“ศักดิ์สยาม” สั่งเช็กค่าก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดงโป่งกว่า 1 หมื่นล้านบาท ลั่นทุกรายการต้องมีที่มาที่ไป “ปลัดคมนาคม” ให้แจงยิบ 4 ข้อมติบอร์ด รฟท. มอบอำนาจใครอนุมัติสั่งงานเพิ่ม และมีค่างานเกิน 15% หรือไม่ หวั่นมียัดไส้-ขัดระเบียบ
วานนี้ (6 ส.ค.) นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต ร่วมกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามข้อสังการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้พิจารณาในประเด็นที่มีการขอขยายวงเงินเพิ่มเติม ประมาณ 10,345 ล้านบาท แต่เนื่องจากยังมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน จึงให้ รฟท.ทำข้อมูลชี้แจงใน 4 ข้อ คือ 1. รายละเอียดงานก่อสร้างเพิ่มเติม หรือ Variation Order (VO)ที่มีมูลค่าเกิน 15% มีกี่รายการ เนื่องจากจะเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจอนุมัติ
2. ตรวจสอบมติคณะกรรมการ (บอร์ด)รฟท. มอบหมาย วิศวกรควบคุมโครงการก่อสร้างสายสีแดง 3. ตรวจสอบการออกคำสั่งมอบหมายให้วิศวกรควบคุมโครงการมีอำนาจ หน้าที่อย่างไร 4. ให้ฝ่ายกฎหมาย หรืออนุกฎหมายรฟท. ตีความประเด็นข้อกฎหมายว่า กรณีที่ค่างาน VOไม่เกิน 15% ต้องเสนอบอร์ดรฟท.อนุมัติ หรือไม่
ทั้งนี้ ให้รฟท. สรุปข้อมูลโดยละเอียด เพื่อนัดประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะเร่งสรุปเสนอ รมว.คมนาคม ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่า งานที่เพิ่มเติม และค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นกว่าหมื่นล้านบาท มีการดำเนินการตามขั้นตอนมาอย่างถูกต้องหรือไม่ ผู้อนุมัติมีอำนาจหรือไม่ เพราะรฟท. เสนอขอค่างานของสายสีแดง เพิ่มเติมอีก 10,345 ล้านบาท มีรายละเอียดไม่ครบถ้วน อีก
ส่วนการเปิดเดินรถสายสีแดงเมื่อใดนั้น นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า คณะทำงานฯไม่ได้พิจารณาในประเด็นนั้น แต่เชื่อว่าหากระบบพร้อม มีความปลอดภัยในการเดินรถ เชื่อว่าจะเร่งเปิดให้บริการประชาชนแน่นอน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือจะต้องสรุปประเด็นเรื่องการเพิ่มค่างาน (VO)ให้ได้ก่อน เพราะหากยังไม่มีข้อยุติ แล้วรัฐเปิดเดินรถ อาจจะมีปัญหาผู้รับเหมาฟ้องร้องได้
ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า รฟท.จะขอเพิ่มอีก 10,345 ล้านบาท มีกว่า 240 รายการ ซึ่งเป็นงานส่วนเพิ่ม หรือ VO ประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท ที่เหลือเป็น ค่าภาษีและค่าที่ปรึกษา การจะเสนอครม.เพื่อขออนุมัติเงินเพิ่ม จะต้องดูให้รอบคอบว่า เป็นงานที่จำเป็นจริงๆ ที่ต้องเพิ่มหรือไม่ และจะใช้เงินจากไหน โดยเฉพาะระเบียบกฎหมาย รฟท. ต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาตามมา
รายงานข่าวแจ้งว่า เนื้องานที่เพิ่มเติมนั้นผู้รับเหมาได้ทำงานไปล่วงหน้าก่อนแล้ว แต่ยังเบิกค่างานไม่ได้ เนื่องจากต้องรอ รฟท.เสนอขออนุมัติ และต้องหาแหล่งเงินแทนเงินกู้ไจก้า ที่ไม่ให้กู้เพิ่ม ดังนั้นหากหาข้อยุติเรื่องค่างานเพิ่มไม่ได้ อาจจะกระทบต่อการเปิดเดินรถไฟสายสีแดง ที่เอกชนอาจจะฟ้องร้อง รฟท.ได้
ในส่วนของการก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง สัญญาที่ 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง เสร็จ 100% เหลืองานตกแต่งภายในและส่งมอบระบบจ่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
สัญญาที่ 2 งานโยธาและทางวิ่ง สำหรับทางรถไฟบางซื่อ-รังสิต เสร็จ 100% อยู่ระหว่างดำเนินการส่งมอบงานให้ ร.ฟ.ท.
สัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลฯ สำหรับระบบรถไฟช่วงบางซื่อ-รังสิต ปัจจุบันคืบหน้า 90% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดย รฟท.วางแผนจะเริ่มทดสอบระบบในปีหน้า และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 31 ต.ค.64
วานนี้ (6 ส.ค.) นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต ร่วมกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามข้อสังการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้พิจารณาในประเด็นที่มีการขอขยายวงเงินเพิ่มเติม ประมาณ 10,345 ล้านบาท แต่เนื่องจากยังมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน จึงให้ รฟท.ทำข้อมูลชี้แจงใน 4 ข้อ คือ 1. รายละเอียดงานก่อสร้างเพิ่มเติม หรือ Variation Order (VO)ที่มีมูลค่าเกิน 15% มีกี่รายการ เนื่องจากจะเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจอนุมัติ
2. ตรวจสอบมติคณะกรรมการ (บอร์ด)รฟท. มอบหมาย วิศวกรควบคุมโครงการก่อสร้างสายสีแดง 3. ตรวจสอบการออกคำสั่งมอบหมายให้วิศวกรควบคุมโครงการมีอำนาจ หน้าที่อย่างไร 4. ให้ฝ่ายกฎหมาย หรืออนุกฎหมายรฟท. ตีความประเด็นข้อกฎหมายว่า กรณีที่ค่างาน VOไม่เกิน 15% ต้องเสนอบอร์ดรฟท.อนุมัติ หรือไม่
ทั้งนี้ ให้รฟท. สรุปข้อมูลโดยละเอียด เพื่อนัดประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะเร่งสรุปเสนอ รมว.คมนาคม ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่า งานที่เพิ่มเติม และค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นกว่าหมื่นล้านบาท มีการดำเนินการตามขั้นตอนมาอย่างถูกต้องหรือไม่ ผู้อนุมัติมีอำนาจหรือไม่ เพราะรฟท. เสนอขอค่างานของสายสีแดง เพิ่มเติมอีก 10,345 ล้านบาท มีรายละเอียดไม่ครบถ้วน อีก
ส่วนการเปิดเดินรถสายสีแดงเมื่อใดนั้น นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า คณะทำงานฯไม่ได้พิจารณาในประเด็นนั้น แต่เชื่อว่าหากระบบพร้อม มีความปลอดภัยในการเดินรถ เชื่อว่าจะเร่งเปิดให้บริการประชาชนแน่นอน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือจะต้องสรุปประเด็นเรื่องการเพิ่มค่างาน (VO)ให้ได้ก่อน เพราะหากยังไม่มีข้อยุติ แล้วรัฐเปิดเดินรถ อาจจะมีปัญหาผู้รับเหมาฟ้องร้องได้
ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า รฟท.จะขอเพิ่มอีก 10,345 ล้านบาท มีกว่า 240 รายการ ซึ่งเป็นงานส่วนเพิ่ม หรือ VO ประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท ที่เหลือเป็น ค่าภาษีและค่าที่ปรึกษา การจะเสนอครม.เพื่อขออนุมัติเงินเพิ่ม จะต้องดูให้รอบคอบว่า เป็นงานที่จำเป็นจริงๆ ที่ต้องเพิ่มหรือไม่ และจะใช้เงินจากไหน โดยเฉพาะระเบียบกฎหมาย รฟท. ต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาตามมา
รายงานข่าวแจ้งว่า เนื้องานที่เพิ่มเติมนั้นผู้รับเหมาได้ทำงานไปล่วงหน้าก่อนแล้ว แต่ยังเบิกค่างานไม่ได้ เนื่องจากต้องรอ รฟท.เสนอขออนุมัติ และต้องหาแหล่งเงินแทนเงินกู้ไจก้า ที่ไม่ให้กู้เพิ่ม ดังนั้นหากหาข้อยุติเรื่องค่างานเพิ่มไม่ได้ อาจจะกระทบต่อการเปิดเดินรถไฟสายสีแดง ที่เอกชนอาจจะฟ้องร้อง รฟท.ได้
ในส่วนของการก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง สัญญาที่ 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง เสร็จ 100% เหลืองานตกแต่งภายในและส่งมอบระบบจ่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
สัญญาที่ 2 งานโยธาและทางวิ่ง สำหรับทางรถไฟบางซื่อ-รังสิต เสร็จ 100% อยู่ระหว่างดำเนินการส่งมอบงานให้ ร.ฟ.ท.
สัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลฯ สำหรับระบบรถไฟช่วงบางซื่อ-รังสิต ปัจจุบันคืบหน้า 90% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดย รฟท.วางแผนจะเริ่มทดสอบระบบในปีหน้า และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 31 ต.ค.64