ผู้จัดการรายวัน360-ศบค.รายงานป่วยโควิดใหม่ 6 ราย พบเด็ก 6 ขวบติดจากเฝ้าไข้พ่อ ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม น่าห่วงเกาหลีใต้ระบาดหนัก หลังผ่อนคลาย ล่าสุดพบติดเชื้อวันเดียวพุ่ง 35 ราย ต้องตามตัวอีกกว่า 1,500 ราย ส่วนไทยลุ้น 15 พ.ค. เคาะคลายล็อกดาวน์เฟส 2 จำนวน 3 กลุ่ม สมช.แย้มเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลัง 31 พ.ค.หรือไม่ อยู่ที่เหตุและผล ด้านหมอหนุนให้ใช้ต่อ “ศิริราช”เดินหน้าทดลองยาคลอโรควินในคน หลังพบต้านโควิด-19 ได้ ส่วน อภ.เร่งพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์เอง จ่อปิดบางแสนยาว หลังคนเมินเว้นระยะห่าง แห่เที่ยวทะลัก
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า วานนี้ (11 พ.ค.) มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 6 ราย ซึ่งรวมกลุ่มที่รายงานอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2563 จำนวน 4 ราย รักษาหายกลับบ้าน 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ป่วยสะสมรวม 3,015 ราย หายกลับบ้านรวม 2,796 ราย เสียชีวิตรวม 56 ราย เหลือรักษาในโรงพยาบาล (รพ.) 163 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย แบ่งเป็น 1.สัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า 1 ราย คือ เด็กชายไทยอายุ 6 ปี จ.นราธิวาส จากการเฝ้าไข้พ่อ โดยเด็กไม่มีอาการ ก็นำมาตรวจ 2.กลุ่มที่รายงานไม่เป็นทางการ 4 ราย แบ่งเป็นไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย คือ ชายไทยอายุ 19 ปี จ.ภูเก็ต ไปสถานที่ชุมนุมชน ป่วยด้วยอาการไข้ ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว หายใจเหนื่อย วันที่ 5 พ.ค. และกลุ่มอาชีพเสี่ยง 3 ราย คือ ชายไทยอายุ 29 ปี เป็นตำรวจ มีอาการไอ เจ็บคอ เสมหะ ตรวจวันที่ 2 พ.ค. หญิงไทยอายุ 23 ปี พนักงานบริษัท มีการพบลูกค้าบางโอกาส ป่วยอาการไข้ หายใจเหนื่อย วันที่ 2 พ.ค. และหญิงไทยอายุ 29 ปี พนักงานขายของในร้านค้า ป่วยอาการไข้ หายใจเหนื่อย ปวดกล้ามเนื้อ วันที่ 7 พ.ค. มา รพ. และ 3.ค้นหาเชิงรุก จ.ยะลา 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 22 ปี โดยพบมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้ากลับมาจากมาเลเซีย โดยมีน้ำมูก เสมหะ มารักษาวันที่ 1 พ.ค.
เริ่มกังวลจีนกลับมาระบาดซ้ำ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องที่น่าสนใจในต่างประเทศ คือ จีน มีการป่วยพุ่งอีก 17 ราย วันก่อน 14 ราย เป็นตัวเลข 2 หลัก ครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วัน โดยเป็นการติดในประเทศ 12 ราย ส่งผลให้ทางการจีนยกระดับภัยคุกคามจากการระบาดในเมืองซูหลาน มณฑลจี๋หลิน เป็นเสี่ยงสูง ไม่กี่วันหลังประกาศลดระดับภัยคุกคามเป็นเสี่ยงต่ำในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ถือเป็นบทเรียนต่างประเทศที่เราเฝ้าดู ส่วนเกาหลีใต้มีรายงานเพิ่มอีก 35 ราย วันก่อน 34 ราย โดยต้องติดตามถึง 1,500 คน
ส่วนการนำคนไทยกลับบ้าน วันที่ 11 พ.ค. มาจากอินเดีย 219 ราย ญี่ปุ่น 71 ราย วันที่ 12 พ.ค. มาจากรัสเซีย 99 ราย ภูฏาน 1 ราย และสหรัฐฯ 200 ราย ดำเนินการกักกันคนในสถานที่กักตัวของรัฐแล้วรวม 16,331 ราย กลับบ้าน 6,821 ราย เจอป่วย 90 ราย
เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดรอบ 1 เดือน
สื่อต่างประเทศรายงานว่า วานนี้ (11 พ.ค.) หลังจากที่รัฐบาลเกาหลีใต้ ตัดสินใจผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกาหลีใต้ซึ่งถูกยกให้เป็นต้นแบบของโลกด้านการควบคุมโควิด-19 กลับมาพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนอีกครั้งในผับย่านอิแทวอน สถานบันเทิงชื่อดังของกรุงโซล โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 35 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อสูงสุดในรอบ 1 เดือน เพิ่มจากวันที่ 10 พ.ค.2563 ที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ 34 ราย ทำให้ตัวเลขสะสมขยับขึ้นไปอยู่ที่ 10,909 ราย
