ผู้จัดการรายวัน360- กระทรวงพลังงานเตรียมข้อมูลรอบด้าน เกาะติดการใช้พลังงานหลังโควิด-19 กระทบยอดใช้พลังงานโลก หดตัวสูงสุดรอบ70 ปี ขณะที่ไทยจ่อปรับแผนพลังงานใหม่หมด เล็งปรับพีดีพีฉบับใหม่ไตรมาส 4 ปีนี้นำร่อง ด้านกรมธุรกิจพลังงานรับเลื่อนประกาศ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน 1 ต.ค. 63 ออกไป
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผย ในงานสัมมนาทิศทางพลังงานประเทศไทยหลังวิกฤตโควิด ว่า กระทรวงฯอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดถึงการใช้พลังงานภาพรวมในปี 2563 หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ทำให้การใช้น้ำมันและไฟฟ้าลดลง โดยสำนักงานพลังงานสากล(EIA)ประเมินว่าการใช้พลังงานของโลกปี 2563 จะลดลงมากสุดในรอบ 70 ปี รวมถึงหากมีการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ก็อาจกระทบต่อการใช้ได้อีก ซึ่งเหล่านี้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับปรับแผนพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศระยะยาว20ปีฉบับใหม่(ร่างPDP-2021)ที่อาจจะปรับในไตรมาส4ปีนี้
“ความเสี่ยงของการระบาดโควิด-19รอบใหม่ EIA ประเมินการใช้น้ำมันจะยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติในปีนี้ และการใช้ไฟฟ้าของโลกก็หดต 5% มากสุดตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจ2473 ขณะที่ไทยลดลงหนักเช่นกัน ช่วง 5เดือนแรกของปีนี้ การใช้น้ำมันลดลง 13.4 เปอร์เซ็นต์ ไฟฟ้าลดลง3.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิดเพื่อปรับแผนพลังงานให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทั้งการทบทวนแผน พีดีพี ฉบับใหม่ และอีก4แผนพลังงานหลักของประเทศในไตรมาส1ปี 2564 "นายกุลิศ กล่าว
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ และ โฆษก กฟผ.กล่าวว่า การจะปรับแผนพีดีพีหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลเป็นสำคัญ ซึ่งตามหลักการแล้วการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ก็ต้องทำให้แผนการใช้พลังงานที่กำหนดไว้เปลี่ยนไป ซึ่งรวมไปถึงสำรองไฟฟ้าที่จะสูงขึ้น จึงต้องปรับแผนเพื่อบริหารจัดการโรงไฟฟ้า เช่น การเลื่อนจ่ายไฟฟ้า เป็นต้น
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การบริโภคที่ลดต่ำโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ราคาก๊าซอ่าวไทย/เมียนมาร์ ก็จะมีผลดี ทำให้ราคาก๊าซเฉลี่ยที่จะนำไปสู่เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าลดลงในรอบ4เดือนสุดท้ายของปีนี้
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.ได้ดำเนินการจัดหาและนำเข้าก๊าซLNG ในรูปแบบตลาดจร (Spot) หรือ Spot LNG แล้ว 7 ลำ ส่งมอบช่วงมี.ค.-ก.ค.2563 ราคาเฉลี่ย2.48 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าก๊าซฯราว 2,600ล้านบาท และลดค่าไฟฟ้าได้ราว 2,000ล้านบาท หรือคิดเป็นFt ลดลง1.04 สตางค์
ทั้งนี้ปตท.คาดว่าจะดำเนินการนำเข้าLNGในปีนี้ได้ตามแผนที่วางไว้ 11ลำ คิดเป็นปริมาณLNG ประมาณ 6.6-7.7แสนตัน คาดว่าจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 3,000 ล้านบาท แม้ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในปีนี้จะลดลง 3%จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้ จีดีพีติดลบ โดยปตท.ได้มีการบริหารจัดการก๊าซฯในอ่าวไทย เพื่อไม่ให้เกิดภาระTake or Pay แล้วหันไปนำเข้า Spot LNGแทน โดยปตท.ได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด
น.ส. นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) กล่าวว่า กรมฯได้กำหนดแผนงานที่จะลดชนิดน้ำมันลงในกลุ่มของเบนซิน ตามแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan-2018) โดยเดิมกำหนดที่จะประกาศให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานวันที่ 1 ต.ค. 63 ต้องเลื่อนออกไป ดังนั้น แนวทางดังกล่าว คงจะต้องใช้การดำเนินงานเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างต่ำ 9 เดือนหรือเป็นกลางปี 2564 แทน
