xs
xsm
sm
md
lg

‘ฮาร์วาร์ด-เอ็มไอที’ ยื่นฟ้อง รบ.ทรัมป์กรณีขู่ถอนวีซ่า ‘นศ.ต่างชาติ’ เรียนออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสถาบันเทคโนโลยีแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) ยื่นฟ้องรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพุธ (8 ก.ค.) กรณีขู่ถอนวีซ่านักศึกษาต่างชาติที่ลงทะเบียนเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ฮาร์วาร์ดและเอ็มไอทีซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงส่วนกลางเมืองบอสตันเพื่อขอให้ยับยั้งคำสั่งที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันจันทร์ (6)

“เราจะติดตามคดีนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อให้นักศึกษาต่างชาติของเราและนักศึกษาต่างชาติของสถาบันอื่นๆ ทั่วสหรัฐฯ สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อไปได้โดยไม่ต้องกลัวจะถูกเนรเทศ” ลอว์เรนซ์ บาคาว อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุในเอกสารชี้แจงที่ส่งถึงบุคลากรของมหาวิทยาลัย

ความเคลื่อนไหวของฮาร์วาร์ดและเอ็มไอทีมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดค้านคำสั่งของ ทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้นักศึกษาต่างชาติหลายหมื่นคนต้องเดินทางออกจากสหรัฐฯ หากสถาบันของพวกเขาเปลี่ยนไปใช้การเรียนการสอนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็ได้ประกาศแล้วว่าจะจัดคอร์สเรียนออนไลน์ทั้งหมดในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

มอรา ฮีลีย์ อัยการรัฐแมสซาชูเซตส์ ระบุเช่นกันว่า ทางรัฐมีแผนที่จะยื่นฟ้องคัดค้านนโยบายของรัฐบาลซึ่งเธอมองว่าเป็นคำสั่งที่ “ป่าเถื่อน” และ “ผิดกฎหมาย”

สำนักงานของฮีลีย์ อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย และได้มีการประสานกับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รวมถึงสถาบันการศึกษาชั้นนำอื่นๆ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ “เพื่อสนับสนุนความพยายามของพวกเขาที่จะปกป้องนักศึกษา”

เคย์ลีย์ แมคเอนานีย์ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว ออกมาแถลงโต้กลับวานนี้ (8) ว่า แทนที่ฮาร์วาร์ดและเอ็มไอทีจะมาฟ้องร้องรัฐบาล นักศึกษาที่ไม่สามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนได้ควรจะฟ้องเอาผิดมหาวิทยาลัยมากกว่า

“บางทีนักศึกษาต่างหากที่ควรจะฟ้องมหาวิทยาลัย เพราะพวกเขาจ่ายค่าเทอมเต็มจำนวน แต่กลับไม่สามารถเข้าชั้นเรียนแบบพบปะซึ่งหน้าได้” เธอกล่าว

ทรัมป์ ยืนกรานจะกดดันให้ผู้ว่าการรัฐต่างๆ เปิดโรงเรียนทั่วประเทศในฤดูใบไม้ร่วง แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอเมริกาจะยังอยู่ในขั้นรุนแรงก็ตาม

ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของสหรัฐฯ มากกว่า 1 ล้านคน และสถาบันหลายแห่งก็ต้องพึ่งพารายได้จากนักศึกษากลุ่มนี้ซึ่งส่วนใหญ่จะชำระค่าเทอมเต็มจำนวน

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐฯ (ICE) ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ออกวีซ่าให้แก่นักศึกษาต่างชาติที่ลงคอร์สเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วง และนักศึกษากลุ่มนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ ส่วนมหาวิทยาลัยที่ใช้ระบบผสมผสานระหว่างการสอนในชั้นเรียนกับการสอนออนไลน์ก็จะต้องพิสูจน์ยืนยันว่านักศึกษาต่างชาติเหล่านี้ลงทะเบียนเรียนวิชาที่ทำการสอนแบบ in-person มากพอที่จะคงสถานะเอาไว้

มาตรการนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของทำเนียบขาวที่จะกดดันให้สถาบันการศึกษาต่างๆ ยอมเปิดการเรียนการสอนแบบซึ่งหน้าอีกครั้งท่ามกลางการระบาดของโควิด-19

ประกาศดังกล่าวทำให้ทั้งนักศึกษา อาจารย์ และทางมหาวิทยาลัยต้องเร่งตรวจสอบให้แน่ชัดว่านักศึกษาคนใดบ้างที่เข้าเกณฑ์ต้องเดินทางออกจากสหรัฐฯ ตามคำสั่งของรัฐบาล และจะมีวิธีผ่อนปรนอย่างไรได้บ้าง อาจารย์มหาวิทยาลัยหลายคนถึงกับเสนอตัวว่าจะยอมออกไปสอนรายวิชาศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองแบบกลางแจ้ง (outdoor) เพื่อช่วยนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบ

เอกสารคำฟ้องของฮาร์วาร์ด และเอ็มไอที ระบุว่า ICE “กำหนดนโยบายโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของของนักศึกษา, บุคลากรของมหาวิทยาลัย และชุมชน” ทั้งยังกล่าวหารัฐบาล ทรัมป์ ว่าออกกฎโดยไม่ผ่านกระบวนการที่เหมาะสม

แอลลิสัน เบอร์โรว์ส ผู้พิพากษาศาลแขวงซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิจารณาคดีนี้ ซึ่งเมื่อปี 2017 เธอก็เคยพิพากษาให้ระงับคำสั่งของทรัมป์ ที่ห้ามพลเมืองจากชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ มาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น