‘ทรัมป์’ สิ้นท่า หาแพะรับบาป

ผู้นำสหรัฐฯ จอมห้าว โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดแนวรบใหม่ จ้องหามาตรการเล่นงานจีนกล่าวหาว่ารัฐบาลปักกิ่งตั้งใจปกปิดความเลวร้ายการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ อ้างว่าผู้นำจีนรู้ ไม่บอกชาวโลก กักตุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ไว้และลดการส่งออก

ทรัมป์ใช้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเป็นหัวหอกเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องนี้ ด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรง เป็นครั้งแรกที่ประเทศหนึ่งกล่าวหาอีกประเทศหนึ่งในเรื่องวิกฤตโรคระบาด และไม่ใช่เป็นสงครามเชื้อโรค ที่หลายประเทศพัฒนาได้เพาะเชื้อกักเก็บไว้

ความแค้นของทรัมป์เป็นเพราะเห็นว่าการระบาดเกิดขึ้นในจีนก็จริง แต่รัฐบาลจีนใช้มาตรการเด็ดขาด ปิดเมือง ปิดประเทศ ทำให้หยุดการระบาด และการเสียชีวิตได้ แต่หลายประเทศได้แซงหน้าจีนทั้งการติดเชื้อ จำนวนคนเสียชีวิต ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป

มาตรการทรัมป์นั้นมีทั้งรูปแบบเดิมๆ เช่น กำแพงภาษี กฎเกณฑ์การค้า และที่แสบที่สุดคือ อาจหาเรื่อง “เบี้ยวหนี้” ที่สหรัฐฯ เป็นหนี้จีนกว่า 1.09 ล้านล้านดอลลาร์ในรูปแบบพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งจีนถือครองอยู่ และเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด

ถ้าสหรัฐฯ ตัดสินใจ “เบี้ยวหนี้ ชักดาบ” ซึ่งหน้าด้วยการหาเรื่องแบบนี้ น่าจะเป็นตัวอย่างให้เกิดกระแส “ชักดาบ” กันทั่วโลก เศรษฐกิจล่มสลาย ต้องเริ่มต้นกันใหม่ และกำลังเข้าทางจีน ซึ่งได้ซุ่มทำ “เงินหยวนดิจิทัล” เพื่อตัดขาดจากดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งจีนและหลายประเทศทั่วโลกมองว่าสหรัฐฯ มีหนี้สินมากเกินไปถึง 25 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งชาตินี้ก็ไม่มีวันใช้คืนได้ มีแต่จะพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ออกมาโดยไม่มีทองคำหรือทรัพย์สินอื่นๆ รองรับเป็นฐาน สักวันหนึ่งเงินดอลลาร์ก็จะไร้ค่าเหมือนแบงก์กงเต๊ก

จีน รัสเซีย และยุโรปบางประเทศ พยายามไม่ยึดติดกับดอลลาร์ สะสมทองคำเข้าคลังเพราะเป็นทรัพย์สินประเภทเดียวที่ไม่ด้อยค่ามาตั้งแต่ยุคโบราณ ขณะที่ทองคำสำรองของสหรัฐฯ ไม่มีจำนวนเพิ่ม หลายประเทศที่เอาไปฝากไว้บ่นว่าเบิกถอนได้ล่าช้า

เห็นได้ชัดว่าทรัมป์กำลังเลือดเข้าตาเหมือนไก่ชนโดนเดือย ทั้งมึนทั้งงง เพราะตัวเลขคนติดเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ มากเกือบจะ 1.2 ล้าน ตัวเลขคนเสียชีวิตใกล้ถึง 7 หมื่นราย เกิดในช่วงเวลาไม่ถึง 5 เดือน และตัวเลขยังเพิ่มอยู่ต่อเนื่อง หาทางออกไม่ได้

ทรัมป์กังวลอย่างหนักคือ การสิ้นสภาพในการสกัดการระบาดของเชื้อโรคจะทำให้ตัวเองพ่ายแพ้การเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่ 2 แต่คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต โจ ไบเดน มีปัญหาสะดุดขาตัวเองด้วยข้อกล่าวล่วงละเมิดทางเพศหญิงหลายปีก่อนโน้น

ดังนั้นทรัมป์และพวกคนใกล้ชิด คือ รัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ ปอมเปโอ และรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ จึงพยายามประโคมข่าวว่าจีนเป็นตัวการ เป็นต้นตอของการระบาดที่เมืองอู่ฮั่น ปกปิดข้อมูล กักตุนอุปกรณ์การแพทย์เพื่อใช้เอง ลดการส่งออก

ทั้งยังอ้างว่าจีนได้ปรับระบบการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่มีฐานการผลิตเพียงพอ ทำให้รับสถานการณ์ได้ช้า ทั้งสหรัฐฯ และยุโรปมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นความสามารถต่ำในการตั้งรับวิกฤตเชื้อโรคระบาด

