“4 กุมาร” เข้าทำเนียบฯแถลงเปิดใจ เปรยโล่งอกลาเก้าอี้ รมต. ย้ำสมัครใจเปิดทางปรับ ครม.ลดแรงกดดันการเมือง “บิ๊กตู่” เคาะปรับ ครม.ไม่เกิน ส.ค.นี้ เซ็งรอคำตอบทาบทาม “คนนอก” เสริมทีมเศรษฐกิจ หึ่ง “สามมิตร” ก่อหวอดค้าน “ไพรินทร์”
วานนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีกลุ่ม 4 กุมาร ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี บนตึกบัญชาการ จากนั้นได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในทำเนียบรัฐบาล
จากนั้น นายอุตตม เปิดเผยว่า ทั้ง 4 คน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผลวันนี้เป็นต้นไป ส่วน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ฝากหนังสือลาออกมากับนายกอบศักดิ์ด้วย ซึ่งภายหลังยื่นหนังสือลาออกยอมรับว่า รู้สึกโล่งอก
ปัดฝากนโยบาย รมว.คลังใหม่
ส่วนที่ถูกมองว่าการลาออกมาจากถูกบีบ นายอุตตม ยืนยันว่า เราเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ออกจากตำแหน่ง เพราะจากเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เห็นอยู่ เราคิดว่าเพื่อเป็นการให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ความคลุมเครือหายไป และเรามีส่วนช่วยลดความกดดันทางการเมือง จึงออกในช่วงนี้ โดยสาเหตุที่ออกเราคิดเอง ไม่ได้มีการกดดัน พร้อมเปิดเผยว่านายกฯ ทราบแล้ว เพราะได้ประสานไปยังเลขาฯ นายกฯ การลาออกวันนี้ถือว่าจากกันด้วยดี
ส่วนในอนาคตยังสามารถทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ได้หรือไม่นั้น ย้ำว่าในอนาคตเราตั้งใจไว้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ เราไม่ปิดกั้น ส่วนกรณีนายสมคิดพูดคุยกับนายกฯ ก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ในนามทั้ง 4 คน ขอขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความไว้วางใจ ให้โอกาส ทำงานเพื่อบ้านเมือง ส่วนตำแหน่งกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ก็ต้องพ้นไป
“ใครจะมารับหน้าที่ต่อ ผมไม่ทราบได้ แต่เชื่อว่านายกฯ จะหาคนเหมาะสมมาทำหน้าที่ ส่วนตัวคงไม่มีอะไรฝากผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ เพราะเศรษฐกิจต้องร่วมมือกัน” นายอุตตม กล่าว
จับตา “สนธิรัตน์” แถลงอีกวันนี้
ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า เรื่องการเมืองจากนี้ รวมถึงการตั้งพรรคการเมือง ยังไม่ได้คิด แต่ยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะช่วยกันคิดเพื่อบ้านเมือง ส่วนบทบาทการเมืองนั้นขอพักก่อน เพราะสิ่งที่กังวลคือสถานการณ์บ้านเมืองที่ต้องการพลังในการทำงาน โดยเราไม่อยากเห็นการเมืองเป็นอุปสรรค เราอยากเป็นส่วนช่วยบ้านเมือง ให้มีกลไกที่ไม่ต้องคลุมเครือ
ส่วนกระแสข่าวรายชื่อผู้ที่จะมาเป็น รมว.พลังงานคนใหม่ นั้น นายสนธิรัตน์กล่าวปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรต่อกรณีที่มีข่าวการแย่งตำแหน่งรมว.พลังงานกัน ขณะที่นายสนธิรัตน์ยังทำหน้าที่นี้อยู่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขอให้ไปรอฟังในเช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) ที่ตนจะไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่ออำลาข้าราชการและส่งมอบงาน รวมถึงจะแถลงข่าวถึงผลงานของกระทรวงพลังงานในช่วง 1 ปี ที่ตนเป็นรมว.พลังงาน ซึ่งถ้าใครมีข้อสงสัยอะไร ก็สามารถสอบถามในวันนั้นได้
เซ็งคนนอกไม่ค่อยตอบรับ
ที่ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังกลุ่มนายสมคิด และกลุ่ม 4 กุมารลาออกจากรัฐมนตรีว่า เพิ่งทราบเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาเหมือนกัน ก็ได้มีการพูดคุยกันมาเป็นระยะอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าแต่ละคนถามเรื่องสุขภาพกันมานานแล้ว ท่าน (นายสมคิด) บอกมานานแล้วว่าพร้อมที่จะทำตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีอะไรกับท่าน ยังเคารพท่านเหมือนเดิม แต่จำเป็นต้องตัดสินใจ เราก็จากกันด้วยดี ไม่มีการให้ร้ายอะไรซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่า ส่งผลให้นายกฯ ต้องปรับคณะรัฐมนตรีเร็วขึ้นหรือไม่ ถือว่ากดดันหรือเปล่า นายกฯ กล่าวว่า ต้องทำให้เร็วเท่าที่ทำได้ และไม่กดดัน ต้องเป็นไปตามขั้นตอน จะต้องไปถามคนที่จะมาเป็นเขาจะมาเป็นหรือเปล่า ต้องไปติดต่อคน เพราะเขาก็ยังไม่ตอบรับกันเท่าไร ยังไม่ตอบกันทันที
เมื่อถามว่าในส่วนของเศรษฐกิจจะมีการนำคนนอกเข้ามาช่วยงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้มีอยู่ แต่ท่านยังไม่ตอบรับ ส่วนที่มีชื่อออกมาก็ไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร
ปรับ ครม.ไม่เกินเดือน ส.ค.