ทั้งนี้ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายวันต่ำกว่า 15 คนมาตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.2563 และมีบางวันที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศลดลงเป็นศูนย์ ก่อนที่ตัวเลขจะขยับขึ้นเป็น 18 และ 34 รายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับผู้ติดเชื้อใหม่ มี 6 รายที่เป็นเคสนำเข้า ส่วนอีก 29 รายที่เหลือล้วนเชื่อมโยงกับการไปเที่ยวผับทั้งสิ้น โดยต้นเหตุมาจากหนุ่มวัย 29 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 และได้ไปเที่ยวคลับและบาร์ในย่านอิแทวอน เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2563 โดยคาดว่ามีประชาชนกว่า 1,500 คนที่กินดื่มอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับผู้ติดเชื้อรายนี้ โดยหนุ่มรายนี้ มีผลการตรวจไวรัสเป็นบวก ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่รัฐบาลได้ประกาศให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
คลายล็อกเฟส 2 รอ ศบค.เคาะ 15 พ.ค.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การผ่อนปรนกิจการในระยะที่ 2 ยังไม่เป็นข้อสรุปชัดเจนสุดท้าย ซึ่งต้องรอวันที่ 15 พ.ค.2563 ที่จะมีการประชุม ศบค. แต่จะประกาศแบบไม่เป็นทางการไปก่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการไปเตรียมตัว แต่ยังไม่ 100% ส่วนกิจการใดบ้างนั้น เดิมประกาศไว้ 3 กลุ่ม คือ 1.ด้านเศรษฐกิจและดำเนินชีวิตประจำวัน 2.ด้านออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ และ 3.กลุ่มอื่นๆ
สำหรับรายละเอียดด้านเศรษฐกิจและดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ก.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร และร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม ในอาคารสำนักงาน ข.ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ยกเว้นโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส โบว์ลิ่ง สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม และศูนย์พระเครื่องสนามพระ ค.ร้านค้าปลีกค้าส่งอื่นๆ และ ง.ร้านเสริมสวย ย้อมผม ดัดผม หรือกิจการอื่นๆ ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงและร้านทำเล็บ
ด้านออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ เช่น ก.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม คุมน้ำหนัก ข.สนามกีฬา เฉพาะกีฬากลางแจ้ง ตามกติกาสากล เล่นเป็นทีมไม่มีผู้ชม ค.สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์แกลอรี ห้องสมุดสาธารณะ (เข้าเป็นรายคน) และ ง.สถานประกอบการนวดแผนไทย (เฉพาะนวดเท้า)
ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น การประชุม ณ สถานที่ภายในหรือภายนอกองค์กร ลักษณะการบรรยายร่วมกับวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่) ทีมถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โฆษณา ถ่ายแบบ ทำคลิป จำนวนไม่เกิน 5 คน
“เน้นย้ำว่าตรงนี้เป็นร่างที่ต้องมีการประชุมหลายครั้ง และหลายร่างจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ เพราะมีการประชุมหลายฝ่าย ทั้งสาธารณสุข ฝ่ายมั่นคง ผู้ประกอบการ สภาพัฒน์ มีบางรายการเข้าใหม่ เข้าแล้วออกหรือเข้าใหม่อีก คือ ยังไม่นิ่ง แต่ผมสื่อไว้ก่อนว่ามีภาพคร่าวๆ ประมาณนี้ จะดึงความเสี่ยงที่ต่ำก่อนเข้ามา แต่เจ้าของกิจการควรมีเวลาไปทำพื้นที่ที่กล่าวมาทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้ามารับบริการแล้วไม่ติดโรค และท่านเองก็ปลอดโรคจากลูกค้าด้วย”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
จ่อยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหลัง 31 พ.ค.
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ความคิดเห็นที่ได้จากการสำรวจความต้องการของประชาชน เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาใน ศบค. แต่ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือยกเลิกเคอร์ฟิว และต้องดูกิจกรรมที่จะผ่อนปรนในระยะที่ 2 ว่ามีอะไรบ้าง หากยังมีเคอร์ฟิวจะส่งผลกระทบอย่างไร หรือยกเลิกเคอร์ฟิว จะมีผลอะไรตามมา ต้องหารือในภาพรวมที่ประชุม ศบค.อีกครั้ง สักวันก็ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่แล้ว ไม่สามารถใช้ไปตลอดได้ ส่วนจะยกเลิกหลัง 31 พ.ค.นี้หรือไม่ ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ ด้านมาประกอบกัน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมานั่งประเมินกัน และที่สำคัญต้องดูความร่วมมือของประชาชนและสถานประกอบการ รวมถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่รองรับได้ ในขณะที่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และประชาชน ก็เป็นสิ่งมองข้ามไม่ได้
หมอหนุนใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิวต่อ
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวถึงเสียงเรียกร้องให้มีการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว ว่า สถานการณ์ขณะนี้ ยังถือว่ามีความจำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะถ้าไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากเกิดปัญหาจะออกมาตรการเพื่อควบคุมโรคได้ไม่ทันท่วงที จึงควรคงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าโรคสงบแล้วจริงๆ
ศิริราชพบยาคลอโรควินความหวังสู้โควิด-19
ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล หรือ SICRES กล่าวว่า ยาคลอโรควิน (chloroquine) ซึ่งเป็นยารักษามาลาเรียมากว่า 70 ปี พบว่ามีความปลอดภัยสูง และกลายเป็นหนึ่งในตัวยาแห่งความหวังที่นำมาปรับใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 หลังจากมีการศึกษาในหลอดทดลองแล้ว สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ และมีการศึกษาเบื้องต้นยืนยันประสิทธิภาพในคน แต่ประสิทธิผลที่แน่ชัดในคนกำลังมีการศึกษาอยู่ โดยหากทราบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ก็จะรีบไปเชิญสมาชิกในบ้านที่ยังไม่ป่วยให้เข้ามาร่วมศึกษา หากได้ผลดี ไม่เพียงแต่คนไทยจะได้ประโยชน์ แต่มวลมนุษยชาติจะได้ด้วย และสามารถเข้าถึงยาราคาถูกได้
อภ.เร่งพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์
ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ได้วางแผนบริหารจัดการเพื่อให้มียายาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอต่อความต้องการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ โดยจะมีการนำเข้าอีก 3 แสนเม็ดในเดือนพ.ค.นี้ และจะเร่งพัฒนายาควบคู่กันไป โดยจะซื้อวัตถุดิบจากจีนมาใช้ทดลองผลิต คาดว่าภายใน 1 ปี จะพร้อมขึ้นทะเบียน รวมทั้งได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดำเนินการสังเคราะห์วัตถุดิบยาเอง น่าจะผลิตได้ในเดือนมิ.ย.2564 ส่วนเรื่องสิทธิบัตร อาจต้องเจรจากับเจ้าของสิทธิ์ เพื่อให้สามารถผลิตและจำหน่ายได้
บางแสนส่อปิดยาวหลังคนแห่เที่ยวทะลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเดินทางมายัง จ.ชลบุรี ของนักท่องเที่ยวและประชาชนในช่วงวันหยุดพืชมงคล ว่า ตั้งแต่บริเวณชายหาดบางแสน ชายหาดแหลมแท่น เรื่อยไปจนถึงจุดชมวิวเขาสามมุข ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี มีรถยนต์จำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณจุดชมวิวเขาสามมุข เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พากันมานั่งพักผ่อนและถ่ายภาพ เนื่องจากชายหาดบางแสน ยังไม่อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่
เพจเฟซบุ๊ก ณรงชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองแสนสุข ได้ตัดพ้อถึงความไม่มีวินัยของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ไม่ให้ความร่วมมือในการลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 แต่ยังคงเห็นแก่ความสุขส่วนตัวว่า เนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนทำให้ไม่สามารถควบคุมผู้ฝ่าฝืนกฎได้ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงของการกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งของโควิด-19 ซึ่งในเบื้องต้น เทศบาลเมืองแสนสุขจะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อจังหวัดชลบุรี และหากสุดท้ายยังคงไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติตามกฎต่างๆ ก็อาจมีความจำเป็นต้องปิดถนนอีกครั้ง
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า วานนี้ (11 พ.ค.) มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 6 ราย ซึ่งรวมกลุ่มที่รายงานอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2563 จำนวน 4 ราย รักษาหายกลับบ้าน 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ป่วยสะสมรวม 3,015 ราย หายกลับบ้านรวม 2,796 ราย เสียชีวิตรวม 56 ราย เหลือรักษาในโรงพยาบาล (รพ.) 163 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย แบ่งเป็น 1.สัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า 1 ราย คือ เด็กชายไทยอายุ 6 ปี จ.นราธิวาส จากการเฝ้าไข้พ่อ โดยเด็กไม่มีอาการ ก็นำมาตรวจ 2.กลุ่มที่รายงานไม่เป็นทางการ 4 ราย แบ่งเป็นไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย คือ ชายไทยอายุ 19 ปี จ.ภูเก็ต ไปสถานที่ชุมนุมชน ป่วยด้วยอาการไข้ ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว หายใจเหนื่อย วันที่ 5 พ.ค. และกลุ่มอาชีพเสี่ยง 3 ราย คือ ชายไทยอายุ 29 ปี เป็นตำรวจ มีอาการไอ เจ็บคอ เสมหะ ตรวจวันที่ 2 พ.ค. หญิงไทยอายุ 23 ปี พนักงานบริษัท มีการพบลูกค้าบางโอกาส ป่วยอาการไข้ หายใจเหนื่อย วันที่ 2 พ.ค. และหญิงไทยอายุ 29 ปี พนักงานขายของในร้านค้า ป่วยอาการไข้ หายใจเหนื่อย ปวดกล้ามเนื้อ วันที่ 7 พ.ค. มา รพ. และ 3.ค้นหาเชิงรุก จ.ยะลา 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 22 ปี โดยพบมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้ากลับมาจากมาเลเซีย โดยมีน้ำมูก เสมหะ มารักษาวันที่ 1 พ.ค.
เริ่มกังวลจีนกลับมาระบาดซ้ำ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องที่น่าสนใจในต่างประเทศ คือ จีน มีการป่วยพุ่งอีก 17 ราย วันก่อน 14 ราย เป็นตัวเลข 2 หลัก ครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วัน โดยเป็นการติดในประเทศ 12 ราย ส่งผลให้ทางการจีนยกระดับภัยคุกคามจากการระบาดในเมืองซูหลาน มณฑลจี๋หลิน เป็นเสี่ยงสูง ไม่กี่วันหลังประกาศลดระดับภัยคุกคามเป็นเสี่ยงต่ำในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ถือเป็นบทเรียนต่างประเทศที่เราเฝ้าดู ส่วนเกาหลีใต้มีรายงานเพิ่มอีก 35 ราย วันก่อน 34 ราย โดยต้องติดตามถึง 1,500 คน
ส่วนการนำคนไทยกลับบ้าน วันที่ 11 พ.ค. มาจากอินเดีย 219 ราย ญี่ปุ่น 71 ราย วันที่ 12 พ.ค. มาจากรัสเซีย 99 ราย ภูฏาน 1 ราย และสหรัฐฯ 200 ราย ดำเนินการกักกันคนในสถานที่กักตัวของรัฐแล้วรวม 16,331 ราย กลับบ้าน 6,821 ราย เจอป่วย 90 ราย
เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดรอบ 1 เดือน
สื่อต่างประเทศรายงานว่า วานนี้ (11 พ.ค.) หลังจากที่รัฐบาลเกาหลีใต้ ตัดสินใจผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกาหลีใต้ซึ่งถูกยกให้เป็นต้นแบบของโลกด้านการควบคุมโควิด-19 กลับมาพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนอีกครั้งในผับย่านอิแทวอน สถานบันเทิงชื่อดังของกรุงโซล โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 35 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อสูงสุดในรอบ 1 เดือน เพิ่มจากวันที่ 10 พ.ค.2563 ที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ 34 ราย ทำให้ตัวเลขสะสมขยับขึ้นไปอยู่ที่ 10,909 ราย
