xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” ท้าตรวจสอบงบกองทุนอนุรักษ์ฯ ลั่นโปร่งใสไม่หวั่นเก้าอี้สั่นคลอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิรัตน์” แจงยิบขั้นตอนการยื่นของบกองทุนอนุรักษ์พลังงานปี 2563 วงเงิน 5,600 ล้านบาทที่เน้นโครงการกระตุ้น ศก.ฐานรากเพื่อรับมือผลกระทบโควิด-19 ทุกขั้นตอนโปร่งใส ท้าให้ตรวจสอบ ลั่นคุมเข้มกว่าอดีตมาก ไม่หวั่นเก้าอี้สะเทือนหลังกระแสข่าวโจมตีดึงเงินอุ้มเก้าอี้เลขาฯ พรรค พปชร.

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวการนำเงินกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมาแลกกับเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังงานประชารัฐ โดยเสนองบตัวเลข 8 หลักให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้ยกมือสนับสนุน ว่า เรื่องดังกล่าวยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะทุกขั้นตอนการอนุมัติได้กำหนดระบบกลไกการตรวจสอบที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นหากเทียบกับอดีต ดังนั้นตนจึงไม่ได้กังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด

"ผมไม่มีอะไรไม่โปร่งใส จึงไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบตำแหน่งรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค โดยยืนยันว่าผมได้วางกระบวนการในการพิจารณาและคัดเลือกและรวมไปถึงการติดตามหลังอนุมัติ และที่สำคัญหลังการอนุมัติโครงการจะมีการนำมาเปิดเผยในเว็บไซต์ และโครงการไหนในอดีตมีปัญหาและปัจจุบันที่ถูกร้องเรียนผมก็ขึ้นแบล็กลิสต์ไม่ให้ขออีก ถามว่าอดีตเหล่านี้เคยเปิดเผยหรือไม่ ผมพยายามปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นในอดีตที่เกิดขึ้น หากพบโครงการใดมีปัญหาก็สามารถร้องเรียนได้" นายสนธิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ การจัดสรรงบกองทุนอนุรักษ์ฯ ปีงบ 2563 วงเงิน 5,600 ล้านบาทที่ล่าสุดสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้เปิดให้ยื่นข้อเสนอตั้งแต่ 8-18 พ.ค.นี้ เบื้องต้นมีผู้มายื่นรวมวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยผู้ที่จะเสนอโครงการเพื่อขอสนับสนุนวงเงินดังกล่าวมี 2 ประเภท ได้แก่ 1. เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา และปีนี้ได้เพิ่มประเภท 2. รูปแบบคณะกรรมการจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีพลังงานจังหวัด เกษตรจังหวัด และจะรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่เป็นรูปแบบสถานีเครือข่ายพลังงาน เป็นต้น ซึ่งงบทั้งหมดมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากหลังผลกระทบจากโควิด-19 เป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการดำเนินงานได้กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการ 4 ชุด ที่ประกอบด้วย 1. อนุกรรมการกองทุนฯ ที่มี รมว.พลังงานเป็นประธาน 2. คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการที่มีปลัดพลังงานเป็นประธาน 3. คณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการที่มีนายพรายพล คุ้มทรัพย์ เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานที่มีนายสกล วรัญญวัฒนา เป็นประธาน โดยขั้นตอนต่างๆ นั้นตนไม่สามารถไปแทรกแซงและมีอำนาจในการอนุมัติได้ เพราะขั้นตอนการอนุมัติสุดท้ายจะต้องเสนอผ่านคณะกรรมการกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์ฯ (บอร์ดกองทุนอนุรักษ์) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเห็นชอบ

"ผมมีหน้าที่แค่กำหนดยุทธศาสตร์ นโยบายให้สอดคล้องกับบอร์ดชุดใหญ่เท่านั้น ไม่มีอำนาจโดยตรงจะไปอนุมัติ และโครงการที่ได้อนุมัติก็จะต้องขึ้นเว็บใซต์ให้ตรวจสอบ แต่นี่ยังไม่ได้เริ่มอะไรเลย ส่วนหลังจากวันที่ 18 พ.ค.ที่ปิดยื่นรับข้อเสนอต่อไปก็เป็นขั้นตอนของคณะทำงานปลัดไปพิจารณาให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่วางไว้ที่เน้นแผนเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานทดแทนที่จะมาช่วยกระตุ้น ศก.ฐานรากได้ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ" นายสนธิรัตน์กล่าว

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องตั้งเกณฑ์ให้สอดรับกับเศรษฐกิจฐานรากและการจ้างงาน ซึ่งวงเงินที่ขอมาถึง 20,000 ล้านบาทสูงกว่างบประมาณที่วางไว้ที่มีเพียง 5,600 ล้านบาทนั้น หากยึดเกณฑ์ที่กำหนดมั่นใจว่าจะคัดเลือกและนำเสนอบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ อนุมัติกลาง มิ.ย.นี้เพื่อให้โครงการต่างๆ ขับเคลื่อนได้ตามแผนที่กำหนดที่จะต้องเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. 63
กำลังโหลดความคิดเห็น