รมว.พลังงาน แถลงละเอียดยิบ เกณฑ์อนุมัติเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ไม่เน้นโครงการซื้อแล้วจบ แต่เน้นจ้างงานพัฒนา ศก.ฐานราก ยันโปร่งใส การเมืองแทรกแซงไม่ได้ เผยกลาง มิ.ย.อนุมัติ พร้อมเดินทางตรวจสอบเอง ไร้กังวลต่อการดำรงตำแหน่ง
วันนี้ (18 พ.ค.) มื่อเวลา 11.15 น. ที่กระทรวงพลังงาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน แถลงข่าวแนวทางการบริหารกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ปี 2563 ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับโครงการในกองทุนฯ โดยปีนี้กองทุนอนุรักษ์พลังงานเปิดรับหน่วยงาน 2 ประเภท คือ 1. หน่วยงานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา เอกชนที่ไม่แสวงหากำไร 2. คณะกรรมการจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ในโครงการพลังงานชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก นอกจากนี้หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติของกองทุน ยังแตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา โดยไม่เน้นโครงการซื้อของแล้วจบ แต่เน้นไปที่การจ้างงาน พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิต
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า กองทุนอนุรักษ์พลังงานเปิดรับโครงการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น โดยเมื่อปิดรับโครงการแล้ว อนุกรรมการกลั่นกรองจะพิจารณาโครงการที่เข้าเกณฑ์ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการกองทุนที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เกณฑ์การพิจารณาปีนี้ยังมี 4 อนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1. อนุกรรมการกองทุนที่ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ดำเนินการเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ นโยบายของกองทุน ไม่เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา 2. คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน 3. อนุกรรมการติดตามประเมินผล 4. อนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานกองทุนฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จะนำโครงการซึ่งผ่านการอนุมัติเปิดเผยสู่สาธารณะผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนติดตาม ตรวจสอบได้
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ปี 2563 นี้มีวงเงินในกองทุน 5,600 ล้านบาท ในการพิจารณากองทุนโครงการนี้ แม้แต่ รมว.พลังงาน ยังไม่มีอำนาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการอนุมัติโครงการ เพราะเมื่อผ่านขั้นตอนการกลั่นกรองก็จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนที่มีนายสมคิดเป็นประธาน ยืนยันว่า รมว.พลังงานไม่อำนาจสั่งการปลัดกระทรวงฯหรือคณะกรรมการชุดใดๆ ได้ อีกทั้งอนุกรรมการชุดต่างๆ ยังไม่สามารถทำงานตามอำเภอใจได้เพราะมีเกณฑ์การกำหนดที่ชัดเจน
“ผมยืนยันว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้อำนาจทางการเมืองในเข้ายุ่งเกี่ยวกับกองทุนนี้ ถ้ามีเบาะแสขอให้ร้องเรียน ผมจะดำเนินการทันที จะไม่เปิดโอกาสให้อำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซงการพิจารณาของโครงการ ยืนยันว่าต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้เกิดประโยชน์ ผมมั่นใจว่ากระบวนการพิจารณาของโครงการตรวจสอบได้ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชนได้จริง แนวทางการพิจารณาของโครงการนี้ยังได้ปิดจุดอ่อนของการแทรกแซงไว้หมดแล้ว” นายสนธิรัตน์กล่าว
รมว.พลังงานกล่าวว่า กลางเดือนมิถุนายนจะสามารถอนุมัติโครงการได้ ก่อนจะเริ่มโครงการในเดือนกรกฎาคม โดยหลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการของปีนี้ ได้ตัดวงจรการวิ่งเต้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยผลการพิจารณา ติดตามประเมินผล ฯลฯ ซึ่งแตกจากเกณฑ์ของปีที่ผ่านๆ มาอย่างมาก นอกจากนี้ เมื่อเริ่มดำเนินโครงการตนจะเดินทางไปตรวจสอบติดตามด้วยตัวเอง เพราะตั้งแต่รับตำแหน่ง รมว.พลังงานมาก็ตั้งใจจะปฏิรูปการทำงานให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาต่างๆ อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลว่าโครงการนี้จะเป็นปัญหาต่อการดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน หลังจากเจอการปล่อยข่าวให้ร้าย