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าใดในการปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เกินเดือน ส.ค.
เมื่อถามว่าในสัดส่วน ครม.จะมีคนนอกด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องมี สัดส่วนของตนก็ต้องมี
เมื่อถามถึงกรณีที่มีชื่อ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม จะเข้ามาเป็น รมว.พลังงานนั้น พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า เขา (นายไพรินทร์) มีปัญหาอะไรหรือเปล่า
เมื่อถามย้ำว่า เห็นพรรคพลังประชารัฐมองว่าน่าจะเอาคนในมากกว่าคนนอก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไปถามหัวหน้าพรรค (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)
“สามมิตร” ขยับจอง รมว.พลังงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังมีชื่อ นายไพรินทร์ เป็นแคนดิเดต รมว.พลังงาน ได้มีการเคลื่อนไหวภายในพรรคจากกลุ่มสามมิตร นำโดย นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคฯ เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวต้องเป็นของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนในพรรค มากกว่า นายไพรินทร์ ซึ่งเป็นคนนอก โดยมีการนัดหมาย ส.ส.ในกลุ่มสามมิตร และส.ส.กลุ่มอื่นบางส่วนรวมพลแสดงพลังเรียกร้องว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ต้องให้ความสำคัญกับคนในพรรคก่อน โดยเฉพาะเก้าอี้ รมว.พลังงาน ต้องเป็นของ นายสุริยะ
แหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า นายอนุชา ได้แจ้งแนวคิดในการเคลื่อนไหวให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค ทราบแล้ว พร้อมระบุด้วยว่า หากไม่ได้รับการตอบรับจะเดินหน้ากดดันจนกว่าจะมีการยุบสภา
ซัดคนปล่อยข่าวไม่ใช่ลูกผู้ชาย
อย่างไรก็ดีในเวลาต่อมา นายอนุชา ได้ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวทันทีว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย ไม่มีการนัดรวมตัว ส.ส.เพื่อแถลงคัดค้านหรือแสดงพลังใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะเป็นผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว
“ข่าวที่ออกมาผมเชื่อว่ามีแกนนำคนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นการชกใต้เข็มขัดที่ไม่มีศักดิ์ศรี และไม่ใช่ลูกผู้ชายถึงได้ปล่อยข่าวนี้ออกมา” นายอนุชากล่าว
“สันติ-ณัฏฐพล” เล็งเสียบ “พลังงาน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคนนอกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำการทาบทามไว้หลายคน ได้แก่ นายไพรินทร์, นายปรีดี ดาวฉาย นายกสมาคมธนาคารไทย, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตผู้บริหารพีทีทีจีซี ในเครือ ปตท., นายกานต์ ตระกูลฮุน อดีตผู้บริหารปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ อดีตผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เพิ่งถูกดึงไปเป็นร่วมแก้ไขปัญหาการบินไทย และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในช่วงเดือย ก.ย.นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พิจารณาวางตัวนายไพรินทร์ เป็น รมว.พลังงาน เพราะไว้วางใจมากกว่าที่จะให้นักการเมืองเข้ามากำกับกระทรวงพลังงานที่ผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีนอกเหนือจาก นายสุริยะ ที่แสดงความต้องการมาเป็น รมว.พลังงาน ยังมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ก็ได้แสดงความจำนงผ่าน พล.อ.ประวิตร เนื่องจากมีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐมากขึ้น จึงต้องการขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่เกรงว่าจะถูกนำไปแทนที่นายสุริยะ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกระทรวงเกรดบี จึงพยายามต่อรองไปเป็น รมว.พลังงาน รวมไปถึง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ถูกโจมตีผลงานรอบ 1 ปีที่ผ่านมาอย่างหนัก ก็สนใจที่จะขยับมาเป็น รมว.พลังงาน ที่น่าจะมีความถนัดมากกว่าด้วย
วานนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีกลุ่ม 4 กุมาร ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี บนตึกบัญชาการ จากนั้นได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในทำเนียบรัฐบาล
จากนั้น นายอุตตม เปิดเผยว่า ทั้ง 4 คน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผลวันนี้เป็นต้นไป ส่วน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ฝากหนังสือลาออกมากับนายกอบศักดิ์ด้วย ซึ่งภายหลังยื่นหนังสือลาออกยอมรับว่า รู้สึกโล่งอก
ปัดฝากนโยบาย รมว.คลังใหม่
ส่วนที่ถูกมองว่าการลาออกมาจากถูกบีบ นายอุตตม ยืนยันว่า เราเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ออกจากตำแหน่ง เพราะจากเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เห็นอยู่ เราคิดว่าเพื่อเป็นการให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ความคลุมเครือหายไป และเรามีส่วนช่วยลดความกดดันทางการเมือง จึงออกในช่วงนี้ โดยสาเหตุที่ออกเราคิดเอง ไม่ได้มีการกดดัน พร้อมเปิดเผยว่านายกฯ ทราบแล้ว เพราะได้ประสานไปยังเลขาฯ นายกฯ การลาออกวันนี้ถือว่าจากกันด้วยดี
ส่วนในอนาคตยังสามารถทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ได้หรือไม่นั้น ย้ำว่าในอนาคตเราตั้งใจไว้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ เราไม่ปิดกั้น ส่วนกรณีนายสมคิดพูดคุยกับนายกฯ ก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ในนามทั้ง 4 คน ขอขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความไว้วางใจ ให้โอกาส ทำงานเพื่อบ้านเมือง ส่วนตำแหน่งกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ก็ต้องพ้นไป
“ใครจะมารับหน้าที่ต่อ ผมไม่ทราบได้ แต่เชื่อว่านายกฯ จะหาคนเหมาะสมมาทำหน้าที่ ส่วนตัวคงไม่มีอะไรฝากผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ เพราะเศรษฐกิจต้องร่วมมือกัน” นายอุตตม กล่าว
จับตา “สนธิรัตน์” แถลงอีกวันนี้
ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า เรื่องการเมืองจากนี้ รวมถึงการตั้งพรรคการเมือง ยังไม่ได้คิด แต่ยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะช่วยกันคิดเพื่อบ้านเมือง ส่วนบทบาทการเมืองนั้นขอพักก่อน เพราะสิ่งที่กังวลคือสถานการณ์บ้านเมืองที่ต้องการพลังในการทำงาน โดยเราไม่อยากเห็นการเมืองเป็นอุปสรรค เราอยากเป็นส่วนช่วยบ้านเมือง ให้มีกลไกที่ไม่ต้องคลุมเครือ
ส่วนกระแสข่าวรายชื่อผู้ที่จะมาเป็น รมว.พลังงานคนใหม่ นั้น นายสนธิรัตน์กล่าวปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรต่อกรณีที่มีข่าวการแย่งตำแหน่งรมว.พลังงานกัน ขณะที่นายสนธิรัตน์ยังทำหน้าที่นี้อยู่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขอให้ไปรอฟังในเช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) ที่ตนจะไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่ออำลาข้าราชการและส่งมอบงาน รวมถึงจะแถลงข่าวถึงผลงานของกระทรวงพลังงานในช่วง 1 ปี ที่ตนเป็นรมว.พลังงาน ซึ่งถ้าใครมีข้อสงสัยอะไร ก็สามารถสอบถามในวันนั้นได้
เซ็งคนนอกไม่ค่อยตอบรับ
ที่ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังกลุ่มนายสมคิด และกลุ่ม 4 กุมารลาออกจากรัฐมนตรีว่า เพิ่งทราบเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาเหมือนกัน ก็ได้มีการพูดคุยกันมาเป็นระยะอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าแต่ละคนถามเรื่องสุขภาพกันมานานแล้ว ท่าน (นายสมคิด) บอกมานานแล้วว่าพร้อมที่จะทำตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีอะไรกับท่าน ยังเคารพท่านเหมือนเดิม แต่จำเป็นต้องตัดสินใจ เราก็จากกันด้วยดี ไม่มีการให้ร้ายอะไรซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่า ส่งผลให้นายกฯ ต้องปรับคณะรัฐมนตรีเร็วขึ้นหรือไม่ ถือว่ากดดันหรือเปล่า นายกฯ กล่าวว่า ต้องทำให้เร็วเท่าที่ทำได้ และไม่กดดัน ต้องเป็นไปตามขั้นตอน จะต้องไปถามคนที่จะมาเป็นเขาจะมาเป็นหรือเปล่า ต้องไปติดต่อคน เพราะเขาก็ยังไม่ตอบรับกันเท่าไร ยังไม่ตอบกันทันที
เมื่อถามว่าในส่วนของเศรษฐกิจจะมีการนำคนนอกเข้ามาช่วยงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้มีอยู่ แต่ท่านยังไม่ตอบรับ ส่วนที่มีชื่อออกมาก็ไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร
ปรับ ครม.ไม่เกินเดือน ส.ค.
