รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องวานนี้ (21 ก.ค.) ให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากพร้อมเตือนคนหนุ่มสาวให้หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวผับบาร์ ซึ่งสะท้อนท่าทีที่เปลี่ยนไปของผู้นำสหรัฐฯ จากเดิมที่เคยปฏิเสธความจำเป็นในการสวมหน้ากากเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ ระบุว่าโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นก่อนจะคลี่คลาย ซึ่งเป็นไม่กี่ครั้งที่ผู้นำสหรัฐฯ ยอมรับว่าสถานการณ์ในประเทศเลวร้ายแค่ไหน
ทรัมป์ ปฏิเสธความร้ายแรงของโควิด-19 ในช่วงแรกๆ และผลักดันให้ผู้ว่าการรัฐต่างๆ เปิดเศรษฐกิจแม้จำนวนผู้ติดเชื้อในอเมริกาจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม ขณะที่ตัวเขาเองก็ไม่สมัครใจที่จะสวมหน้ากากในที่สาธารณะ กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้จึงยอมสวมหน้ากากเป็นครั้งแรกขณะไปเยี่ยมโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ การสวมหน้ากากได้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคมอเมริกัน เนื่องจากผู้สนับสนุน ทรัมป์ ส่วนใหญ่เห็นว่าการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากคือการละเมิดสิทธิเสรีภาพ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานขึ้นทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในรัฐใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญต่อศึกเลือกตั้งอย่างฟลอริดา, เทกซัส และแอริโซนา ทำให้ ทรัมป์ ต้องยอมปรับจุดยืนใหม่เพื่อควบคุมโรคระบาดให้อยู่ ซึ่งสะท้อนความพยายามของผู้นำสหรัฐฯ ที่จะกู้เรตติ้งกลับคืนมา หลังจากที่โพลทุกสำนักบ่งบอกว่าคะแนนนิยมของเขาพ่ายแพ้ต่อ โจ ไบเดน คู่แข่งเบอร์หนึ่งจากพรรคเดโมแครตซึ่งจะต้องดวลกันในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พ.ย.
“เราขอร้องทุกคนว่า ถ้าคุณไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ ขอให้สวมหน้ากาก หาหน้ากากมาสวมเสีย ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ แต่มันก็มีส่วนช่วยได้ มันมีผล และเราจะเป็นต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้” ทรัมป์ ระบุ
ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่าเริ่มคุ้นชินกับหน้ากากแล้ว และรับปากว่าจะสวมมันเวลาที่อยู่รวมกับผู้อื่นหรือต้องใช้ลิฟต์
“ผมยินดีที่จะใส่มัน... อะไรก็ตามที่ช่วยได้ล้วนเป็นสิ่งที่ดี” เขากล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ ยังเตือนคนหนุ่มสาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงผับบาร์ที่มีคนจำนวนมาก เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจาย
การออกมาแถลงข่าวด้วยตนเองโดยไม่มีทั้งหมอและเจ้าหน้าที่ในทีมตอบสนองโควิด-19 มายืนประกบ สะท้อนให้เห็นถึงการปรับยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญของทรัมป์ หลังจากที่เคยดึงดันจะเปิดเศรษฐกิจให้ได้ท่าเดียว และยังโจมตีพวกผู้ว่าการรัฐสายเดโมแครตที่นำมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดมาใช้
แม้จะเอ่ยย้ำความเชื่อเดิมว่าโควิด-19 “จะหายไปเอง” ทว่าคำพูดของ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (21) ก็แสดงถึงการยอมรับว่าปัญหาที่อเมริกากำลังเผชิญอยู่ร้ายแรงเพียงใด
“เราขอให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม และรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ล้างมือบ่อยๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส เราขอวิงวอนให้คนอเมริกันหนุ่มสาวหลีกเลี่ยงการไปบาร์หรือสถานที่ปิดอื่นๆ ซึ่งมีคนจำนวนมาก จงทำตัวเองให้ปลอดภัยและรู้เท่าทัน” เขากล่าว
ทรัมป์ ยังแสดงความคาดหวังที่ดีเกี่ยวกับแนวทางการรักษาและวัคซีนป้องกันโควิด-19 แม้สถิติผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ จะยังน่ากังวลก็ตาม
“ผมคิดว่าพวกคุณคงจะได้เห็นอะไรบางอย่างในอนาคตอันใกล้นี้ ในแง่ของวิธีการรักษาและวัคซีนซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก”