xs
xsm
sm
md
lg

โคโรนาไวรัส...เชื้อตัดกิเลส

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์



จากนี้ไป การดำรงชีวิตของคนทั้งโลกจะไม่เหมือนเดิมโดยการจำกัดของการระบาดโดยเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ตามความคาดหมายของผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ ซึ่งกำลังเรียนรู้ว่าเชื้อตัวนี้มีศักยภาพเพียงใด สามารถกลายพันธุ์ต่อเนื่อง กำจัดได้ยาก ใช่หรือไม่

ทุกคนต่างรับรู้การกำเนิดของสายพันธุ์นี้ด้วยกัน หลังจากเริ่มต้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หรือจะมีก่อนหน้านี้เพราะห้องทดลองในสหรัฐฯ รั่ว ตามข้อกล่าวหาของจีน และไประบาดในอู่ฮั่นช่วงการแข่งขันกีฬาทหาร หรือไม่ ก็ยังต้องใช้เวลาค้นหาความจริง

และความจริงที่เป็นความจริง อาจจะไม่มีการเปิดเผย เว้นแต่ผู้รู้จริง ชาวบ้านทั่วไปเพียงแต่รับรู้ตามข่าวสารที่สื่อต่างๆ นำเสนอ เผชิญผลพวงกับเหตุที่เป็นอยู่ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เจ็บป่วย จะหายหรือเสียชีวิตขึ้นอยู่กับสุขภาพ การเข้าถึงการรักษา

และเริ่มมีผู้ยอมรับแล้วว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 จะอยู่กับมนุษย์ในรูปแบบของมาๆ หายๆ เป็นโรคระบาดประจำฤดูกาล หรือยาวนาน เหมือนไข้หวัดใหญ่ แม้จะมีวัคซีนฉีดป้องกัน ยารักษา ต้องพร้อมรับการกลายพันธุ์ และคิดค้นยาใหม่ๆ

ที่แน่ๆ คือมนุษย์จะใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็นมา ไม่ได้แล้ว ถ้าอยากจะทำ ก็ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อและเสียชีวิต ต่อให้มียารักษา ไม่ต่างจากไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก และเชื้อโรคอื่นๆ มีผู้เสียชีวิต เห็นได้ชัดคือไข้หวัดใหญ่มีคนป่วยกว่า 25 ล้านคนในสหรัฐฯ ปี 2019

เพียงแค่กว่า 5 เดือนโคโรนาไวรัสได้แสดงผลร้ายต่อมนุษย์ อย่างที่ไม่เคยมีอะไร หรือใครทำให้มาก่อน สงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่สร้างผลกระทบต่อชีวิตคนด้านความหวาดกลัว ความเป็นอยู่เหมือนโควิด-19 ถึงขั้นหยุดกิจกรรมเกือบทุกอย่างของมนุษย์

พลังของระบบเศรษฐกิจทุกประเภท โดยเฉพาะทุนนิยมเสรี เดี้ยงโดยไม่มีทางต่อกรได้ ธุรกิจการบิน โรงแรม อุตสาหกรรม แทบทุกอย่าง ไร้พลังต่อสู้ บริษัทยิ่งใหญ่เพียงใด นักธุรกิจมั่งคั่ง กิจการครอบคลุมทรงอิทธิพลทั้งโลก ต้องสยบต่อศัตรูไร้สภาพ

ผู้นำชาติมหาอำนาจกลายเป็นคนไร้ความสามารถ ประชาชนติดเชื้อตายเป็นเบือ และยังหาทางเอาชนะไม่ได้ โควิด-19 เป็นเหมือนอาวุธที่โลกผลิตมาเพื่อการตอบโต้มนุษย์ซึ่งได้ล้างผลาญทรัพยากรต่างๆ ใช้ประโยชน์อย่างไม่ยั้งคิด จนโลกเสียความสมดุล

เมื่อธรรมชาติถูกทำลาย เกิดภัยพิบัติทุกประเภท มีปัญหาโลกร้อน มนุษย์ยังไม่สำนึก ยังคิดอาวุธเพื่อรบราฆ่าฟันกัน ทำลายกันด้วยระบบเศรษฐกิจ ใช้พลังเงินครอบงำ ทำให้มนุษย์ด้วยกันเป็นทาสเงิน คนด้อยโอกาสอยู่ในสภาวะอดอยาก มีทุกข์ไม่สิ้นสุด

โควิด-19 สามารถหยุดสงครามได้ระยะหนึ่ง หยุดกิจกรรมทำลายสิ่งแวดล้อม ยานบินต่างๆ ในท้องฟ้า บนถนน และในน้ำ ต้องหยุดกิจการ ธรรมชาติได้มีโอกาสเยียวยาตัวเองเพื่อฟื้นฟู แม้จะทำได้เพียงชั่วคราว มนุษย์ยังไม่สำนึก ยังต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอด

โควิด-19 ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามนุษย์เก่งทุกด้าน ไปถึงห้วงลึกของอวกาศ แต่ไม่สามารถรับมือกับศัตรูที่มองไม่เห็น เมื่อยังไม่มีทางต่อสู้ได้ จำเป็นต้องปรับตัวเองเพื่อความอยู่รอด ซึ่งก็เป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ และเป็นวิธีที่ต้องการเอาชนะ

ที่ผ่านมา ก็เอาชนะธรรมชาติได้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นศึกหนักหนาสาหัส คนมีเดิมพันสูง ต้นทุนสูงในการดำรงชีวิต ต้องจ่ายด้วยราคาแพง เศรษฐีต้องลดความมั่งคั่ง

อันที่จริง โคโรนาไวรัส ไม่ได้มีเงื่อนไข เรียกร้องอะไรมากนัก เพียงแค่ให้มนุษย์หยุดยั้งกิจกรรมที่เคยใช้ชีวิตที่เป็นมา ปรับรูปแบบใหม่ ดูแลตัวเอง รักษาความสะอาดสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมือ อย่ามั่วสุม ระวังการบริโภค ก็สามารถอยู่ได้

มองจากนี้ไป ถ้าโคโรนาไวรัสยังมาๆ ไปๆ ธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวอย่างมาก การเดินทางในรูปแบบต่างๆ จะไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะการบิน ซึ่งธุรกิจนี้จะอยู่รอดหรือไม่เพราะสายการบินต่างๆ ใกล้ล้มละลายเพราะขาดรายได้ บริษัทผลิตเครื่องบินก็เสียหาย

คนทั่วไปจะกินอยู่ก็ต้องระวัง งานเลี้ยง งานสังคม หรือบันเทิงเช่นคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ สนามกีฬา หรืองานเลี้ยงธรรมดาระหว่างเพื่อนฝูง ก็จะไม่เหมือนเดิม ธุรกิจอาบอบนวด หรือที่เกี่ยวพันกับการสัมผัสตัวตน การนั่งร้องคาราโอเกะ สาวนั่งดริงก์ อาจไม่มีอีก

แม้กระทั่งการสัมผัส จับมือ กอดรัด ตามสไตล์ฝรั่งหรืออาหรับ ก็ต้องระวัง วงเหล้าที่ให้เด็กชงเหล้าใช้ไม้คนแก้วเดียวกัน จะเป็นสิ่งที่ดูแล้วน่าสยดสยอง เพราะการติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นพาหะหรือไม่ แม้คนในครอบครัวเดียวกันก็ไม่รู้

นี่ไม่ใช่ New Normal แต่เป็นกฎเกณฑ์ใหม่ของการดำรงชีวิตในสังคมรูปแบบใหม่กำหนดโดยโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เว้นแต่จะกล้าเสี่ยงติดเชื้อและความตาย เพราะอันตรายกว่าการติดเชื้อเอดส์ ซึ่งทุกวันนี้คนเริ่มไม่กลัวแล้ว

ในบ้านเรา ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร รัฐบาลเริ่มตระหนักแล้วว่าระบบเศรษฐกิจพอเพียงคือเกราะป้องกันภัยเศรษฐกิจอย่างดี ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีต่อระบบทุนนิยมซึ่งไม่มีหนทางต่อต้านได้ และความเสียหายที่เกิดขึ้น ต้องใช้ความเป็นหนี้สินเพื่อแก้ไข

เท่ากับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มพันธะผูกพัน เป็นหนี้สินใหม่ และต้องใช้ความพยายามในระบบทุนนิยมเพื่อปลดเปลื้องข้อผูกมัด อันเนื่องมาจากความไม่รู้จักพอใจกลายเป็นความโลภ การแข่งขันถึงขั้นต้องผลิตอาวุธเพื่อเข่นฆ่าหวังเป็นผู้ชนะ

ความไม่รู้จักพอ ความอหังการของมนุษย์ ทำให้โลกต้องสร้างเชื้อโรคนี้มาเตือนว่าถ้ายังไม่เลิกกิจกรรมที่เคยทำ ก็ต้องรอรับผลพวงที่จะตามมาในรูปแบบอื่นๆ เช่นเชื้อโรคใหม่ แต่มาถึงขั้นนี้คนบ้านเราถ้าคิดได้ คงต้องวางรูปแบบใหม่เพื่อให้อยู่รอดแบบยั่งยืน

เป้าหมายของแต่ละชีวิตไม่มีอะไรมากกว่าสิ่งที่จำเป็นด้านพื้นฐาน และสำคัญที่สุดคือสุขภาพ อยู่รอดได้เพียงแค่ให้มีอาหารรับประทานครบ 3 มื้อในแต่ละวัน มีรายได้พออยู่ได้ ไม่ลำบาก ไม่มีหนี้สิน เห็นชัดแล้วว่ามหาเศรษฐีหนี้หลายแสนล้านบาทมีทุกข์หนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น