ทวิตเตอร์ป่วน! โจรไซเบอร์แฮกบัญชีคนดัง ‘โอบามา-เบซอส-มัสก์-เกตส์’ หลอกผู้ติดตามโอนบิตคอยน์

เอเจนซีส์ - ทวิตเตอร์โดนโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ส่งผลให้บัญชีผู้ใช้ของบุคคลดังในสหรัฐฯ เช่น มหาเศรษฐี บิล เกตส์, อีลอน มัสก์, เจฟฟ์ เบซอส รวมถึงอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ถูกเจาะระบบ และมีการโพสต์ข้อความหลอกให้ผู้ติดตามบริจาคเงินในรูปแบบบิตคอยน์

แจ็ค ดอร์ซีย์ ซีอีโอทวิตเตอร์ โพสต์ข้อความว่า “เป็นวันที่หนักหนาสาหัสสำหรับทวิตเตอร์... เรารู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นและกำลังเร่งตรวจสอบ เราจะแชร์ข้อมูลทุกอย่างให้สาธารณชนทราบหลังจากที่เราเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น”

บัญชีของ โจ ไบเดน ผู้สมัครประธานาธิบดีตัวเก็งจากพรรคเดโมแครต, อูเบอร์, แอปเปิล รวมถึงบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านบิตคอยน์ ก็ตกเป็นเหยื่อปฏิบัติการแฮกครั้งใหญ่นี้ด้วยเช่นกัน โดยทวิตเตอร์ได้ทำการล็อกบัญชีที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว และลบทวีตล่อลวงทั้งหมดออกไป

“บัญชีผู้ใช้เกือบทั้งหมดน่าจะกลับมาใช้งานได้แล้ว” ทีมสนับสนุนของทวิตเตอร์แถลงอัปเดตเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15) “ระหว่างที่เรากำลังแก้ไขสถานการณ์ อาจจะมีปัญหาในการใช้งานเกิดขึ้นบ้าง เราจะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด”

บัญชีคนดังเหล่านี้มีการโพสต์ข้อความบอกกับผู้ติดตามนับล้านๆ คน ให้โอนบิตคอยน์มูลค่า 1,000 ดอลลาร์ มาภายใน 30 นาที เพื่อจะได้รับคืนกลับไปเป็น 2 เท่า

คาเมรอน วิงเกิลวอสส์ ผู้ร่วมก่อตั้งตลาดซื้อขายเงินคริปโตเคอร์เรนซี Gemini ออกมาเตือนผ่านบัญชีทวิตเตอร์ของเขาเองว่า “มันเป็นโพสต์หลอกลวง อย่าไปให้ความร่วมมือเด็ดขาด” ขณะที่ จัสติน ซัน ผู้บริหาร BitTorrent ประกาศตั้งเงินรางวัลถึง 1 ล้านดอลลาร์เพื่อตามล่าตัวแฮกเกอร์กลุ่มนี้มารับโทษตามกฎหมาย

เว็บไซต์ Blockchain.com ซึ่งติดตามการทำธุรกรรมผ่านเงินคริปโต ระบุว่า มีคนโอนเงินจำนวน 12.58 บิตคอยน์ หรือเกือบ 116,000 ดอลลาร์สหรัฐ เข้าไปยังอีเมลแอดเดรสที่คนร้ายระบุไว้

ข้อความล่อลวงที่ปรากฏบนบัญชีของ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสเปซเอ็กซ์ ระบุว่า “สวัสดีวันพุธ! ผมจะคืนเงินบิตคอยน์ให้กับผู้ติดตามทุกคน โดยจะจ่ายเป็น 2 เท่าของบิตคอยน์ที่ส่งมายังแอดเดรสด้านล่างนี้ คุณส่งมา 0.1 BTC ผมจะคืนให้ 0.2 BTC” และย้ำว่าข้อเสนอนี้ “จะหมดไปภายใน 30 นาที”

อย่างไรก็ดี บัญชีทวิตเตอร์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 83 ล้านคน ไม่ได้ตกเป็นเหยื่อด้วย

การที่ทวิตเตอร์กลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารที่สำคัญของผู้สมัครทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐหลายคน รวมถึงประธานาธิบดี ทรัมป์ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเกรงว่ามันอาจกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เข้ามาป่วนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. หรืออาจถึงขั้นบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

แอดัม คอนเนอร์ รองประธานฝ่ายนโยบายเทคโนโลยีของศูนย์เพื่อความก้าวหน้าอเมริกัน (Center for American Progress) ทวีตข้อความว่า “นี่เป็นเรื่องแย่สำหรับวันที่ 15 ก.ค. แต่จะเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้หากมันเกิดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.”