ผู้จัดการรายวัน360-ม็อบรุมขย่มรัฐบาล “กลุ่มนวชีวิน” ปักหลักอดข้าวประท้วงหน้าทำเนียบ ย้ำรัฐบาล “บิ๊กตู่” แก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ก็ออกไปซะ ยันไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง โวยถูกคุมคาม เรียกร้องฟังเสียงประชาชน ด้านตำรวจถกด่วน งัดกฎหมาย 3 ฉบับเอาผิด “พี่ศรี”ย้ำไม่จัดการ ผิด ม. 157 ส.ส.พปชร.ชี้ “ก้าวไกล” หนุนม็อบ เสี่ยงโทษยุบพรรค “แรมโบ้”ถาม “อ้วน-อ๋อย” ให้กำลังใจม็อบ หรือมีนัยยะทางการเมือง “ธนาธร”ปัดอยู่เบื้องหลัง แต่กวักมือชวนคนออกมาไล่รัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนแนวร่วมนวชีวิน New Life Network นำโดย นายภูมิวัฒน์ แดงกสิวิทย์ และ น.ส.ศิรัญญา ทองเชื้อ ได้มาอดข้าวประท้วงการบริหารงานของรัฐบาล พร้อมอ่านแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐบาลให้แก้ไขปัญหา ดังนี้ 1.รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาปากท้องและสวัสดิการที่ถดถอยของทุกคนทันที 2.ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีมาตรการรองรับและช่วยเหลือผู้ที่ตกงานในขณะนี้ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และจะมากขึ้นไปอีก และ 3.ให้มีการทบทวนและตรวจสอบนโยบายการบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยให้ภาคประชาชนและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมีส่วนร่วมในการตรวจสอบครั้งนี้ ถ้าทำไม่ได้ ก็ออกไปซะ พวกเราจะอดตายกันอยู่แล้ว อดตาย เพราะมีรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศแบบพวกคุณ
นายภูมิวัฒน์กล่าวว่า ตนในฐานะประชาชน จะเป็นไม้แรกของกลุ่มนำอดข้าว และจะมีเพื่อนการสลับเวรในช่วงกลางคืน และในช่วง 4 วันแรก จะกินข้าว และน้ำแค่ 1 มื้อ จากนั้นจะดื่มน้ำอย่างเดียว ภายใน 7 วัน หากร่างกายปรับตัวได้ จะอดทั้งข้าวและน้ำต่อไป
ยันไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง
ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน กลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH และกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ นายอานนท์ นำภา ทนายความคนเสื้อแดง นายภาณุพงษ์ จาดนอก หรือไมค์ เยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ได้ทยอยเดินทางมาร่วมตัวชุมนุมทำกิจกรรมทางการเมือง โดยมีการใช้เครื่องขยายเสียง พร้อมตั้งเวทีปราศรัยขนาดเล็ก โดยยืนยันว่า ไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง พร้อมเรียกร้องให้หยุดคุกคาม และขอให้ผู้นำฟังเสียงประชาชน ทั้งผู้เห็นด้วยและเห็นต่าง
ทั้งนี้ มีมวลชนส่วนหนึ่งชูกล้วยและป้ายระบุข้อความว่า “หยุดซื้อเรือ เครื่องบิน เพื่อปากท้องประชาชน” “ทหารคือรั้ว อย่ามั่วเป็นเจ้าของบ้าน” และ “ทหารมีไว้ทำไม”
รอง ผบ.ตร.ประชุมหาทางเอาผิดม็อบ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุมแนวทางพิจารณาการดำเนินคดีกับกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และกลุ่มเยาวชนปลดแอก–Free YOUTH ที่นัดชุมนุมขับไล่รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2563 และที่จ.เชียงใหม่ อุบลราชธานี เพื่อพิจารณาข้อกฎหมาย เพื่อเอาผิดกับผู้ชุมนุม
พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาออกหมายเรียกแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีผู้ใดเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ความผิดอยู่ภายใต้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และ พ.ร.บ.การจราจรทางบก ยืนยันตำรวจปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง ทั้งในส่วนการข่าว การจราจร และการดูแลความสงบเรียบร้อย การชุมนุม ตำรวจไม่ได้ประเมินสถานการณ์ต่ำไป ฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม หากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เนื่องจากอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดีได้
“พี่ศรี”ยันตำรวจต้องจัดการ ไม่ทำผิด ม157
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า การชุมนุมของนักศึกษา มีสิทธิทำได้ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ แต่ปัจจุบันมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ยังไม่ถูกยกเลิก การชุมนุมจึงเป็นการฝ่าฝืน จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องออกหมายเรียกและติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะแกนนำม็อบมาสอบสวนและทำความเห็นทางคดี ถ้าไม่ดำเนินการ ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม ปอ.157 เสียเอง
