กกพ.เคาะลดค่าเอฟที งวด ก.ย.-ธ.ค.63 ลง 0.83 ส.ต.ต่อหน่วย ขณะที่แนวโน้มค่าไฟฟ้าปีหน้าลดลงตามราคาก๊าซฯที่ดิ่งลง สะท้อนราคาน้ำมันย้อนหลัง แต่ต้องจับตาตัวแปรสำคัญการใช้ไฟฟ้าจะลดลงมากน้อยเพียงใดตามทิศทาง ศก.
วานนี้ (16 ก.ค.) นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กกพ. มีมติให้ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือน ก.ย.–ธ.ค. 63 ลงอีก 0.83 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงเหลือ 3.63 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) อย่างไรก็ตามปี 64 โดยเฉพาะงวดหน้า (ม.ค.-เม.ย.64) ค่าเอฟที ยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ไทยอ้างอิงตามต้นทุนราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-8 เดือน
นายคมกฤช กล่าวต่อว่า ปัจจัยลบที่จะมีผลให้ค่าไฟจะลดลงมากน้อยหรือไม่ อยู่ที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้า เนื่องจากโควิด-19 จะส่งผลให้อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ติดลบมากน้อยเพียงใด สำหรับประมาณการณ์ จีดีพี ในปี 63 ล่าสุด กกพ.ได้ใช้ตัวเลขประเมินลดลง 8.1% ของธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าการใช้ไฟฟ้าปีนี้ จะลดลงราว 6.5% แต่หากจีดีพี ปีนี้ลดลงมากกว่า 8.1% ก็จะทำให้การใช้ไฟฟ้าที่แท้จริง ลดมากกว่าประมาณการณ์ ก็จะส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้างวดต่อไป (ม.ค.-เม.ย.64 ) มีต้นทุนขยับสูงขึ้นด้วย
สำหรับมาตรการดูแลผลกระทบโควิด-19 ที่ผ่านมา ทั้งการลดค่าไฟฟ้า3% , การลดค่าเก็บค่าไฟฟ้าต่ำสุด การลดค่าไฟฟ้าตามมติ ครม. 21 เม.ย. (ลดค่าไฟฟ้า มี.ค.-พ.ค. เทียบกับฐานการใช้ไฟฟ้า ก.พ.63 ) การลดไฟฟ้าฟรี 90 หน่วย เดิมคาดว่าจะใช้เงินรวม 29,255 ล้านบาท ในขณะที่ เงินบริหารจัดการของ กกพ. ปี 57- 62 มีเงินเพียง 25,279 ล้านบาท ทำให้เดิมประมาณการณ์ว่าจะขาดเงินดูแล 3,976 ล้านบาท
“มีหน่วยงานรัฐได้ทำหนังสือสอบถามว่ายังสามารถช่วยเหลือลดค่าไฟเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ หากเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ทางสำนักงานฯได้ตอบกลับไปว่า หากต้องการลดค่าไฟฟ้า เพื่อดูแลประชาชนเพิ่มเติม ทางภาครัฐก็ต้องจัดสรรงบประมาณมาร่วมดูแลด้วย" นายคมกฤช กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ลาออกจากตำแหน่ง รมว.พลังงาน จะกระทบต่องานด้านพลังงานหรือไม่นั้น นายคมกฤช กล่าวว่า การประกาศรับซื้อไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) เดิมคงจะสามารถเดินหน้าไปได้แต่โครงการใหม่ๆ ที่อยู่ภายใต้แผน พีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงใหม่ เช่น โรงไฟฟ้าชุมชน โรงไฟฟ้าพลังงานลม ฯลฯ ก็ต้องรอให้พีดีพี ดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากครม.ก่อน
“โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ ภายใต้แผนเดิม ขณะนี้ ทางกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกโครงการ ได้ยื่นเสนอโครงการมายังกระทรวงพลังงานแล้ว คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในเร็วๆ นี้" นายคมกฤช กล่าว
วานนี้ (16 ก.ค.) นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กกพ. มีมติให้ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือน ก.ย.–ธ.ค. 63 ลงอีก 0.83 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงเหลือ 3.63 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) อย่างไรก็ตามปี 64 โดยเฉพาะงวดหน้า (ม.ค.-เม.ย.64) ค่าเอฟที ยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ไทยอ้างอิงตามต้นทุนราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-8 เดือน
นายคมกฤช กล่าวต่อว่า ปัจจัยลบที่จะมีผลให้ค่าไฟจะลดลงมากน้อยหรือไม่ อยู่ที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้า เนื่องจากโควิด-19 จะส่งผลให้อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ติดลบมากน้อยเพียงใด สำหรับประมาณการณ์ จีดีพี ในปี 63 ล่าสุด กกพ.ได้ใช้ตัวเลขประเมินลดลง 8.1% ของธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าการใช้ไฟฟ้าปีนี้ จะลดลงราว 6.5% แต่หากจีดีพี ปีนี้ลดลงมากกว่า 8.1% ก็จะทำให้การใช้ไฟฟ้าที่แท้จริง ลดมากกว่าประมาณการณ์ ก็จะส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้างวดต่อไป (ม.ค.-เม.ย.64 ) มีต้นทุนขยับสูงขึ้นด้วย
สำหรับมาตรการดูแลผลกระทบโควิด-19 ที่ผ่านมา ทั้งการลดค่าไฟฟ้า3% , การลดค่าเก็บค่าไฟฟ้าต่ำสุด การลดค่าไฟฟ้าตามมติ ครม. 21 เม.ย. (ลดค่าไฟฟ้า มี.ค.-พ.ค. เทียบกับฐานการใช้ไฟฟ้า ก.พ.63 ) การลดไฟฟ้าฟรี 90 หน่วย เดิมคาดว่าจะใช้เงินรวม 29,255 ล้านบาท ในขณะที่ เงินบริหารจัดการของ กกพ. ปี 57- 62 มีเงินเพียง 25,279 ล้านบาท ทำให้เดิมประมาณการณ์ว่าจะขาดเงินดูแล 3,976 ล้านบาท
“มีหน่วยงานรัฐได้ทำหนังสือสอบถามว่ายังสามารถช่วยเหลือลดค่าไฟเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ หากเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ทางสำนักงานฯได้ตอบกลับไปว่า หากต้องการลดค่าไฟฟ้า เพื่อดูแลประชาชนเพิ่มเติม ทางภาครัฐก็ต้องจัดสรรงบประมาณมาร่วมดูแลด้วย" นายคมกฤช กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ลาออกจากตำแหน่ง รมว.พลังงาน จะกระทบต่องานด้านพลังงานหรือไม่นั้น นายคมกฤช กล่าวว่า การประกาศรับซื้อไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) เดิมคงจะสามารถเดินหน้าไปได้แต่โครงการใหม่ๆ ที่อยู่ภายใต้แผน พีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงใหม่ เช่น โรงไฟฟ้าชุมชน โรงไฟฟ้าพลังงานลม ฯลฯ ก็ต้องรอให้พีดีพี ดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากครม.ก่อน
“โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ ภายใต้แผนเดิม ขณะนี้ ทางกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกโครงการ ได้ยื่นเสนอโครงการมายังกระทรวงพลังงานแล้ว คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในเร็วๆ นี้" นายคมกฤช กล่าว
