสัญญาที่เหลืออีก 10 ปี แสดงถึงความไม่ชอบมาพากลเร่งรีบทำไม ไม่ให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่ไปดูมาให้รอบคอบเสียก่อน ทั้งหมดนี้แสดงออกอย่างชัดเจน เหมือนที่ม็อบนักศึกษาฯ ว่า รัฐบาลนี้ มีพฤติกรรมปล้นชาติชัดๆ”
นายยุทธพงศ์ ยังได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯระงับยับยั้งเรื่องการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปีก่อนถ้าไม่เช่นนั้นมีความจำเป็นต้องร้องเรียน ครม. ชุดนี้ทั้งคณะฯ ต่อ ป.ป.ช. ต่อไป และเตรียมเสนอให้พรรคเพื่อไทย เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน
