ผู้จัดการรายวัน360-รฟม.ประเมินปลายปีปิดดีลประมูลสายสีส้ม ชงครม.เซ็นสัญญาต้นปี 64 เร่งพ.ร.ฎ.เวนคืนคู่ขนาน เตรียมพื้นที่ส่งมอบไม่เกิน 6 เดือน จ่อรื้อ ผลศึกษารถไฟฟ้าภูมิภาค พิษโควิดกระทบยอดผู้โดยสาร ปลายส.ค. ลงพื้นที่ทดสอบนักลงทุนชี้ชะตา”แทรมป์ภูเก็ต”
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า จากที่รฟม.ได้เปิดขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Documents: RFP) เป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งมีเอกชน 10 รายซื้อเอกสาร ซึ่ง รฟม.ได้จัดประชุมชี้แจงการคัดเลือกแก่เอกชนไปแล้ว และกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 23 ก.ย. 2563 โดยให้ยื่นเอกสารข้อเสนอ 3 ซอง คือ 1. คุณสมบัติเบื้องต้น 2. ข้อเสนอทางเทคนิค 3. ข้อเสนอด้านราคา โดยจะต้องผ่านการพิจารณาซอง ที่ 1 และ2 ก่อน จึงจะได้รับสิทธ์เปิดซองราคา
โดยคุณสมบัติเบื้องต้น จะเน้นประสบการณ์ของผู้รับจ้าง โดยเฉพาะการก่อสร้างงานใต้ดิน เพราะโครงสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มด้านตะวันตก เป็นระบบใต้ดินค่อนข้างมาก ส่วนข้อเสนอทางเทคนิค จะใช้เกณฑ์ ผ่านหรือไม่ผ่าน จากนั้นจะเปิดข้อเสนอด้านราคา
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีค่างานโยธาประมาณ 96,000 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้าประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยผู้ที่ขอให้รัฐอุดหนุนการลงทุนน้อยที่สุด จะเป็นผู้ได้รับคัดเลือก โดยคาดว่าจะสรุปผลและได้ตัวผู้ชนะประมูล ปลายปี 2563 จากนั้นเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พร้อมร่างสัญญา และคาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมลงทุนได้ภายในไตรมาส1/2564
นอกจากนี้ รฟม.ได้ดำเนินการร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กม. คู่ขนาน หากออกร่างได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ รฟม.จะเริ่มดำเนินการเวนคืนภายใน 6 เดือน โดยจุดใหญ่ที่จะมีการเวนคืน คือ บริเวณชุมชนห้วยขวาง
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ลงทุน PPP Net Cost ก่อสร้างช่วงตะวันตก ติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้า และรับสัมปทานเดินรถตลอดสายจากมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ระยะทาง 35.9 กม. ระยะเวลา 30 ปี วงเงินรวม 128,128 ล้านบาท โดยรัฐจ่ายค่าเวนคืน14,611 ล้านบาท มีพื้นที่รวม 505 แปลง หรือ41 ไร่ 1 งาน 96 ตร.ว. รวม 331 หลัง และสนับสนุนเงินลงทุนเอกชนไม่เกินค่างานโยธา 96,012 ล้านบาท เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี
จ่อรื้อ ผลศึกษารถไฟฟ้าภูมิภาค พิษโควิดกระทบยอดผู้โดยสาร
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าในภูมิภาค จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ และนครราชสีมานั้น ผู้ว่ารฟม.กล่าวว่า มีการล่าช้าจากแผนงาน เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 แต่จะเริ่มลงพื้นที่เพื่ออีกครั้ง เริ่มที่ จ.ภูเก็ต ช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ เพื่อจัดประชุมทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกครั้ง และในเดือนก.ย.จะประชุมทดสอบความสนใจโครงการรถไฟฟ้า จังหวัดเชียงใหม่ และต่อด้วยจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ ประเมินผลกระทบจากการเกิดโรคโควิด-19 จะส่งผลต่อตัวเลขผลตอบแทนที่ออกมาจะไม่คุ้มค่าในการลงทุนแน่นอน เพราะการเดินทางและท่องเที่ยวไม่มี และสภาพเศรษฐกิจซบเซา
"โครงการรถไฟฟ้าภูมิภาคทุกแห่ง ต้องปรับแผนงานตารางโครงการออกไปประมาณ 3-6เดือน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าต้องชะลอหรือเลื่อนโครงการออกไปมากน้อยแค่ไหน"
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า จากที่รฟม.ได้เปิดขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Documents: RFP) เป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งมีเอกชน 10 รายซื้อเอกสาร ซึ่ง รฟม.ได้จัดประชุมชี้แจงการคัดเลือกแก่เอกชนไปแล้ว และกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 23 ก.ย. 2563 โดยให้ยื่นเอกสารข้อเสนอ 3 ซอง คือ 1. คุณสมบัติเบื้องต้น 2. ข้อเสนอทางเทคนิค 3. ข้อเสนอด้านราคา โดยจะต้องผ่านการพิจารณาซอง ที่ 1 และ2 ก่อน จึงจะได้รับสิทธ์เปิดซองราคา
โดยคุณสมบัติเบื้องต้น จะเน้นประสบการณ์ของผู้รับจ้าง โดยเฉพาะการก่อสร้างงานใต้ดิน เพราะโครงสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มด้านตะวันตก เป็นระบบใต้ดินค่อนข้างมาก ส่วนข้อเสนอทางเทคนิค จะใช้เกณฑ์ ผ่านหรือไม่ผ่าน จากนั้นจะเปิดข้อเสนอด้านราคา
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีค่างานโยธาประมาณ 96,000 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้าประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยผู้ที่ขอให้รัฐอุดหนุนการลงทุนน้อยที่สุด จะเป็นผู้ได้รับคัดเลือก โดยคาดว่าจะสรุปผลและได้ตัวผู้ชนะประมูล ปลายปี 2563 จากนั้นเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พร้อมร่างสัญญา และคาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมลงทุนได้ภายในไตรมาส1/2564
นอกจากนี้ รฟม.ได้ดำเนินการร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กม. คู่ขนาน หากออกร่างได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ รฟม.จะเริ่มดำเนินการเวนคืนภายใน 6 เดือน โดยจุดใหญ่ที่จะมีการเวนคืน คือ บริเวณชุมชนห้วยขวาง
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ลงทุน PPP Net Cost ก่อสร้างช่วงตะวันตก ติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้า และรับสัมปทานเดินรถตลอดสายจากมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ระยะทาง 35.9 กม. ระยะเวลา 30 ปี วงเงินรวม 128,128 ล้านบาท โดยรัฐจ่ายค่าเวนคืน14,611 ล้านบาท มีพื้นที่รวม 505 แปลง หรือ41 ไร่ 1 งาน 96 ตร.ว. รวม 331 หลัง และสนับสนุนเงินลงทุนเอกชนไม่เกินค่างานโยธา 96,012 ล้านบาท เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี
จ่อรื้อ ผลศึกษารถไฟฟ้าภูมิภาค พิษโควิดกระทบยอดผู้โดยสาร
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าในภูมิภาค จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ และนครราชสีมานั้น ผู้ว่ารฟม.กล่าวว่า มีการล่าช้าจากแผนงาน เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 แต่จะเริ่มลงพื้นที่เพื่ออีกครั้ง เริ่มที่ จ.ภูเก็ต ช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ เพื่อจัดประชุมทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกครั้ง และในเดือนก.ย.จะประชุมทดสอบความสนใจโครงการรถไฟฟ้า จังหวัดเชียงใหม่ และต่อด้วยจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ ประเมินผลกระทบจากการเกิดโรคโควิด-19 จะส่งผลต่อตัวเลขผลตอบแทนที่ออกมาจะไม่คุ้มค่าในการลงทุนแน่นอน เพราะการเดินทางและท่องเที่ยวไม่มี และสภาพเศรษฐกิจซบเซา
"โครงการรถไฟฟ้าภูมิภาคทุกแห่ง ต้องปรับแผนงานตารางโครงการออกไปประมาณ 3-6เดือน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าต้องชะลอหรือเลื่อนโครงการออกไปมากน้อยแค่ไหน"