สส.พปชร.ชี้ก้าวไกลหนุนม็อบเสี่ยงยุบพรรค
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีมีส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค รองเลขาธิการพรรค โฆษกพรรคก้าวไกล เชิญชวนและเข้าร่วมการชุมนุม ดูแลความเรียบร้อยให้แก่ผู้เข้าชุมนุม รับส่งผู้เข้าชุมนุมร่วมกับแกนนำ รวมถึงเตรียมการใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัว โดยแสดงใบรับรองเงินเดือนและเจตนาเป็นบุคคลผู้ขอประกัน ว่า อาจเป็นการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม ม. 45 แห่งพ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ที่บัญญัติห้ามผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน มีโทษยุบพรรคการเมือง ตามมาตรา 92 (3) ดังนั้น ควรหยุดและให้เยาวชนแสดงออกโดยปราศจากการแทรกแซงของพรรคการเมือง เพราะหากมีการยื่นยุบพรรคจริง ก็จะปั่นกระแสสังคมอีกว่าถูกกลั่นแกล้ง ทั้งที่ใจก็รู้อยู่แล้วว่ามีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย
ถามกลับ “อ้วน-อ๋อย” จริงใจหรือแอบแฝง
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.กระทรวงศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ในลักษณะสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้นักศึกษา "กลุ่มเยาวชนปลดแอก" ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยให้สำเร็จ ว่า การโพสต์เฟซบุ๊กแบบนี้ เพื่อต้องการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง หรือมีนัยทางการเมืองอื่นแอบแฝง เพราะแทนที่จะช่วยกันเตือนสติรุ่นน้องให้หันมาร่วมมือช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง กลับมีวิธีคิดที่จะยุยง เช่นนี้ ถือเป็นความคิดที่ใช้ไม่ได้
“ธนาธร”ปัดอยู่เบื้องหลังแต่หนุนสุดตัว
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า ไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมใดๆ ก็ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใย สนับสนุน โดยมองว่านักศึกษาทำกิจกรรมด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ และไม่ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากกลัวว่าไปแล้วจะถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ให้กำลังใจ ซึ่งขอส่งกำลังใจให้กับนักศึกษาและประชาชนที่ต้องการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตย และต่อสู้กับเผด็จการ รวมถึงชวนประชาชนที่ได้ยินเสียงตนขอให้สนับสนุนกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนแนวร่วมนวชีวิน New Life Network นำโดย นายภูมิวัฒน์ แดงกสิวิทย์ และ น.ส.ศิรัญญา ทองเชื้อ ได้มาอดข้าวประท้วงการบริหารงานของรัฐบาล พร้อมอ่านแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐบาลให้แก้ไขปัญหา ดังนี้ 1.รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาปากท้องและสวัสดิการที่ถดถอยของทุกคนทันที 2.ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีมาตรการรองรับและช่วยเหลือผู้ที่ตกงานในขณะนี้ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และจะมากขึ้นไปอีก และ 3.ให้มีการทบทวนและตรวจสอบนโยบายการบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยให้ภาคประชาชนและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมีส่วนร่วมในการตรวจสอบครั้งนี้ ถ้าทำไม่ได้ ก็ออกไปซะ พวกเราจะอดตายกันอยู่แล้ว อดตาย เพราะมีรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศแบบพวกคุณ
นายภูมิวัฒน์กล่าวว่า ตนในฐานะประชาชน จะเป็นไม้แรกของกลุ่มนำอดข้าว และจะมีเพื่อนการสลับเวรในช่วงกลางคืน และในช่วง 4 วันแรก จะกินข้าว และน้ำแค่ 1 มื้อ จากนั้นจะดื่มน้ำอย่างเดียว ภายใน 7 วัน หากร่างกายปรับตัวได้ จะอดทั้งข้าวและน้ำต่อไป
ยันไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง
ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน กลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH และกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ นายอานนท์ นำภา ทนายความคนเสื้อแดง นายภาณุพงษ์ จาดนอก หรือไมค์ เยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ได้ทยอยเดินทางมาร่วมตัวชุมนุมทำกิจกรรมทางการเมือง โดยมีการใช้เครื่องขยายเสียง พร้อมตั้งเวทีปราศรัยขนาดเล็ก โดยยืนยันว่า ไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง พร้อมเรียกร้องให้หยุดคุกคาม และขอให้ผู้นำฟังเสียงประชาชน ทั้งผู้เห็นด้วยและเห็นต่าง
