รอยเตอร์ - ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งเกิน 4 ล้านคนในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) สะท้อนถึงการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศแห่งนี้ นับตั้งแต่ตรวจพบเคสแรกเมื่อวันที่ 21 มกราคม
การจากนับของสำนักข่าวรอยเตอร์ พบว่าโควิด-19 ใช้เวลา 98 วันสำหรับแพร่เชื้อสู่อเมริกันชน 1 ล้านคนแรก ทว่ามันใช้เวลาเพียงแค่ 16 วันในการไต่ระดับจาก 3 ล้านคนเป็น 4 ล้านคน โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ยในเวลานี้ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 2,600 คนในทุกๆ ชั่วโมง ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในโลก
ในขณะที่โรคระบาดใหญ่กำลังแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ เคลื่อนจากนิวยอร์ก ศูนย์กลางในระยะแรกๆ ไปยังทางใต้และตะวันตก เจ้าหน้าที่ระดับรัฐและระดับท้องถิ่นกลับยังมัวทะเลาะเบาะแว้งกันในแนวทางต่อสู้กับโควิด-19 ในนั้นรวมถึงแนวทางผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและข้อจำกัดทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งกำหนดออกมาเพื่อสกัดการแพร่ระบาด
คำถามที่ว่าควรออกคำสั่งให้สวมหน้ากากหรือไม่ แนวทางปฏิบัติที่พบเห็นได้ทั่วไปในที่อื่นๆ ทั่วโลกและเป็นคำแนะนำจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลกลางเอง ถูกเบี่ยงเบนกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง โดยที่เหล่าผู้ว่าการรัฐจากรีพับลิกันบางส่วนปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม
อย่างไรก็ตาม ความเห็นที่ขัดแย้งกันในประเด็นนี้ได้ซาลงไปในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อปรากฏภาพประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ยอมสวมหน้ากากต่อหน้าสาธารณะ หลังจากปฏิเสธสวมมาตลอดก่อนหน้านี้ แถมยังกระตุ้นให้อเมริกันชนทำตาม
แม้ว่า ทรัมป์ ไม่ได้ออกคำสั่งระดับชาติบังคับสวมหน้ากาก แต่ เบรตต์ กิรัวร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุข บอกในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ระบุว่าการสวมหน้ากากในความสำคัญในการเปลี่ยนกระแสของการแพร่ระบาด
“สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำในมาตรการบรรเทาการแพร่ระบาดก็คือ สวมหน้ากาก และหลีกเลี่ยงชุมนุมชน เราจะไม่เห็นตัวเลขผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตลดลงในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะสิ่งบ่งชี้จะตามมาทีหลัง แต่เรากำลังเปลี่ยนกระแส” เขากล่าว
ฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ระบุในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ว่ามาตรการต่างๆ อย่างเช่น การสวมหน้ากาก กำลังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตภายในรัฐของเขา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด “ข้อมูลปัจจุบันบอกกับเราได้ว่า การเว้นระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากาก ล้วนได้ผล และมันบอกกับเราว่าทุกคนควรเข้ารับการตรวจโรค” ผู้ว่าการรัฐจากเดโมแครตกล่าว
เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ฟลอริดา รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด และพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 173 คน ส่วนรัฐแอละแบมาทำสถิติมีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดเป็นครั้งที่ 4 ในรอบเดือน
ทรัมป์ พยายามกลบกระแสความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่ในช่วงต้นๆของการแพร่ระบาด และปล่อยให้แต่ละรัฐและเมืองต่างๆ หานโยบายร่วมในการต่อสู้กับไวรัสกันเอาเอง ยุทธศาสตร์ที่ได้รับการเย้ยหยันจาก โจ ไบเดน ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน
ไบเดน นั่งคุยกับ บารัค โอบามา บุคคลที่เขาเคยทำงานให้ในฐานะรองประธานาธิบดี ในการสนทนาที่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.)
“ลองจินตนาการดูคุณจะสามารถยืนหยัดได้อย่างไร เมื่อประธานาธิบดีของคุณพูดว่ามันไม่ใช่ความรับผิดชอบของผม” ไบเดน ถามโอบามา อ้างถึงคำพูดของทรัมป์เมื่อเดือนมีนาคม ที่บอกว่า “ผมไม่ใช่ผู้รับผิดชอบ” หลังถูกถามเกี่ยวกับปัญหาการตรวจเชื้อโควิด-19 “คำพูดเหล่านี้ไม่ควรออกมาจากปากของเรา ตอนที่เราอยู่ในตำแหน่ง” โอบามาตอบกลับ
