xs
xsm
sm
md
lg

รัฐเร่งราชการ เจียดงบที่เหลือทุกแหล่ง จัดประชุม อบรม/สัมมนา กระตุ้นท่องเที่ยว ตจว.พบผู้ว่าฯจังหวัดใหญ่ เสนอตัวหาโรงแรม แบ่งอีเวนต์ กระตุ้น ศก.พื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สลค. เวียนทุกส่วนราชการ เร่งใช้จ่ายงบ 63 จากทุกแหล่ง หลังรัฐบาลประเมินโควิด-19 คลี่คลาย ไฟเขียวจัดประชุม อบรม สัมมนาพื้นที่ต่างจังหวัด ด้านส่วนราชการระดับจังหวัด สั่งส่วนราชการ/สถานศึกษา/อปท. ตรวจสอบงบประมาณแผนปฏิบัติราชการประจําปี ทุกแหล่ง พบ พ่อเมืองจังหวัดใหญ่อีสาน เสนอตัวเป็นผู้จัดหาโรงแรม/สถานที่ หวังกระจายจํานวนข้าราชการ ผู้เข้าร่วมการประชุม อบรม หรือสัมมนา กระตุ้นศรษฐกิจในจังหวัด

วันนี้ (6 ก.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือถึงส่วนราชการ ตามมติ ครม. 30 มิ.ย. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณและให้สามารถจัดการประชุม อบรม และสัมมนา ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศได้ตามความเหมาะสม โดยให้คำถึงถึงสุขภาพอนามัยในการจัดกิจกรรมและความปลอดภัยในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

“ทั้งนี้ ให้รายงานผลการจัดประชุม สัมมนา และการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย”

นอกจากนี้ ยังให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการจ้างงานในกิจกรรม/โครงการต่างๆ ในความรับผิดชอบเพื่อรองรับแรงงานที่ว่างงานจำนวนมาก เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ทั้งนี้ มติ ครม.ดังกล่าว มีการพิจารณาแล้วว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เริ่มคลี่คลายลงและภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ

มีรายงานว่า ในส่วนของจังหวัดในภูมิภาค เช่น จังหวัดขนาดใหญ่ในภาคอีสานแห่งหนึ่ง ได้เร่งรัดให้ส่วนราชการจังหวัด หน่วยงาน สถาบันการศึกษา และอําเภอที่เกี่ยวข้อง ดําเนินงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจําปี และแหล่งงบประมาณอื่นๆ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และปีก่อนที่ยังดําเนินงานและเบิกจ่ายงบประมาณไม่แล้วเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่คณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 แล้วนั้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมการฟื้นฟูกิจการ/กิจกรรม ต่างๆ ในจังหวัดเพื่อสร้างการจ้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน อันจะก่อให้เกิดรายได้ต่อประชาชน ทําให้เกิดกําลังซื้อ และส่งผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่โดยตรงและรวดเร็ว

“ในกรณีหน่วยงานที่มีงบประมาณโครงการเกี่ยวกับการประชุม อบรม หรือสัมมนา จากงบประมาณทุกแหล่ง ให้หน่วยดําเนินโครงการ/กิจกรรม เตรียมและแบ่งจํานวนผู้เข้าร่วมการประชุม อบรม หรือสัมมนา ให้ลดลงคงเหลือครั้งละไม่เกิน 50 คน (รวมเจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง) และวางแนวทางการปฏิบัติ ตามมาตรการของสาธาาณสุข โดยให้รายงานโครงการพร้อมงบประมาณที่กําหนดไว้ให้จังหวัดทราบ โดยจังหวัดได้เสนอตัวเป็นผู้จัดสถานที่ โดยเน้นให้กระจายไปประชุมตามโรงแรมต่างๆ ของจังหวัด เพื่อให้เกิดการกระจายตัวด้านเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง”

ขณะที่ เมื่อต้นเดือน มิ.ย. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นอีกหน่วยงาน ที่เพิ่งมีคำสั่งยกเลิกประกาศเรื่อง งดกิจกรรมการจัดโครงการฝึกอบรมและสัมมนาของหน่วยงานในสังกัด สถ. ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากมีคำสั่งให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) งด เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2563

และคำสั่งใหม่นี้ เปิดทางให้หน่วยงานในสังกัด สามารถจัดโครงการฝึกอบรมและสัมมนา ที่มีระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน ได้ โดยจะต้องถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด สำหรับกำหนดการฝึกอบรมและสัมมนาให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบกำหนด ตามความเหมาะสม เช่น จัดให้มีการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม และใช้ระบบติดตามตัวผ่านแอปพลิเคชัน

“ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวภายในประเทศได้คลี่คลายลง ประกอบกับนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 29 พ.ค. 2563 ได้ผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาเพื่อการฝึกอบรม ระยะสั้นไม่เกิน 15 วัน หรือดำเนินการอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันแล้ว” หนังสือของ สถ.ระบุไปถึงผู้ว่าชการจังหวัดทั่วประเทศ

มีรายงานว่า ในส่วนของ อปท.หลายแห่ง ได้กำหนดให้มีการเบิกจ่ายค่าอบรมสัมมนา จากงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไป เงินอุดหนุนสำรับส่งเสริมศักยภาพในท้องถิ่น เช่น หากอบรมด้านการศึกษา หรือ กีฬา ก็ให้เบิกในส่วนของเงินอุดหนุนสำหรับส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาในท้องถิ่น ในรายการโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากร ในสังกัด อปท.ที่รับผิดชอบ เป็นต้น โดยรวมถึง ค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ และค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง ให้เบิกจ่ายจากต้นสังกัด ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติ ครม. และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง

ที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งการให้จัดทำ พ.ร.บ.การโอนปรับเปลี่ยนงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงินกว่า 8 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วนกรณี โควิด-19 ซึ่งได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน จัดทำแผน ด้วยการตัดงบในโครงการที่ยังไม่จำเป็นหรือเร่งด่วน เช่น งบประชุม อบรม สัมมนา


กำลังโหลดความคิดเห็น