xs
xsm
sm
md
lg

“ศักดิ์สยาม”ทะลวงคอขวดลงใต้ เร่ง“มอเตอร์เวย์-ทางหลวง”ลดแออัด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-“คมนาคม” เร่งเดินหน้า 3 โครงการ ทะลวงคอขวดลงสู่ภาคใต้ เตรียมใช้เงินกองทุนมอเตอร์เวย์จำนวน 2 หมื่นล้านบาท สร้างทางยกระดับ “เอกชัย-บ้านแพ้ว” ผุดทางหลวงแนวใหม่เชื่อมแยกวังมะนาวยาว 14 กิโลเมตร และดันมอเตอร์เวย์นครปฐม–ชะอำ “ศักดิ์สยาม” มั่นใจลดความหนาแน่นถนนพระราม 2 พร้อมสั่งเร่งเคลียร์ปมเวนคืนให้จบ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการที่เป็นโครงข่ายลงสู่ภาคใต้ ได้แก่ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (M82) ช่วงต่อขยายเอกชัย-บ้านแพ้ว โดยขณะนี้ออกแบบรายละเอียดและรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสร็จแล้ว ทล.จะดำเนินการก่อสร้างงานโยธาเอง วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ ซึ่ง ทล. จะเสนอเรื่องมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาภายในเดือนส.ค.นี้

ส่วนมอเตอร์เวย์ (M8) สายนครปฐม–ชะอำ ระยะทาง 109 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 79,006 ล้านบาท ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่ 7 เรื่องที่ ทล. จะต้องเร่งไปแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน เช่น การเวนคืนบริเวณ จ.เพชรบุรี ที่ประชาชนยังคัดค้าน

นอกจากนี้ ทล. ยังมีแผนก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อสามแยกวังมะนาวกับทางหลวงหมายเลข 3510 ที่บริเวณ อ.หนองหญ้าปล้อง ปรับจาก 3 แยกวังมะนาว และ 4 แยกวังมะนาว ซึ่งจะมีการก่อสร้างถนนใหม่ขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 14 กม. และปรับปรุงขยายถนนเดิมทางหลวงหมายเลข 3206 จาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร

“จะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางลงสู่ภาคใต้ และลดความหนาแน่นของถนนพระราม 2 ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญกับโครงข่ายถนนทั่วประเทศ โดยหลักการทำงานของผมทุกโครงการที่จะเสนอมานั้น จะต้องมีความพร้อมแล้ว หากยังติดขัดขั้นตอนไหน หรือโครงการยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งเสนอ ให้ไปแก้ปัญหาให้เรียบร้อยก่อน”นายศักดิ์สยามกล่าว

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ทล.ได้สรุปแล้วว่าจะก่อสร้างงานโยธามอเตอร์เวย์บางขุนเทียน–บ้านแพ้ว ระยะทาง 15 กม. เอง โดยมีค่างานประมาณ 20,000 ล้านบาท ใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ ดำเนินการ 3 ปี แบ่งเป็น ปี 2564 จำนวน 4,000 ล้านบาท ปี 2565 จำนวน 8,000 ล้านบาท ปี 2566 จำนวน 8,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันกองทุนมอเตอร์เวย์มีสถานะการเงินที่ 14,000 ล้านบาท ถึงปี 2566-67 กองทุนจะมีเงินประมาณ 1,482 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขีดความสามารถที่จะลงทุนได้ ไม่มีปัญหา โดยจะเสนอกระทรวงคมนาคมในเดือนส.ค.นี้ และคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเปิดประมูลในเดือนต.ค.2563 เริ่มก่อสร้างในปี 2564 แล้วเสร็จในปี 2567

ส่วนงานระบบและบำรุงรักษา (O&M) ตั้งแต่ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 25 กม. วงเงินประมาณ 1,850 ล้านบาท จะลงทุนร่วมเอกชน (PPP Gross Cost) ตามแผนจะสรุปผลศึกษา PPP เสนอคมนาคมในเดือนต.ค.2563 เพื่อเสนอคณะกรรมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPP) และครม.ในช่วงเดือนก.พ.2564 และเปิดประมูลได้ในเดือนส.ค.2564

สำหรับมอเตอร์เวย์นครปฐม–ชะอำ ได้ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด PPP แล้ว เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2561 อยู่ระหว่างทบทวนรายงาน EIA และสำรวจที่ดินและทรัพย์สินที่จะเวนคืน และเตรียมเสนอ ครม. โดยรมว.คมนาคมได้ให้ทล. แก้ปัญหาอุปสรรค 7 ข้อ ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเสนอขออนุมัติ เนื่องจากไม่ต้องการให้ซ้ำรอยมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ติดปัญหาเวนคืน ทำให้โครงการล่าช้า โดยโครงการมีวงเงินรวม 79,006 ล้านบาท แบ่งเป็นค่างานโยธา 55,805 ล้านบาท ค่างานระบบ 4,014 ล้านบาท ค่าควบคุมงาน 897 ล้านบาท ค่าเวนคืน 18.290 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัญหาอุปสรรคแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ 1.ช่วงนครปฐม-ปากท่อ มีประเด็นการจัดการน้ำ ปัญหาการแบ่งแยกพื้นที่ ช่วงชุมชนบ้านสะพานดำ และปัญหาด้าน EIA ช่วงผ่านพื้นที่เกษตรกรรม 2.ช่วงปากท่อ-ชะอำ ประเด็นขอย้ายแนวเส้นทาง เพื่อลดผลกระทบชุมชนสองข้างทาง ปัญหาน้ำท่วมตามแนวเส้นทาง ปัญหาการแบ่งแยกพื้นที่ ปัญหา EIA และการจ่ายค่าเวนคืน

“บอร์ด PPP เห็นชอบมากกว่า 2 ปีแล้ว ดังนั้น ในระหว่างที่เคลียร์ปัญหา 7 เรื่องนี้ ในส่วนของข้อมูลต่างๆ จะต้องมีการทบทวนให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปด้วย ขณะที่แผนงานจะเริ่มโครงการในปี 2564 และเปิดให้บริการในปี 2569”

ส่วนถนนสายใหม่เชื่อมต่อสามแยกวังมะนาว ระยะทาง 14.8 กม. วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาทนั้น ทล.จะศึกษาสำรวจและออกแบบรายละเอียดในปี 2564 และจะตั้งงบประมาณก่อสร้างในปี 2566 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น