xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์”ขยายวงเงินอุ้มLPG ดูแลค่าครองชีพประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-"สนธิรัตน์"ถก กบน. เคาะขยายวงเงินอุ้มราคาแอลพีจีเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท จากเดิมให้ติดลบได้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท หลังราคาตลาดโลกขยับสูงขึ้น เพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชนในช่วงโควิด-19 และคงเก็บอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเท่าเดิม ช่วยเรื่องราคา พร้อมโต้กรณีใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานแลกเก้าอี้ ลั่นทุกโครงการ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ล่าสุดมียื่นเสนอเบื้องต้นวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า จากแนวโน้มราคาแอลพีจีตลาดโลก (CP) เดือนพ.ค.2563 ที่ขยับราคามาสู่ระดับ 450 เหรียญสหรัฐต่อตัน และมีแนวโน้มที่จะผันผวนอยู่ในระดับสูง ที่ประชุมจึงเห็นชอบขยายเพดานวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีให้สามารถติดลบจากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้เป็นกลไกคงมาตรการดูแลราคาแอลพีจีให้กับประชาชน เพื่อลดค่าครองชีพในช่วงผลกระทบโควิด-19 ได้ต่อไป

ก่อนหน้านี้ กบน. ได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือราคาแอลพีจี โดยลดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นลงจาก 17.1795 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เหลือ 14.3758 บาทต่อกก. ทำให้ราคาขายปลีกแอลพีจีถัง 15 กก.ลดลง 45 บาทต่อถังเหลือ 318 บาทเป็นเวลา 3 เดือน เริ่ม 23 มี.ค.-23 มิ.ย.2563 โดยให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีติดลบไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บัญชีแอลพีจี วันที่ 17 พ.ค.2563 ติดลบ 6,182 ล้านบาทแล้ว ส่วนมาตรการที่จะครบ 23 มิ.ย.2563 จะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรอีกครั้งหนึ่ง โดยจะขอดูสถานการณ์ราคาเป็นสำคัญ

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ปัจจุบันเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิอยู่ที่ 35,176 ล้านบาท เป็นบัญชีน้ำมันฯ 41,358 ล้านบาท เมื่อขยายวงเงินติดลบเพิ่มเป็นไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ดังนั้น จะมีการโอนเงินในส่วนของบัญชีน้ำมันสำเร็จรูปไปใช้ในบัญชีแอลพีจี และให้โอนคืนในภายหลัง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)จัดทำรายรับ-รายจ่าย และฐานะกองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจี เพื่อรายงาน กบน. ให้ทราบทุกเดือน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาราคาน้ำมันที่พบว่ายังคงไม่สูงมากนักเฉลี่ย 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพประชาชนในส่วนของราคาน้ำมัน กบน. จึงเห็นชอบคงอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ดังเดิมตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2563 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งการไม่เปลี่ยนแปลงอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้สภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ส่วนของบัญชีน้ำมันจะติดลบประมาณเดือนละ 37 ล้านบาท

"มติ กบน. เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2563 ได้ลดอัตรากองทุนน้ำมันทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 เก็บเพิ่ม 25 สตางค์ต่อลิตร B20 ลดเก็บ 25 สตางค์ต่อลิตร มีผล 2 เดือน 23 มี.ค.-22 พ.ค.2563 ที่ประชุมได้ให้คงมาตรการนี้ต่อไปจนกว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะเปลี่ยนไปจากสมมติฐานที่ตั้งไว้"นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการนำเงินกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมาแลกกับเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังงานประชารัฐ โดยเสนองบตัวเลข 8 หลักให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้ยกมือสนับสนุน ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะทุกขั้นตอนการอนุมัติ ได้กำหนดระบบกลไกการตรวจสอบที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น หากเทียบกับอดีต ตนจึงไม่ได้กังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด

“การอนุมัติโครงการ จะมีการนำมาเปิดเผยในเว็บไซต์ และโครงการไหนในอดีตมีปัญหาและปัจจุบันที่ถูกร้องเรียน ผมก็ขึ้นแบล็กลิสต์ไม่ให้ขออีก ถามว่าอดีตเหล่านี้ เคยเปิดเผยหรือไม่ และต่อไป หากพบโครงการใดมีปัญหาก็สามารถร้องเรียนได้"นายสนธิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ การจัดสรรงบกองทุนอนุรักษ์ฯ ปีงบ 2563 วงเงิน 5,600 ล้านบาท ล่าสุดสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้เปิดให้ยื่นข้อเสนอตั้งแต่ 8-18 พ.ค.2563 ซึ่งเบื้องต้นมีผู้มายื่นรวมวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท ทั้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และรูปแบบคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งงบทั้งหมดมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก หลังผลกระทบจากโควิด-19 เป็นสำคัญ และยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด มาดำเนินการ ซึ่งตนเป็นอนุกรรมการกองทุนฯ ที่เหลือเป็นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการที่มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน คณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการ มีนายพรายพล คุ้มทรัพย์ เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการบริหารสำนักงาน มีนายสกล วรัญญวัฒนา เป็นประธาน

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขั้นตอนต่างๆ ตนเองไม่สามารถไปแทรกแซงและมีอำนาจในการอนุมัติได้ เพราะการอนุมัติ สุดท้ายจะต้องเสนอผ่านคณะกรรมการกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์ฯ (บอร์ดกองทุนอนุรักษ์) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเห็นชอบ และโครงการที่อนุมัติก็ต้องขึ้นว็บไซต์ ซึ่งต้องชี้แจงได้

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องตั้งเกณฑ์ให้สอดรับกับเศรษฐกิจฐานรากและการจ้างงาน ซึ่งวงเงินที่ขอมาถึง 20,000 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณที่วางไว้ที่มีเพียง 5,600 ล้านบาท หากยึดเกณฑ์ที่กำหนด มั่นใจว่าจะคัดเลือกและนำเสนอบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ อนุมัติกลางมิ.ย.2563 เพื่อให้โครงการต่างๆ ขับเคลื่อนได้ตามแผนที่กำหนดที่จะต้องเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.2563


กำลังโหลดความคิดเห็น