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผย ในงานสัมมนาทิศทางพลังงานประเทศไทยหลังวิกฤตโควิด ว่า กระทรวงฯอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดถึงการใช้พลังงานภาพรวมในปี 2563 หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ทำให้การใช้น้ำมันและไฟฟ้าลดลง โดยสำนักงานพลังงานสากล(EIA)ประเมินว่าการใช้พลังงานของโลกปี 2563 จะลดลงมากสุดในรอบ 70 ปี รวมถึงหากมีการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ก็อาจกระทบต่อการใช้ได้อีก ซึ่งเหล่านี้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับปรับแผนพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศระยะยาว20ปีฉบับใหม่(ร่างPDP-2021)ที่อาจจะปรับในไตรมาส4ปีนี้
“ความเสี่ยงของการระบาดโควิด-19รอบใหม่ EIA ประเมินการใช้น้ำมันจะยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติในปีนี้ และการใช้ไฟฟ้าของโลกก็หดต 5% มากสุดตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจ2473 ขณะที่ไทยลดลงหนักเช่นกัน ช่วง 5เดือนแรกของปีนี้ การใช้น้ำมันลดลง 13.4 เปอร์เซ็นต์ ไฟฟ้าลดลง3.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิดเพื่อปรับแผนพลังงานให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทั้งการทบทวนแผน พีดีพี ฉบับใหม่ และอีก4แผนพลังงานหลักของประเทศในไตรมาส1ปี 2564 "นายกุลิศ กล่าว
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ และ โฆษก กฟผ.กล่าวว่า การจะปรับแผนพีดีพีหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลเป็นสำคัญ ซึ่งตามหลักการแล้วการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ก็ต้องทำให้แผนการใช้พลังงานที่กำหนดไว้เปลี่ยนไป ซึ่งรวมไปถึงสำรองไฟฟ้าที่จะสูงขึ้น จึงต้องปรับแผนเพื่อบริหารจัดการโรงไฟฟ้า เช่น การเลื่อนจ่ายไฟฟ้า เป็นต้น
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การบริโภคที่ลดต่ำโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ราคาก๊าซอ่าวไทย/เมียนมาร์ ก็จะมีผลดี ทำให้ราคาก๊าซเฉลี่ยที่จะนำไปสู่เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าลดลงในรอบ4เดือนสุดท้ายของปีนี้
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.ได้ดำเนินการจัดหาและนำเข้าก๊าซLNG ในรูปแบบตลาดจร (Spot) หรือ Spot LNG แล้ว 7 ลำ ส่งมอบช่วงมี.ค.-ก.ค.2563 ราคาเฉลี่ย2.48 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าก๊าซฯราว 2,600ล้านบาท และลดค่าไฟฟ้าได้ราว 2,000ล้านบาท หรือคิดเป็นFt ลดลง1.04 สตางค์
ทั้งนี้ปตท.คาดว่าจะดำเนินการนำเข้าLNGในปีนี้ได้ตามแผนที่วางไว้ 11ลำ คิดเป็นปริมาณLNG ประมาณ 6.6-7.7แสนตัน คาดว่าจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 3,000 ล้านบาท แม้ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในปีนี้จะลดลง 3%จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้ จีดีพีติดลบ โดยปตท.ได้มีการบริหารจัดการก๊าซฯในอ่าวไทย เพื่อไม่ให้เกิดภาระTake or Pay แล้วหันไปนำเข้า Spot LNGแทน โดยปตท.ได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด
น.ส. นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) กล่าวว่า กรมฯได้กำหนดแผนงานที่จะลดชนิดน้ำมันลงในกลุ่มของเบนซิน ตามแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan-2018) โดยเดิมกำหนดที่จะประกาศให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานวันที่ 1 ต.ค. 63 ต้องเลื่อนออกไป ดังนั้น แนวทางดังกล่าว คงจะต้องใช้การดำเนินงานเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างต่ำ 9 เดือนหรือเป็นกลางปี 2564 แทน