มหาดไทย เพิ่มระเบียบฯ ห้ามท้องถิ่นทุกระดับ ตั้งงบประมาณอุดหนุน “จัดเลี้ยงอาหาร-นันทนาการ-เบิก/จัดหาครุภัณฑ์-ยานพาหนะและขนส่ง” ให้กับหน่วยราชการอื่น รวมถึงรัฐวิสาหกิจ /วัด มัสยิด/มูลนิธิ/เหล่ากาชาด เว้นแต่จัดหาให้ อปท.เช่นเดียวกัน ส่วนกรณี “อุดหนุนโครงการก่อสร้าง ปรับปรุงหรือซ่อมแซม” หน่วยงานนั้นต้องมีงบฯสมทบ “ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25” ของค่าใช้จ่าย เว้นแต่เป็นนโยบายรัฐ-มหาดไทย พร้อมเพิ่ม “องค์การจัดการน้ำเสีย” เป็นหน่วยงานได้รับเงินรับอุดหนุน
วันนี้ (21 ก.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินอุดหนุนขององคก์รปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ที่ประกาศ ณ วันที่ 9 มิถนุายน พ.ศ.2563 ลงนามโดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (วันที่ 21 ก.ค.2563) ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเงินอุดหนุนของ อปท. เพื่อให้การใช้จ่ายเงินอุดหนุนของ อปท.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 69 และมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 5 และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัตสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 โดยบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศคสั่ง หรือหนังสือสั่งการอื่นใดในส่วนที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
โดยรายละเอียดของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินอุดหนุนฯฉบับนี้ ในข้อ 4 ให้ยกเลิกคำนิยาม “หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน” ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินอุดหนุนของ อปท. พ.ศ.2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน” หมายความว่า (1) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง (2) ส่วนราชการ ได้แก่ ส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (3) รัฐวิสาหกิจ ได้แก่ การไฟฟ้า การประปา และองค์การจัดการน้ำเสีย (4) องค์กรประชาชน ได้แก่ องค์กรซึ่งเป็นการรวมของประชาชนที่จัดตั้งโดยถูกต้องตามกฎหมายระเบียบหรือข้อบังคับของหน่วยงานของรัฐ หรือหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะ และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(5) องค์กรทางศาสนาซึ่งจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของหน่วยงานของรัฐ เช่น วัด มัสยิด (6) องค์กรการกุศล ได้แก่ องค์กรซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อดำเนินงานการกุศลหรือบำเพ็ญ สาธารณประโยชน์ มิใช่การมุ่งแสวงหากำไรที่จัดตั้งตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของหน่วยงานของรัฐ เช่น มูลนิธิ เหล่ากาชาดจังหวัด”
ข้อ 5 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 4 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุน ของ อปท. พ.ศ. 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(1) โครงการที่จะให้เงินอุดหนุนต้องเป็นภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อปท. ผู้ให้เงินอุดหนุนตามกฎหมาย ห้ามมิให้อุดหนุนโครงการที่มีลักษณะเป็นเงินทุนหมุนเวียน และโครงการที่มีลักษณะเป็นการจัดเลี้ยงอาหาร หรือการจัดกิจกรรมนันทนาการ ห้ามมิให้อุดหนุนหน่วยงานอื่นในการจัดหาครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และขนส่ง เว้นแต่จะอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 7 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนของ อปท. พ.ศ. 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 7 กรณี อปท. ตั้งงบประมาณให้เงินอุดหนุนหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนโดยใช้เงินอุดหนุนที่ได้รับในลักษณะที่กำหนดให้อปท. ดำเนินการไว้ เป็นการเฉพาะตามกฎหมายว่าด้วยการกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ให้ อปท. ดำเนินการตามนั้น
ให้หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายโครงการและให้อปท.ดำเนินการตามข้อ 4. โดยถือว่าประมาณการค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการเสนอโครงการขอรับเงินอุดหนุนตามข้อ 8(1) โดยไม่ต้องมีเงินงบประมาณในส่วนของตนเองร่วมสมทบเพื่อใช้จ่าย ในการดำเนินการโครงการที่ขอรับเงินอุดหนุน ทั้งนี้ ไม่นำเงินอุดหนุนดังกล่าวมานับรวมคำนวณ อยู่ในอัตราส่วนตามข้อ 5”
ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 8 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุน ของอปท. พ.ศ. 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 8 หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนจากอปท.จะต้องดำเนินการภายใต้ หลักเกณฑ์ ดังนี้
(1) เสนอโครงการขอรับเงินอุดหนุน ซึ่งต้องเป็นภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน ที่ขอรับเงินอุดหนุนตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือข้อบังคับ โดยแสดงเหตุผลความจำเป็น และรายละเอียดของกิจกรรมในโครงการดังกล่าว
(2) หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน ซึ่งเป็น อปท.หรือส่วนราชการ ยกเว้นกรณีตามข้อ 7 ต้องมีงบประมาณในส่วนของตนเองร่วมสมทบเพื่อใช้จ่ายในการดำเนินการ โครงการขอรับเงินอุดหนุน ในกรณีเป็นโครงการก่อสร้าง ปรับปรุงหรือซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างตามจำแนก งบประมาณ ต้องมีงบประมาณสมทบ “ไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้า” ของค่าใช้จ่ายโครงการ เว้นแต่กรณี เป็นนโยบายรัฐบาลหรือกระทรวงมหาดไทย ส่วนกรณีอื่นๆ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณา ตามสถานะทางการคลัง
(3) หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนต้องดำเนินการตามโครงการเอง โดยไม่สามารถมอบหมาย ให้หน่วยงานอื่นดำเนินการแทนได้”
ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 9 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุน ของ อปท. พ.ศ. 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 9 เมื่องบประมาณรายจ่ายประจำปีหรืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมมีผลใช้บังคับแล้ว ให้ อปท.แจ้งหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนทราบ และห้ามหน่วยงานที่รับเงินอุดหนุน ดำเนินการหรือก่อหนี้ผูกพันก่อนที่จะได้รับเงินอุดหนุนไปพร้อมกัน เว้นแต่กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน หรือการอุดหนุนงบประมาณตามข้อ 7 ก่อนที่ อปท.จะเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน
ให้ อปท.จัดทำบันทึกข้อตกลงกับหัวหน้าหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน เว้นแต่กรณีการขอรับเงินอุดหนุนตามข้อ 6 และข้อ 7 สำหรับองค์กรประชาชน องค์กรทางศาสนา และองค์กรการกุศลให้จัดทำบันทึกข้อตกลงกับผู้แทนของหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนดังกล่าวไม่น้อยกว่าสามคน ทั้งนี้ ตามแบบที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยกำหนด”