"สนธิรัตน์" นั่งหัวโต๊ะถก กบน.มีมติขยายเพดานวงเงินบัญชีแอลพีจีติดลบจากเดิม 7,000 ล้านบาทเป็นไม่เกิน 10,000 ล้านบาท หวังใช้เป็นกลไกดูแลราคาแอลพีจีลดค่าครองชีพประชาชนหลังราคาโลกพุ่ง โดยให้โอนบัญชีน้ำมันฯ มาใช้ก่อนค่อยคืนภายหลัง พร้อมคงมาตรการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า จากแนวโน้มราคาแอลพีจีตลาดโลก (CP) เดือน พ.ค.ที่ขยับราคามาสู่ระดับ 450 เหรียญสหรัฐต่อตัน และมีแนวโน้มที่จะผันผวนอยู่ในระดับสูง ที่ประชุมจึงเห็นชอบขยายเพดานวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีให้สามารถติดลบจากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาทเป็นไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้เป็นกลไกคงมาตรการดูแลราคาแอลพีจีให้แก่ประชาชนเพื่อลดค่าครองชีพในช่วงผลกระทบโควิด-19
"ก่อนหน้านี้ กบน.ได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือราคาแอลพีจีโดยลดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นลงจาก 17.1795 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เหลือ 14.3758 บาทต่อ กก. ทำให้ราคาขายปลีกแอลพีจีถัง 15 กก. ลดลง 45 บาทต่อถังเหลือ 318 บาทเป็นเวลา 3 เดือน เริ่ม 23 มี.ค.-23 มิ.ย. โดยให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีติดลบไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บัญชีแอลพีจี วันที่ 17 พ.ค.ติดลบ 6,182 ล้านบาทแล้ว ส่วนมาตรการที่จะครบ 23 มิ.ย.จะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรอีกครั้งหนึ่ง โดยจะขอดูสถานการณ์ราคาเป็นสำคัญ" นายสนธิรัตน์กล่าว
ปัจจุบันเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิอยู่ที่ 35,176 ล้านบาท เป็นบัญชีน้ำมันฯ 41,358 ล้านบาท เมื่อขยายวงเงินติดลบเพิ่มเป็นไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ดังนั้นจะมีการโอนเงินในส่วนของบัญชีน้ำมันสำเร็จรูปไปใช้ในบัญชีแอลพีจี และให้โอนคืนในภายหลัง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) จัดทำรายรับ-รายจ่ายและฐานะกองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีเพื่อรายงาน กบน.ให้ทราบทุกเดือน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาราคาน้ำมันที่พบว่ายังคงไม่สูงมากนัก เฉลี่ย 40-50 เหรียญต่อบาร์เรล ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพประชาชนในส่วนของราคาน้ำมัน กบน.จึงเห็นชอบคงอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ดังเดิมตามมติ กบน.เมื่อ 23 มี.ค. 63 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งการไม่เปลี่ยนแปลงอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้สภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ส่วนของบัญชีน้ำมันจะติดลบประมาณเดือนละ 37 ล้านบาท
"กบน.เมื่อ 23 มี.ค. ได้ลดอัตรากองทุนน้ำมันทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 เก็บเพิ่ม 25 สตางค์ต่อลิตร B20 ลดเก็บ 25 สตางค์ต่อลิตรที่มีผล 2 เดือน 23 มี.ค.-22 พ.ค. ที่ประชุมได้ให้คงมาตรการนี้ต่อไปจนกว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะเปลี่ยนไปจากสมมติฐานที่ตั้งไว้" นายสนธิรัตน์กล่าว