ชะตากรรมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นอย่างไร โอกาสจะได้อยู่ต่อวาระ 2 หรือไม่ ยังไม่มีใครทำนายได้ โพลต่างๆ ชี้ว่าทรัมป์ตามหลังคู่แข่งโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต 2 หลัก อีกไม่ถึง 100 วันก็จะวัดดวงกัน แต่ทรัมป์ดูแย่ไม่น้อย
อนาคตของสหรัฐฯ ท่ามกลางวิกฤตสารพัดทั้งการระบาดของโคโรนาไวรัส คนติดเชื้อและตายมากเป็นอันดับ 1 ของโลก เศรษฐกิจถดถอย คนว่างงานกว่า 30 ล้านคน ยังไม่มีวี่แววว่าจัดการวิกฤตอะไรได้สำเร็จ เพราะต่างเชื่อมโยงกันเหนียวแน่น
มีอย่างเดียวที่คนยังหาคำตอบชัดไม่ได้ คือดัชนีหุ้นดาวน์โจนยังทะยานไปต่อ ทั้งๆ ที่มองไปข้างหน้าไม่มีอะไรดีขึ้นในสหรัฐฯ และทั่วโลก ต่างเป็นเพราะโคโรนาไวรัส
ทรัมป์ดิ้นรนทุกทาง ประกาศว่าจะใช้ทุกวิธีเพื่อเอาชนะให้ได้ คนอเมริกันก็ตัดสินใจวันที่ใช้สิทธิลงคะแนนทางไปรษณีย์ ซึ่งทรัมป์บอกว่าอาจจะมีการโกง และตัวเองจะไม่ยอม มีโกงหรือไม่อยู่ที่ว่าทรัมป์แพ้หรือชนะ ถ้าทรัมป์แพ้ไม่ขาดก็ไม่ยอม
ถ้าแพ้แต่คะแนนสูสีมาก ทรัมป์ต้องฟ้องร้องศาลยืดเยื้อ ไม่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ไม่ยอมออกจากทำเนียบขาว ดังนั้น ทั้ง 2 ค่ายได้เตรียมผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายอื่นๆ ไว้เพียบ ฟัดกันแน่
ถ้าทรัมป์แพ้หลุดลุ่ย พรรครีพับลิกันยอมรับการตัดสินใจของคนอเมริกัน ทรัมป์ก็คงต้องยอม และเสี่ยงกับความเป็นไปได้ที่จะมีคดีอาญาต่างๆ สารพัด ด้านการใช้อำนาจในทางมิชอบ ผลประโยชน์ทับซ้อน และตัวเลขภาษีหรือเรื่องอื่นๆ
คนอเมริกันตกงานกว่า 30 ล้านคน ต้องพึ่งพาเงินสวัสดิการจากภาครัฐ ตัวเลขสิ้นสุดต้นสัปดาห์ของเดือนสิงหาคมยังมีตัวเลขคนขอรับความช่วยเหลือรายสัปดาห์กว่า 1.4 ล้านคน ตัวเลขนี้ขึ้นหรือลงเล็กน้อยแต่ละเดือนสะท้อนให้เห็นวิกฤต
ด้วยเหตุนี้ ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งพิเศษ สั่งจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผู้ว่างงานอีกสัปดาห์ละ 400 ดอลลาร์ หลังจากมาตรการก่อนหน้านี้รายเดือน 600 ดอลลาร์กำลังจะสิ้นสุด เป็นการต่อลมหายใจให้อีกเฮือก
พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือพักการชำระภาษีสำหรับพวกรายได้น้อยกว่า 1 แสนดอลลาร์ต่อไป ซึ่งก็ถือว่าเป็นระดับไม่น้อย คิดดูแล้วกว่า 3 ล้านบาท
คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้ร่ำรวย เว้นแต่พวกระดับบนซึ่งมีจำนวนน้อย และชนชั้นกลางซึ่งก็อยู่ในสภาพลำบากเพราะวิกฤตเศรษฐกิจซึ่งย่ำแย่อยู่แล้ว เพราะพิษสงครามการค้าทรัมป์ทำกับหลายประเทศและถูกซ้ำเติมขั้นสาหัสโดยโคโรนาไวรัส
ธุรกิจทุกระดับในสหรัฐฯ ต้องปิดตัวล้มหายตายจากไปก็มาก ขนาดใหญ่ต้องลดพนักงาน ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ระดับชาติ เคยเป็นตำนาน ก็ต้องรับสภาพของการสิ้นสุด สะท้อนให้เห็นว่าทั้งนิติบุคคล บุคคลทั่วไป ก็ไม่รอด ถ้าฐานไม่แข็งแกร่ง
