แม้จะล้างไพ่กลุ่ม 4 กุมาร อุตตม สาวนายน รมว.คลัง สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม และกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ออกจากกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐได้สำเร็จ
แต่เหมือนยังมีขบวนการตามราวี “เฮียกวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อยู่
ไม่ว่า สมคิด จะพูดอะไรให้สัมภาษณ์อะไร จะมีขบวนการจับผิดและพร้อมตอบโต้จากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในลักษณะก้าวร้าวและรุนแรง
ล่าสุด มีส.ส.ต่อแถวกันออกมาถล่มคำพูดของสมคิด ในระหว่างการมอบนโยบายต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ระบุว่า การที่รัฐบาลสิงคโปร์ยุบสภา เพราะคาดว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่เพื่อเลือกตั้งใหม่ให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการตีความว่า ยุยงเพื่อให้เกิดการยุบสภา
ส.ส.เหล่านี้มองว่า สมคิดกำลังออกอาการจากกรณีที่ 4 กุมาร ถูกโค่นล้มออกจากพรรคพลังประชารัฐ และมีผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรี
สาเหตุแห่งความไม่พอใจสมคิด ทั้งที่สามารถกวาดล้างศิษย์ก้นกุฏิออกจากพรรคพลังประชารัฐได้หมดแล้ว นั่นเพราะมีกระแสข่าวว่า ชื่อของสมคิด และกุมารบางคนจะได้ไปต่อในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2/2
เมื่อชื่อของสมคิด และกุมารบางคนมีสิทธิ์ได้อยู่ต่อในโควตากลาง แม้ไม่มีโควตาพรรคพลังประชารัฐแล้ว สร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ส.บางกลุ่มเพราะแผนการโค่น 4 กุมารออกจากพรรค แท้จริงไม่ใช่เพื่อจะหาม “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียว หากแต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ การถางทางให้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าง เพื่อตัวเองจะได้เข้าไปแทนที่
เมื่อผิดแผน ปฏิบัติการถอนรากถอนโคนสมคิดจึงยังเกิดขึ้นอยู่เป็นเนืองๆ เพราะตราบใดที่สมคิดยังอยู่ นั่นหมายความว่า บรรดาคนที่ต่อแถวจะไม่ได้สมหวังทุกคน ทั้งที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรง ยื่นใบลาออกจากกรรมการบริหารพรรค เพื่อบีบ 4 กุมารได้สำเร็จ
ส่องดูรายชื่อคนรอคิวขึ้นเป็นรัฐมนตรีในปัจจุบัน ได้แก่ “เสี่ยแฮงค์”อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และเลขาธิการพรรค “เสี่ยเฮ้ง”สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเหรัญญิกพรรค
หากสมคิด และกุมารบางคน ที่มีแนวโน้มได้ไปต่อยังอยู่ เท่ากับว่าใน 3 รายนี้จะมีคนอกหักซ้ำสอง ดังนั้นจึงมีขบวนการบางอย่างที่มากกว่าการไล่ออกจากพรรค นั่นคือ การไล่ออกจากรัฐบาล
แล้วใครคือ หัวขบวนไล่สมคิด และ 4 กุมาร หากดูรายชื่อ ส.ส.ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะตะเพิดในช่วงที่ผ่านมา จะพอเห็นเค้าลางอยู่บ้าง
เริ่มตั้งแต่คนแรก สมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง คนแรกที่ออกมาไล่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาแทบไม่เป็นที่รู้จัก แต่อยู่ๆออกมาเกรี้ยวกราดใส่ แบบผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ พบว่าเป็นส.ส.ในกลุ่มของของ “เสี่ยเฮ้ง”สุชาติ นั่นเอง
เช่นเดียวกับ สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส ที่โพสต์เฟซบุ๊กสนับสนุนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหัวหน้าพรรค และต่อว่ากลุ่ม 4 กุมาร ก็พบว่าเป็น ส.ส.ในกลุ่ม “เสี่ยเฮ้ง”อีกคน
คนต่อมา รอบแรกไล่สมคิดกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะไม่พอใจที่พูดว่า คนดีอยู่ไม่ได้ และล่าสุดออกมาไล่สมคิด หาว่ายุยงให้ยุบสภาคือ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขานุการวิปรัฐบาล รายนี้เป็นส.ส.ในกลุ่มของ "ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" รมว.ศึกษาธิการ และสนิทกับ “วิรัช”เพราะทำงานร่วมกันในวิปรัฐบาล ในฐานะประธานกับเลขานุการ
อีกคนที่ไล่สมคิดในวันเดียวกันคือ “เสี่ยอู๊ด”ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ รายนี้พบว่าเป็นเด็กของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ”รมว.อุตสาหกรรม และแกนนำกลุ่มสามมิตร
ส่วนอีกวันต่อมา หลังชัยวุฒิ และภิญโญ ไล่สมคิดแล้ว ยังมี ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะเดียวกัน โดยพบว่า ชัยวัฒน์ เป็น ส.ส.ที่มีความสนิทกับ “เสี่ยเฮ้ง”อีกเช่นเคย
จะเห็นว่าส.ส.ที่ออกมาไล่สมคิด ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของ “เสี่ยเฮ้ง”เกือบทั้งหมด
และหากแยกรายละเอียดลงไป จะพบว่ากระจัดกระจายกันอยู่ทุกภาค ทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ราวกับวางแผน และเซ็ตไว้ให้ ส.ส.ทุกภาคมาด่าสมคิด
เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ส.ส.แต่ละคนที่ออกมาพูดในช่วงนี้ ปกติล้วนแล้วแต่เป็นส.ส.ที่ไม่ค่อยนิยมให้สัมภาษณ์เท่าไหร่ แต่การออกมาพูดอย่างคล่องแคล่ว จึงเหมือนมีคนเขียนบทให้
ว่ากันว่า สาเหตุที่ตัวการใหญ่ไม่กล้าเปิดหน้าให้สัมภาษณ์ แต่ส่งบรรดาส.ส.ในกลุ่มออกมาอาละวาด ด่ากราดสมคิดออกสื่อ นั่นเพราะต้องการถนอมเนื้อถนอมตัว เพราะไม่อยากเปลืองตัว และเสี่ยงที่จะสร้างความไม่พอใจให้กับ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จนถูกกาหัว อดนั่งรัฐมนตรี
แต่ครั้นจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้เพราะตราบใดที่สมคิดยังอยู่ในเส้นทาง เท่ากับเก้าอี้รัฐมนตรีที่จะว่างจะมีไม่เพียงพอ ต่อคนที่ต่อแถวรอขึ้นในการปรับครั้งนี้
ซึ่งในบรรดาของคนมีลุ้น ดูเหมือน“เสี่ยแฮงค์”เองน่าจะอุ่นใจได้มากกว่าคนอื่นๆ เพราะการได้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค ไม่ต่างอะไรกับการการันตีเก้าอี้รัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ แต่ในรายที่เหลือ ยังต้องลุ้นกันตัวโก่ง จึงไม่แปลกหากจะมีความพยายามราวีสมคิดไม่เลิกรา
เพราะถ้าสมคิดและกุมารยังอยู่ รับรองว่ารอบนี้มีคนอกหักซ้ำสองแน่นอน