ทั้งนี้ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายวันต่ำกว่า 15 คนมาตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.2563 และมีบางวันที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศลดลงเป็นศูนย์ ก่อนที่ตัวเลขจะขยับขึ้นเป็น 18 และ 34 รายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับผู้ติดเชื้อใหม่ มี 6 รายที่เป็นเคสนำเข้า ส่วนอีก 29 รายที่เหลือล้วนเชื่อมโยงกับการไปเที่ยวผับทั้งสิ้น โดยต้นเหตุมาจากหนุ่มวัย 29 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 และได้ไปเที่ยวคลับและบาร์ในย่านอิแทวอน เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2563 โดยคาดว่ามีประชาชนกว่า 1,500 คนที่กินดื่มอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับผู้ติดเชื้อรายนี้ โดยหนุ่มรายนี้ มีผลการตรวจไวรัสเป็นบวก ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่รัฐบาลได้ประกาศให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
คลายล็อกเฟส 2 รอ ศบค.เคาะ 15 พ.ค.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การผ่อนปรนกิจการในระยะที่ 2 ยังไม่เป็นข้อสรุปชัดเจนสุดท้าย ซึ่งต้องรอวันที่ 15 พ.ค.2563 ที่จะมีการประชุม ศบค. แต่จะประกาศแบบไม่เป็นทางการไปก่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการไปเตรียมตัว แต่ยังไม่ 100% ส่วนกิจการใดบ้างนั้น เดิมประกาศไว้ 3 กลุ่ม คือ 1.ด้านเศรษฐกิจและดำเนินชีวิตประจำวัน 2.ด้านออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ และ 3.กลุ่มอื่นๆ
สำหรับรายละเอียดด้านเศรษฐกิจและดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ก.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร และร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม ในอาคารสำนักงาน ข.ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ยกเว้นโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส โบว์ลิ่ง สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม และศูนย์พระเครื่องสนามพระ ค.ร้านค้าปลีกค้าส่งอื่นๆ และ ง.ร้านเสริมสวย ย้อมผม ดัดผม หรือกิจการอื่นๆ ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงและร้านทำเล็บ
ด้านออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ เช่น ก.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม คุมน้ำหนัก ข.สนามกีฬา เฉพาะกีฬากลางแจ้ง ตามกติกาสากล เล่นเป็นทีมไม่มีผู้ชม ค.สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์แกลอรี ห้องสมุดสาธารณะ (เข้าเป็นรายคน) และ ง.สถานประกอบการนวดแผนไทย (เฉพาะนวดเท้า)
ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น การประชุม ณ สถานที่ภายในหรือภายนอกองค์กร ลักษณะการบรรยายร่วมกับวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่) ทีมถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โฆษณา ถ่ายแบบ ทำคลิป จำนวนไม่เกิน 5 คน
“เน้นย้ำว่าตรงนี้เป็นร่างที่ต้องมีการประชุมหลายครั้ง และหลายร่างจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ เพราะมีการประชุมหลายฝ่าย ทั้งสาธารณสุข ฝ่ายมั่นคง ผู้ประกอบการ สภาพัฒน์ มีบางรายการเข้าใหม่ เข้าแล้วออกหรือเข้าใหม่อีก คือ ยังไม่นิ่ง แต่ผมสื่อไว้ก่อนว่ามีภาพคร่าวๆ ประมาณนี้ จะดึงความเสี่ยงที่ต่ำก่อนเข้ามา แต่เจ้าของกิจการควรมีเวลาไปทำพื้นที่ที่กล่าวมาทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้ามารับบริการแล้วไม่ติดโรค และท่านเองก็ปลอดโรคจากลูกค้าด้วย”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
จ่อยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหลัง 31 พ.ค.