เมื่อการระบาดกระจายไปทั่วโลก ไม่มีประเทศใดรอดจากผลกระทบรุนแรงซึ่งเชื่อมโยงด้านการค้า การลงทุน การเดินทาง การท่องเที่ยว ทั้งบก เรือ อากาศ ทำให้สายการบินต้องหยุดชะงัก มีหลายรายต้องล้มหายตายจากไปเพราะขาดรายได้
คนอเมริกันในภาคธุรกิจบริการ การพาณิชย์ ค้าปลีก และทั่วไปต้องถูกเลิกจ้างเมื่อห้างขนาดใหญ่กลายเป็นธุรกิจล้าสมัย ทำให้การขายสินค้าและบริการประเภทออนไลน์แย่งตลาด ดังจะเห็นได้จากการขยายตัวของอเมซอน และเจ้าของรวยเละ
คนอเมริกันที่ตกงาน ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร พวกที่เคยแยกตัวออกไปจากพ่อแม่ต้องหวนคืนกลับมาอยู่แบบเดิมเพราะไม่มีรายได้ เงินช่วยเหลือจากภาครัฐไม่เพียงพอสำหรับค่าเช่าหรือเช่าซื้อคอนโดฯ และที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ ที่ราคาแพง
มาอยู่กับพ่อแม่ ในห้องที่เคยนอนช่วงเป็นเด็ก ก็ต้องยอมรับสภาพ และมีส่วนหนึ่งต้องแบ่งรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าเช่า ค่าน้ำ ไฟฟ้า และแก๊ส ไม่อยู่ฟรี เว้นแต่ว่าสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกยังแน่นแฟ้นเหมือนเดิม ถือว่าเป็นการคืนสู่เหย้า
ถ้ามีลูกหลายคน และต้องตกงานเหมือนกันหมด ก็แล้วแต่ว่าจะมารวมตัวกันได้หรือไม่ และถ้ามีครอบครัวแล้ว จะทำให้ลำบากในการอยู่ร่วมกัน ตามสังคมอเมริกันซึ่งถือว่าการว่างงานนานๆ ทำให้ขาดความเชื่อมั่น ความเคารพตัวเองลดลง
สภาวะการระบาดจะเป็นอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่ ไม่มีใครคาดการณ์ได้ เพียงแต่บอกว่าสภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างนี้จะยืดเยื้อนานอย่างน้อยอีก 2 ปีกว่า ธุรกิจการค้า การบิน การท่องเที่ยวทุกอย่างที่เคยเป็นมาอาจจะคืนสู่สภาพเดิม
แต่ก็จะไม่เหมือนเดิม เพราะการระบาดจะมีเป็นฤดูกาลเหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่มีทุกปี กรณีโคโรนาไวรัสก็ขึ้นอยู่กับว่าได้พัฒนาวัคซีนที่ได้ผลดี ออกมารวดเร็วแค่ไหน รวมทั้งยารักษาด้วย ทุกวันนี้ก็มีผู้ผลิตหลายรายได้เริ่มจำหน่ายแล้ว
ถ้าเป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่ซึ่งกลายพันธุ์ทุกปี วัคซีนที่ใช้อยู่อาจรับกับสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้ ดังนั้นวัคซีนและยาต้านโคโรนาไวรัส ก็จะต้องเป็นไปในแบบเดียวกัน ประชาชนทั้งโลกต้องเฝ้าระวัง การติดเชื้อ ความสัมพันธ์ของคนจะไม่เหมือนเดิม
ยังไม่มีประเทศใดสร้างสูตรสำเร็จเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากการใช้มาตรการอัดฉีดช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ยังมีโอกาสรอด และคนว่างงาน โดยภาวะปกติ คนอเมริกันกว่า 30 ล้านคนมีรายได้และใช้ชีวิตอยู่ต่ำกว่าระดับเส้นแบบความยากจน
ยิ่งมาตกงานอีก 30 ล้านคน และคนมีรายได้เริ่มลดค่าใช้จ่าย ก็ยิ่งมีปัญหา ชะตากรรมของคนพวกนี้ขึ้นอยู่กับผู้ชนะระหว่างทรัมป์กับไบเดน 3 พฤศจิกายน รู้แน่
รัสเซีย จีน อิหร่าน ศัตรูของสหรัฐฯ ต่างลุ้นหนัก คนทั้งโลกก็อยากรู้เช่นกัน