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าใดในการปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เกินเดือน ส.ค.
เมื่อถามว่าในสัดส่วน ครม.จะมีคนนอกด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องมี สัดส่วนของตนก็ต้องมี
เมื่อถามถึงกรณีที่มีชื่อ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม จะเข้ามาเป็น รมว.พลังงานนั้น พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า เขา (นายไพรินทร์) มีปัญหาอะไรหรือเปล่า
เมื่อถามย้ำว่า เห็นพรรคพลังประชารัฐมองว่าน่าจะเอาคนในมากกว่าคนนอก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไปถามหัวหน้าพรรค (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)
“สามมิตร” ขยับจอง รมว.พลังงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังมีชื่อ นายไพรินทร์ เป็นแคนดิเดต รมว.พลังงาน ได้มีการเคลื่อนไหวภายในพรรคจากกลุ่มสามมิตร นำโดย นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคฯ เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวต้องเป็นของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนในพรรค มากกว่า นายไพรินทร์ ซึ่งเป็นคนนอก โดยมีการนัดหมาย ส.ส.ในกลุ่มสามมิตร และส.ส.กลุ่มอื่นบางส่วนรวมพลแสดงพลังเรียกร้องว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ต้องให้ความสำคัญกับคนในพรรคก่อน โดยเฉพาะเก้าอี้ รมว.พลังงาน ต้องเป็นของ นายสุริยะ
แหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า นายอนุชา ได้แจ้งแนวคิดในการเคลื่อนไหวให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค ทราบแล้ว พร้อมระบุด้วยว่า หากไม่ได้รับการตอบรับจะเดินหน้ากดดันจนกว่าจะมีการยุบสภา
ซัดคนปล่อยข่าวไม่ใช่ลูกผู้ชาย
อย่างไรก็ดีในเวลาต่อมา นายอนุชา ได้ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวทันทีว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย ไม่มีการนัดรวมตัว ส.ส.เพื่อแถลงคัดค้านหรือแสดงพลังใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะเป็นผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว
“ข่าวที่ออกมาผมเชื่อว่ามีแกนนำคนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นการชกใต้เข็มขัดที่ไม่มีศักดิ์ศรี และไม่ใช่ลูกผู้ชายถึงได้ปล่อยข่าวนี้ออกมา” นายอนุชากล่าว
“สันติ-ณัฏฐพล” เล็งเสียบ “พลังงาน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคนนอกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำการทาบทามไว้หลายคน ได้แก่ นายไพรินทร์, นายปรีดี ดาวฉาย นายกสมาคมธนาคารไทย, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตผู้บริหารพีทีทีจีซี ในเครือ ปตท., นายกานต์ ตระกูลฮุน อดีตผู้บริหารปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ อดีตผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เพิ่งถูกดึงไปเป็นร่วมแก้ไขปัญหาการบินไทย และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในช่วงเดือย ก.ย.นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พิจารณาวางตัวนายไพรินทร์ เป็น รมว.พลังงาน เพราะไว้วางใจมากกว่าที่จะให้นักการเมืองเข้ามากำกับกระทรวงพลังงานที่ผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีนอกเหนือจาก นายสุริยะ ที่แสดงความต้องการมาเป็น รมว.พลังงาน ยังมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ก็ได้แสดงความจำนงผ่าน พล.อ.ประวิตร เนื่องจากมีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐมากขึ้น จึงต้องการขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่เกรงว่าจะถูกนำไปแทนที่นายสุริยะ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกระทรวงเกรดบี จึงพยายามต่อรองไปเป็น รมว.พลังงาน รวมไปถึง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ถูกโจมตีผลงานรอบ 1 ปีที่ผ่านมาอย่างหนัก ก็สนใจที่จะขยับมาเป็น รมว.พลังงาน ที่น่าจะมีความถนัดมากกว่าด้วย