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ความคิดเห็นที่ได้จากการสำรวจความต้องการของประชาชน เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาใน ศบค. แต่ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือยกเลิกเคอร์ฟิว และต้องดูกิจกรรมที่จะผ่อนปรนในระยะที่ 2 ว่ามีอะไรบ้าง หากยังมีเคอร์ฟิวจะส่งผลกระทบอย่างไร หรือยกเลิกเคอร์ฟิว จะมีผลอะไรตามมา ต้องหารือในภาพรวมที่ประชุม ศบค.อีกครั้ง สักวันก็ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่แล้ว ไม่สามารถใช้ไปตลอดได้ ส่วนจะยกเลิกหลัง 31 พ.ค.นี้หรือไม่ ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ ด้านมาประกอบกัน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมานั่งประเมินกัน และที่สำคัญต้องดูความร่วมมือของประชาชนและสถานประกอบการ รวมถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่รองรับได้ ในขณะที่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และประชาชน ก็เป็นสิ่งมองข้ามไม่ได้
หมอหนุนใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิวต่อ
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวถึงเสียงเรียกร้องให้มีการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว ว่า สถานการณ์ขณะนี้ ยังถือว่ามีความจำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะถ้าไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากเกิดปัญหาจะออกมาตรการเพื่อควบคุมโรคได้ไม่ทันท่วงที จึงควรคงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าโรคสงบแล้วจริงๆ
ศิริราชพบยาคลอโรควินความหวังสู้โควิด-19
ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล หรือ SICRES กล่าวว่า ยาคลอโรควิน (chloroquine) ซึ่งเป็นยารักษามาลาเรียมากว่า 70 ปี พบว่ามีความปลอดภัยสูง และกลายเป็นหนึ่งในตัวยาแห่งความหวังที่นำมาปรับใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 หลังจากมีการศึกษาในหลอดทดลองแล้ว สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ และมีการศึกษาเบื้องต้นยืนยันประสิทธิภาพในคน แต่ประสิทธิผลที่แน่ชัดในคนกำลังมีการศึกษาอยู่ โดยหากทราบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ก็จะรีบไปเชิญสมาชิกในบ้านที่ยังไม่ป่วยให้เข้ามาร่วมศึกษา หากได้ผลดี ไม่เพียงแต่คนไทยจะได้ประโยชน์ แต่มวลมนุษยชาติจะได้ด้วย และสามารถเข้าถึงยาราคาถูกได้
อภ.เร่งพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์
ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ได้วางแผนบริหารจัดการเพื่อให้มียายาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอต่อความต้องการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ โดยจะมีการนำเข้าอีก 3 แสนเม็ดในเดือนพ.ค.นี้ และจะเร่งพัฒนายาควบคู่กันไป โดยจะซื้อวัตถุดิบจากจีนมาใช้ทดลองผลิต คาดว่าภายใน 1 ปี จะพร้อมขึ้นทะเบียน รวมทั้งได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดำเนินการสังเคราะห์วัตถุดิบยาเอง น่าจะผลิตได้ในเดือนมิ.ย.2564 ส่วนเรื่องสิทธิบัตร อาจต้องเจรจากับเจ้าของสิทธิ์ เพื่อให้สามารถผลิตและจำหน่ายได้
บางแสนส่อปิดยาวหลังคนแห่เที่ยวทะลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเดินทางมายัง จ.ชลบุรี ของนักท่องเที่ยวและประชาชนในช่วงวันหยุดพืชมงคล ว่า ตั้งแต่บริเวณชายหาดบางแสน ชายหาดแหลมแท่น เรื่อยไปจนถึงจุดชมวิวเขาสามมุข ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี มีรถยนต์จำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณจุดชมวิวเขาสามมุข เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พากันมานั่งพักผ่อนและถ่ายภาพ เนื่องจากชายหาดบางแสน ยังไม่อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่
เพจเฟซบุ๊ก ณรงชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองแสนสุข ได้ตัดพ้อถึงความไม่มีวินัยของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ไม่ให้ความร่วมมือในการลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 แต่ยังคงเห็นแก่ความสุขส่วนตัวว่า เนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนทำให้ไม่สามารถควบคุมผู้ฝ่าฝืนกฎได้ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงของการกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งของโควิด-19 ซึ่งในเบื้องต้น เทศบาลเมืองแสนสุขจะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อจังหวัดชลบุรี และหากสุดท้ายยังคงไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติตามกฎต่างๆ ก็อาจมีความจำเป็นต้องปิดถนนอีกครั้ง