สหรัฐฯ ยังกล่าวหาว่าจีนพยายามปกปิดความผิดด้วยการช่วยเหลือประเทศอื่นๆ

ทรัมป์อ้างว่ามีหลักฐานชัด “โดยไม่สามารถพิสูจน์ได้” ว่าจีนเป็นต้นตอของการระบาดและปกปิดข้อมูล และยังโน้มนำให้องค์การอนามัยโลกเชื่อว่าจีนสามารถจัดการปัญหาได้ดี และข้อมูลหน่วยข่าวกรองต่างๆ ระบุว่าเป็นเชื้อธรรมชาติไม่ใช่ฝีมือมนุษย์

แต่ทรัมป์สั่งพยายามให้หน่วยข่าวกรองต่างๆ เร่งหาข้อมูลเพื่อชี้ให้เห็นว่าข้อกล่าวหาของตัวเองว่าจีนเป็นตัวการ ห้องแล็บในอู่ฮั่นรั่ว ทำให้เชื้อระบาด หวังจะเล่นงานจีนให้ได้ ทั้ง ปอมเปโอ และเพนซ์ และที่ปรึกษาใกล้ชิดทรัมป์ก็มุ่งเน้นประเด็นนี้ด้วยกัน

ออสเตรเลีย และยุโรปบางประเทศเริ่มรับลูกสหรัฐฯ อ้างว่าองค์การอนามัยโลกต้องมีการสอบสวนอย่างเปิดเผยว่าจีนเป็นต้นตอการระบาดและปกปิดข้อมูลเรื่องการระบาด

เพราะถ้าทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้ง พวกนี้ก็จะหมดอนาคตตามไปด้วย และที่ทรัมป์กลัวอย่างมากก็คือการถูกรื้อฟื้นเรื่องราวต่างๆ ที่เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดกฎหมาย สร้างความเสียหาย ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ

ยุโรปหลายประเทศที่มีการติดเชื้อระดับแสนๆ และคนตายกว่า 2 หมื่นรายในแต่ละแห่งก็พยายามหาเรื่องจีน เพราะกลบเกลื่อนการไร้ประสิทธิภาพและความล้มเหลวในการจัดการวิกฤต ทำให้เศรษฐกิจเสียหายอย่างมหาศาล ต้องใช้เงินอุ้มกิจการต่างๆ

ก่อนหน้านั้นทรัมป์ชื่นชมจีนอย่างเปิดเผยว่าสามารถจัดการวิกฤตไวรัสได้ และตัวเองให้ความมั่นใจคนอเมริกันว่าไม่มีปัญหา ควบคุมอยู่ หลังจากการระบาดเกิดขึ้นในสหรัฐฯ จากคนติดเชื้อไม่กี่คนจนมีมากกว่า 1 ล้านคน และครองอันดับหนึ่งไม่มีใครแซงได้

ทรัมป์ไม่แสดงความรับผิดชอบ ปกปิดความไม่เอาไหนของตนเองด้วยการเบี่ยงเบนเรื่องให้พ้นจากตัวเอง ยุยงให้คนอเมริกันไม่ยอมรับคำสั่งปิดล็อกของผู้ว่าการมลรัฐต่างๆ โดยเฉพาะที่ผู้ว่าการฯ สังกัดพรรคเดโมแครต อ้างสิทธิพลเมือง ประชาธิปไตย

แพทย์และผู้เชี่ยวชาญต่างเตือนว่าถ้าการเปิดเมืองก่อนเวลาอันควร ทั้งๆ ที่ยังคุมไม่ได้ ยาที่เพิ่งใช้อยู่ก็ไม่มีพอ ถ้าเกิดการระบาดรอบใหม่ จะเป็นการยากในการรับมือขณะที่การขาดแคลนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ยังไม่ได้รับการแก้ไข ศพยังเผาไม่ทัน

คนว่างงานในสหรัฐฯ มีมากกว่า 30 ล้านคน และยังเพิ่มไม่หยุด เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในระยะสั้น บริษัทน้ำมันและกิจการขนาดใหญ่เสี่ยงต่อการล้มละลาย รัฐบาลต้องอัดฉีดเงินมหาศาลทุกระดับ ความอดอยากกระจายไปทั่วคนอเมริกันที่รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง

คนป่วยและตายส่วนใหญ่เป็นคนผิวสี คนผิวขาวฝรั่งเป็นส่วนน้อย เกิดข้อกล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติ และทรัมป์ไม่ต้องการให้วิกฤตนี้ดับอนาคตทางการเมืองของตนเพราะคนอเมริกันส่วนใหญ่ ยกเว้นกองเชียร์ทรัมป์ รู้แล้วว่าผู้นำประเทศเป็นคนใช้ไม่ได้ ดีแต่โม้