ทั้งนี้ มีมวลชนส่วนหนึ่งชูกล้วยและป้ายระบุข้อความว่า “หยุดซื้อเรือ เครื่องบิน เพื่อปากท้องประชาชน” “ทหารคือรั้ว อย่ามั่วเป็นเจ้าของบ้าน” และ “ทหารมีไว้ทำไม”
รอง ผบ.ตร.ประชุมหาทางเอาผิดม็อบ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุมแนวทางพิจารณาการดำเนินคดีกับกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และกลุ่มเยาวชนปลดแอก–Free YOUTH ที่นัดชุมนุมขับไล่รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2563 และที่จ.เชียงใหม่ อุบลราชธานี เพื่อพิจารณาข้อกฎหมาย เพื่อเอาผิดกับผู้ชุมนุม
พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาออกหมายเรียกแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีผู้ใดเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ความผิดอยู่ภายใต้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และ พ.ร.บ.การจราจรทางบก ยืนยันตำรวจปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง ทั้งในส่วนการข่าว การจราจร และการดูแลความสงบเรียบร้อย การชุมนุม ตำรวจไม่ได้ประเมินสถานการณ์ต่ำไป ฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม หากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เนื่องจากอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดีได้
“พี่ศรี”ยันตำรวจต้องจัดการ ไม่ทำผิด ม157
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า การชุมนุมของนักศึกษา มีสิทธิทำได้ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ แต่ปัจจุบันมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ยังไม่ถูกยกเลิก การชุมนุมจึงเป็นการฝ่าฝืน จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องออกหมายเรียกและติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะแกนนำม็อบมาสอบสวนและทำความเห็นทางคดี ถ้าไม่ดำเนินการ ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม ปอ.157 เสียเอง
สส.พปชร.ชี้ก้าวไกลหนุนม็อบเสี่ยงยุบพรรค
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีมีส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค รองเลขาธิการพรรค โฆษกพรรคก้าวไกล เชิญชวนและเข้าร่วมการชุมนุม ดูแลความเรียบร้อยให้แก่ผู้เข้าชุมนุม รับส่งผู้เข้าชุมนุมร่วมกับแกนนำ รวมถึงเตรียมการใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัว โดยแสดงใบรับรองเงินเดือนและเจตนาเป็นบุคคลผู้ขอประกัน ว่า อาจเป็นการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม ม. 45 แห่งพ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ที่บัญญัติห้ามผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน มีโทษยุบพรรคการเมือง ตามมาตรา 92 (3) ดังนั้น ควรหยุดและให้เยาวชนแสดงออกโดยปราศจากการแทรกแซงของพรรคการเมือง เพราะหากมีการยื่นยุบพรรคจริง ก็จะปั่นกระแสสังคมอีกว่าถูกกลั่นแกล้ง ทั้งที่ใจก็รู้อยู่แล้วว่ามีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย
ถามกลับ “อ้วน-อ๋อย” จริงใจหรือแอบแฝง
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.กระทรวงศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ในลักษณะสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้นักศึกษา "กลุ่มเยาวชนปลดแอก" ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยให้สำเร็จ ว่า การโพสต์เฟซบุ๊กแบบนี้ เพื่อต้องการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง หรือมีนัยทางการเมืองอื่นแอบแฝง เพราะแทนที่จะช่วยกันเตือนสติรุ่นน้องให้หันมาร่วมมือช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง กลับมีวิธีคิดที่จะยุยง เช่นนี้ ถือเป็นความคิดที่ใช้ไม่ได้
“ธนาธร”ปัดอยู่เบื้องหลังแต่หนุนสุดตัว
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า ไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมใดๆ ก็ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใย สนับสนุน โดยมองว่านักศึกษาทำกิจกรรมด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ และไม่ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากกลัวว่าไปแล้วจะถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ให้กำลังใจ ซึ่งขอส่งกำลังใจให้กับนักศึกษาและประชาชนที่ต้องการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตย และต่อสู้กับเผด็จการ รวมถึงชวนประชาชนที่ได้ยินเสียงตนขอให้สนับสนุนกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย
