xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กป้อม"โยนตร.สอบเลเซอร์ - "โรม"แถไม่มีอาคารเสียหาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กป้อม" ยันตำรวจตรวจสอบยิงเลเซอร์การเมืองเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เชื่อโควิดจบการเมืองไม่วุ่น "แรมโบ้"แฉเบื้องหลังชุมนุม 53 "มีผู้สั่งการ" ตบรางวัลหลังเสร็จงานตั้งเป็น "ส.ส.-รมต." "รังสิมันต์" ข้องใจ ฝ่ายมั่นคงละเมิดสิทธิ์-ข่มขู่ ถามยิงเลเซอร์ เสียหายตรงไหน ย้ำ "ก้าวไกล"ไม่ได้ถูก "ก้าวหน้า"ครอบงำ แค่อุดมการณ์เดียวกัน ด้าน"หมอวรงค์" โพสต์เฉลยความจริงในเหตุการณ์ชุมนุมของนปช. 53 ที่คณะก้าวหน้า ต้องการตามหา

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบ ยิงเลเซอร์ "ตามหาความจริง" ว่า เขายอมรับแล้ว ซึ่งต้องดูอีกครั้งว่ามีใครบ้าง ตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่ และต้องดูว่าเข้ากฎหมายหรือเปล่า

เมื่อถามว่าพฤติกรรมดังกล่าวคล้ายๆ กับการเคลื่อนไหวในต่างประเทศ จะมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าอันนี้ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าการออกมายอมรับของคณะก้าวหน้า จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่มากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ต้องไปถามเขาดู

เมื่อถามถึงกรณี คณะก้าวหน้า เตรียมจัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ต่างๆ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ต้องเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ในการดูแล ซึ่งเราดูแลตลอดอยู่แล้ว ส่วนกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิด ยุยง ปลุกปั่น หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ ต้องเป็นเจ้าที่กฎหมาย และไม่รู้จะเข้าข่ายปลุกปั่นหรือไม่ เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการกันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่า การตรวจสอบจะไม่เงียบหายและเป็นเหตุให้มีการกระทำซ้ำอีก หากไม่มีการชี้ว่าทำได้ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าสถานการณ์โควิด-19 เบาลง ความวุ่นวายทางการเมืองจะกลับมาอีก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีหรอก

'แรมโบ้'ลากไส้คนสั่งการชุมนุมปี 53

ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงการยิงเลเซอร์ ตามหาความจริง เหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 53 ว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตแกนนำที่อยู่ในเหตุการณ์ชุมนุมคนหนึ่ง อยากจะเตือนสติ นายจตุพร ในฐานะเพื่อนรักกันว่า บทเรียนในอดีตพวกเราเคยตกเป็นเครื่องมือของใครบางคน บางกลุ่ม พวกเราต้องยอมรับความจริงกันว่า พวกเรามีจุดยืนที่เรียกว่าทฤษฎี 2 ขา คือ ขาที่ 1 เรามีจุดยืนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ขาที่ 2 เรามีจุดยืนเพื่อผลประโยชน์ตนเอง ในการรับใช้พรรคการเมือง เพราะพวกเราเป็นสมาชิกพรรคการเมืองกันเกือบทุกคน และเรายังมีผู้บังคับบัญชาคอยสั่งการอยู่เบื้องหลังในการชุมนุม พอเลือกตั้งเสร็จทุกคนก็ได้รับรางวัลสมนาคุณความดีความชอบ แกนนำทุกคนมีตำแหน่งทางการเมืองกันถ้วนหน้า บางคนให้มีตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ บางคนได้ลูก หรือภรรยามาเป็น ส.ส.ในสภา แกนนำบางคนได้เป็นถึงรัฐมนตรีในกระทรวงใหญ่ๆ สองสามกระทรวงด้วยซ้ำไป ที่ผมต้องพูดเพราะต้องทบทวนบทบาทความคิดตนเองว่าเราสู้เพื่อประชาชน สู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง หรือสู้เพื่อพรรคการเมือง หรือสู้เพื่อใครบางคน หรือสู้เพื่ออยากมีอยากได้ ตำแหน่งของตัวเราเอง

"รังสิมันต์ โรม"แถยิงเลเซอร์ติดไม่เสียหาย

ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีฝ่ายความมั่นคง ล่ามือยิงเลเซอร์ข้อความ "ตามหาความจริง" เตรียมตั้งข้อหาปลุกปั่นว่า ที่ยิงเลเซอร์ มีส่วนไหนที่ไปสร้างความเสียหายต่อตัวอาคาร และสถานที่หรือไม่ เป็นการสร้างความแตกแยกและกระทบอะไรกับความมั่นคงของชาติ หากว่ากันตามกฎหมายไม่มีข้อหาใดที่จะมาดำเนินคดีได้ ตนสงสัยว่าการออกมาแบบนี้ของฝ่ายความมั่นคง เหมือนเป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพและข่มขู่ประชาชนหรือไม่ เพราะข้อความนั้นไม่ได้มีอะไรที่กระทบกับคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ หากจะกระทบคงเป็นกลุ่มบุคคลที่กระทำการในเหตุการณ์นั้น ส่วนตนคิดว่า ข้อความที่ยิงเลเซอร์คือการอยากค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเดือน พ.ค.53 ฝ่ายความมั่นคงอย่าไปกังวลกับเรื่องนี้มากเกินไป

ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงว่า พรรคก้าวไกล เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และถูกคณะก้าวหน้าครอบงำนั้น ขอย้ำว่าส.ส.ของพรรคก้าวไกล และสมาชิกของคณะก้าวหน้า คืออดีตสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกยุบไปแล้ว ไม่แปลกที่เราจะมีความเห็นที่ตรงกัน พร้อมยืนยันว่า เราไม่ได้ถูกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะก้าวหน้า ครอบงำ แต่อุดมการณ์และแนวทางการทำงานของเราตรงกัน เพราะเรามาจากอดีตอนาคตใหม่ เหมือนกัน

"หมอวรงค์"เฉลยความจริงเหตุการณ์ปี 53

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ความจริงที่ตามหานี่คือความจริงที่คณะก้าวไกลต้องการตามหา โดยเฉพาะเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในปี 2553 สามารถหาอ่านฉบับเต็มจากรายงานของ คอป.

1. การปราศรัยมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ชี้นำ หรือส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรง เช่น "พี่น้องไม่ต้องเตรียมอะไรมาก ขวดแก้วคนละใบ มาเติมน้ำมันเอาข้างหน้า บรรจุให้ได้ 75 ซีซี ถึง 1 ลิตร รับรองว่ากทม.เป็นทะเลเพลิงอย่างแน่นอน" ..."เผาไปเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง" นอกจากนี้การชุมนุมไม่ได้เป็นการชุมนุมอย่างสงบ แต่มีกองกำลังชุดดำติดอาวุธ

2.วันที่ 10 เม.ย. ที่สี่แยกคอกวัว และหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา มีผู้เสียชีวิต 26 คน เป็นพลเรือน 21 คนรวมสื่อต่างประเทศ 1 คน ทหาร 5 คน บาดเจ็บรวมกว่า 864 คน ในจำนวนนี้เป็นทหารกว่า 300 คน พบหลักฐานว่ามีชายชุดดำใช้อาวุธสงครามปฏิบัติการเป็นเหตุให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิตด้วย

3. มีหลักฐานว่าเสียชีวิตเพราะชายชุดดำ 9 คน แยกเป็นทหาร 6 คน ตำรวจ 2 คน และประชาชนกลุ่มคนรักสีลม 1 คน

4.การปฏิบัติการของชายชุดดำ ได้รับการสนับสนุนจากการ์ด นปช. บางคน

5. วันที่ 29 เม.ย 53 มีการนำคนเสื้อแดงบุกเข้าตรวจค้นพื้นที่ รพ.จุฬาฯ อ้างเป็นแหล่งซ่องสุมทหาร ขณะที่แกนนำเสื้อแดงอ้างการบุกค้น รพ.ไม่ใช่มติของแกนนำ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของคนนำพา

6.ไฟไหม้จากห้าง CEN แล้วลามไปยังห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งในระหว่างไฟไหม้ นั้นมีผู้ชุมนุมอยู่ และทหารยังไม่ได้เข้าไป

นี่คือความจริงบางส่วนของคณะกรรมการ คอป. ที่ได้รับการรับรองให้ทำหน้าที่ จากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อแสวงหาความจริง

7.นอกจากนี้แล้ว ในปี 2552 ยังมีการบุกเข้าไปทำลายการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ต พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เม.ย.52

8. ทราบหรือไม่ว่า การชุมนุมของ กปปส. ศูนย์เอราวัณได้สรุปยอดรวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากการชุมนุมทางการเมืองทั้งสิ้นถึง 807 ราย มีบาดเจ็บ 782 ราย และเสียชีวิต 25 รายแต่ไม่เคยมีแกนนำรายใด เอาผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตมาปลุกระดมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเลย

คณะก้าวไกล ควรหยุดหลอกตัวเอง หยุดค้าความขัดแย้ง หยุดเคียดแค้น หยุดจมปลักกับอดีต หยุดความคิดที่จะให้วิถีไทยต้องไปตามตะวันตก หยุดการปลุกระดม เพราะทุกครั้งเมื่อมีการชุมนุม ไม่ว่าฝ่ายใด คนที่สูญเสียและเป็นเหยื่อมากที่สุด ไม่ใช่แกนนำ แต่เป็นประชาชน

#ความจริงที่ตามหา #หยุดเอาประชาชนมาเป็นเหยื่อ



กำลังโหลดความคิดเห็น