ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กตู่"ส่งสัญญาณปรับ ครม. รอบนี้ ไม่แตะโควตาพรรคร่วมรัฐบาล ใครอยู่ ใครไป ให้ตกลงกันเอง "วิษณุ" ปฏิเสธข่าวไขก๊อก เชื่อว่าปรับแล้วก็ยังอยู่ จับตา "สุชาติ-อนุชา"ลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี "อนุทิน" ย้ำส.ส.เพิ่ม ไม่ขอเก้าอี้เพิ่ม โล่งใจนายกฯ ไม่แตะ "เฉลิมชัย"เชื่อทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คงไม่มีอะไร "วราวุธ" มั่นใจผลงานตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แหล่งข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้บอกกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแล้วว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร และจะไม่ปรับโควตาในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคใดดูแลกระทรวงใดอยู่ จะยังได้ดูแลเหมือนเดิม เพียงแต่ให้แต่ละพรรคไปพิจารณาเป็นการภายในเองว่าจะปรับเปลี่ยนตัวบุคคลอย่างไร หรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกฯ บอกว่าจะมีการปรับ ครม.ว่าไม่ทราบเรื่อง และไม่เคยได้ยิน แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของนายกฯ ต้องถามนายกฯ คนเดียว ส่วนมีกระแสข่าวว่าตนจะยื่นหนังสือลาออกนั้น ไม่จริง
ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำในแต่ละกลุ่มต่างปฏิเสธ ยังไม่ได้รับสัญญาณ แต่ได้มีการจับตาไปที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธานส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ครั้งแรกพลาดเก้าอี้ หลังมีโผจะไปนั่ง รมว.แรงงาน และนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ที่ชื่อหลุดโผรัฐมนตรีในครั้งแรกเช่นกัน ขณะที่กระทรวงด้านเศรษฐกิจ อย่างกระทรวงพลังงาน ก็ถูกจับตามองเช่นกัน โดยมีกระแสข่าวว่า อาจมีการสลับเก้าอี้กันระหว่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว. พลังงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า การปรับ ครม. เป็นเรื่องของแต่ละพรรคอยู่แล้ว หากถือโอกาสนี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลทำมา ในสมัยที่มีสภาผู้แทนราษฎร และจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นสิ่งสมควร หากถึงเวลาอันควร ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะการเมืองจะไปบอกอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ สำหรับตน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตัดสินใจเร็วอยู่แล้ว และอย่าเอาเรื่อง ส.ส. เพิ่มมาพูดกัน เราเริ่มกันมาแบบนี้ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน เวลาเกิดคลื่นลมไม่สงบ คนที่อยู่ในเรือก็อย่าไปโยกเยกตัวเองให้มากนัก ก็ประคองเรือผ่านไปได้ เดี๋ยวคลื่นลมก็สงบ ถึงเวลาที่ทุกอย่างเรียบร้อยเอง
เมื่อถามว่ารู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวนายกฯ จะไม่แตะรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยไม่สบายใจอยู่แล้ว และหากนายกฯพูดอย่างนั้น ก็สบายใจขึ้น
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึง และนายกฯ ยืนยันแล้วว่าไม่มี อีกทั้งไม่ทราบว่ากระแสข่าวที่ออกมานั้น ออกมาจากไหน แต่ในส่วนของรัฐบาล และปชป. เชื่อว่ายังไม่มีแน่นอน ยังไม่มีการพูดคุย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม และเชื่อว่าคงผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไร
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคไม่ได้วิตกกับข่าวการปรับครม. เพราะมั่นใจว่ารัฐมนตรีของพรรคทั้ง 7 คน ต่างมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และมีความชัดเจน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ
ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณปรับ ครม. ออกมา ก็จะทำงานต่อไป และมั่นใจในผลการทำงาน 7 เดือนที่ผ่านมา ทำงานเต็มที่ แต่ก็ยังเหลืองานอีกเยอะ ถ้ามามัวแต่นั่งกังวลว่าจะปรับ ครม.เมื่อไร จะไปอย่างไร ก็คงไม่ต้องทำงานกัน วันๆ เอาแต่กาวมาทาที่ขาเก้าอี้ ไม่ต้องทำงานกันพอดี
