“คมนาคม” ยังไม่เคลียร์ รฟท.เพิ่มค่าก่อสร้างสายสีแดงกว่าหมื่นล้าน มึนงานเพิ่ม 200 รายการแต่ตัวเลขแจกแจงไม่ตรงกัน สั่งทำข้อมูลใหม่เสนอกรมราง 20 ส.ค. เช็กรายละเอียด เผยเพิ่มงานต้องอธิบายว่าจำเป็นจริง
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมหารือเรื่องการปรับกรอบวงเงินลงทุนเพื่อหาแหล่งเงินเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ว่า จากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ชี้แจงข้อมูลรายละเอียดที่ส่งผลให้วงเงินค่าก่อสร้างและค่างานเพิ่มประมาณ 10,345 ล้านบาท ซึ่งมีกว่า 200 รายการ แต่เนื่องจากรายละเอียดที่รฟท.ชี้แจงยังไม่ครบถ้วน ทำให้ไม่สามารถสรุปได้
โดยพบว่าในกว่า 200 รายการ ซึ่งพบว่ารายการไม่ตรงกับวงเงินที่เสนอ นอกจากนี้ ใน 200 กว่ารายการ มีทั้งงานที่ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วและที่ยังเป็นคำสั่งแต่ยังไม่ได้ดำเนินการ จึงต้องดูว่ารายการที่ยังไม่ทำนั้นมีความจำเป็นต้องทำจริงหรือไม่
โดยได้มอบหมายให้ รฟท.กลับไปทำรายละเอียดแจกแจงทุกรายการให้ชัดเจน รวมถึงวงเงินที่ต้องตรงกับรายการ และส่งข้อมูลให้ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงศ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ภายในวันที่ 20 ส.ค. เพื่อตรวจสอบ เช็กรายละเอียดก่อน จากนั้นจึงจะประชุมอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้พิจารณารายละเอียดของการเพิ่มวงเงิน และสรุปให้ภายใน 2 สัปดาห์นั้นซึ่งคือภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นจะรายงานความคืบหน้าต่อ รมว.คมนาคมให้รับทราบก่อน
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า กรณีวงเงินไม่ตรงกับรายการที่เสนอ และการตรวจสอบงานที่ทำเพิ่มว่ามีความจำเป็นหรือไม่ หากรายการของงานลดลงจะส่งผลให้ช่วยลดกรอบวงเงินที่จะขอเพิ่มด้วย โดยเบื้องต้นในสัญญาก่อสร้างนั้นจะมีวงเงินค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด (Provisional Sum) ซึ่งให้ รฟท.ดูว่ายังมีวงเงินเหลือใช้ได้อีกหรือไม่ด้วย
นอกจากนี้ ทาง รฟท.จะต้องชี้แจงข้อมูล กรณีผู้มีอำนาจสั่งการและอนุมัติในการเพิ่มงานซึ่งคณะอนุฯ กฎหมายของบอร์ด รฟท.ได้มีการประชุมในประเด็นนี้ ซึ่งต้องตีความข้อกฎหมาย
เบื้องต้น การบริหารสัญญาก่อสร้าง รฟท.มีคำสั่งแต่งตั้งวิศวกรผู้มีอำนาจ หรือ The Engineer ซึ่งจะมีการระบุชื่อ และหน้าที่ ขอบเขต อำนาจในการสั่งการ เช่น สั่งหยุดงาน สั่งเพิ่มงาน แต่ไม่มีวงเงิน ซึ่งการมีคำสั่งนั้นต้องดูขอบเขตอำนาจ ในฐานผู้ว่าจ้าง ซึ่งหมายถึงจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าฯ รฟท.หรือไม่อย่างไร หรือคำสั่งที่มอบวิศวกร เป็นการมอบเด็ดขาดแค่ไหน โดยให้ รฟท.ชี้แจงข้อมูลในวันที่ 20 ส.ค. เช่นกัน
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า หลักการคือจะต้องมีการเปิดเดินรถสายสีแดง แต่การจะเปิดเดินรถจะต้องมีความมั่นใจในระบบความปลอดภัย ดังนั้น รฟท.จะต้องพิจารณาว่ารายการที่จะทำเพิ่มนั้นจำเป็นหรือไม่ หรือกรณีจะตัดออกเพื่อประหยัดงบ เนื้องานที่ตัดไปนั้นจะส่งผลกระทบต่อการเดินรถ ความปลอดภัยหรือไม่