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการปรับครม. ทางพรรคเล็กจำนวน 18 พรรค จะรวมตัวเพื่อขอโควต้าเข้าไปมีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร หรือไม่ ว่า เวลานี้ตัวเลขไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกแล้ว แต่ที่สำคัญกว่า คือ การหาคนมาทำงาน และการบริหารประเทศให้ได้กำไร ถ้าทำได้ ปัญหาบ้านเมืองจะคลายตัวลง ถ้าทำไม่ได้ จะเกิดปัญหาความชอบธรรมในทางการเมืองของรัฐบาล
แหล่งข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้บอกกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแล้วว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร และจะไม่ปรับโควตาในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคใดดูแลกระทรวงใดอยู่ จะยังได้ดูแลเหมือนเดิม เพียงแต่ให้แต่ละพรรคไปพิจารณาเป็นการภายในเองว่าจะปรับเปลี่ยนตัวบุคคลอย่างไร หรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกฯ บอกว่าจะมีการปรับ ครม.ว่าไม่ทราบเรื่อง และไม่เคยได้ยิน แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของนายกฯ ต้องถามนายกฯ คนเดียว ส่วนมีกระแสข่าวว่าตนจะยื่นหนังสือลาออกนั้น ไม่จริง
ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำในแต่ละกลุ่มต่างปฏิเสธ ยังไม่ได้รับสัญญาณ แต่ได้มีการจับตาไปที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธานส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ครั้งแรกพลาดเก้าอี้ หลังมีโผจะไปนั่ง รมว.แรงงาน และนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ที่ชื่อหลุดโผรัฐมนตรีในครั้งแรกเช่นกัน ขณะที่กระทรวงด้านเศรษฐกิจ อย่างกระทรวงพลังงาน ก็ถูกจับตามองเช่นกัน โดยมีกระแสข่าวว่า อาจมีการสลับเก้าอี้กันระหว่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว. พลังงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า การปรับ ครม. เป็นเรื่องของแต่ละพรรคอยู่แล้ว หากถือโอกาสนี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลทำมา ในสมัยที่มีสภาผู้แทนราษฎร และจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นสิ่งสมควร หากถึงเวลาอันควร ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะการเมืองจะไปบอกอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ สำหรับตน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตัดสินใจเร็วอยู่แล้ว และอย่าเอาเรื่อง ส.ส. เพิ่มมาพูดกัน เราเริ่มกันมาแบบนี้ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน เวลาเกิดคลื่นลมไม่สงบ คนที่อยู่ในเรือก็อย่าไปโยกเยกตัวเองให้มากนัก ก็ประคองเรือผ่านไปได้ เดี๋ยวคลื่นลมก็สงบ ถึงเวลาที่ทุกอย่างเรียบร้อยเอง
เมื่อถามว่ารู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวนายกฯ จะไม่แตะรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยไม่สบายใจอยู่แล้ว และหากนายกฯพูดอย่างนั้น ก็สบายใจขึ้น
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึง และนายกฯ ยืนยันแล้วว่าไม่มี อีกทั้งไม่ทราบว่ากระแสข่าวที่ออกมานั้น ออกมาจากไหน แต่ในส่วนของรัฐบาล และปชป. เชื่อว่ายังไม่มีแน่นอน ยังไม่มีการพูดคุย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม และเชื่อว่าคงผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไร
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคไม่ได้วิตกกับข่าวการปรับครม. เพราะมั่นใจว่ารัฐมนตรีของพรรคทั้ง 7 คน ต่างมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และมีความชัดเจน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ
ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณปรับ ครม. ออกมา ก็จะทำงานต่อไป และมั่นใจในผลการทำงาน 7 เดือนที่ผ่านมา ทำงานเต็มที่ แต่ก็ยังเหลืองานอีกเยอะ ถ้ามามัวแต่นั่งกังวลว่าจะปรับ ครม.เมื่อไร จะไปอย่างไร ก็คงไม่ต้องทำงานกัน วันๆ เอาแต่กาวมาทาที่ขาเก้าอี้ ไม่ต้องทำงานกันพอดี
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการปรับครม. ทางพรรคเล็กจำนวน 18 พรรค จะรวมตัวเพื่อขอโควต้าเข้าไปมีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร หรือไม่ ว่า เวลานี้ตัวเลขไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกแล้ว แต่ที่สำคัญกว่า คือ การหาคนมาทำงาน และการบริหารประเทศให้ได้กำไร ถ้าทำได้ ปัญหาบ้านเมืองจะคลายตัวลง ถ้าทำไม่ได้ จะเกิดปัญหาความชอบธรรมในทางการเมืองของรัฐบาล